เกล็ดน่ารู้สองสามอย่าง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีทั่วประเทศวันนี้ เบื้องต้นก็คือมีการซื้อเสียงโจ๋งครึ่ม ขนาดตำรวจไล่จับหัวคะแนนรายหนึ่งที่เมืองนนท์ ได้ตัวละม่อม อีกอย่างมีการ ‘ช่วยหาเสียง’ ข้ามพรรคด้วยนะ
เรื่องแรกผิดกฎหมาย ชุดตำรวจสืบสวนภูธรและตำรวจ กกต. ขับรถไล่จับชายวัย ๒๕ ปี ได้หลักฐานของกลาง เงินสด ๑,๒๐๐ บาท รายชื่อบุคคลจำนวน ๙๒ ชื่อ บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาเติม จึงตั้งข้อหาความผิดทั้ง พรบ.เลือกตั้ง และพรบ.ศุลกากร
ผู้ต้องหาให้การว่า ตนเป็นหัวคะแนนของผู้สมัครนายกเทศบาลนครรายหนึ่ง รับงานแจกเงินซื้อเสียงหัวละ ๓๐๐ บาท และได้ค่าตอบแทน ๕๐ บาทต่อราย ‘ข่าวสด’ บอกว่าจับกุมเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า และขยายผลมายังเรื่องการใช้เงินซื้อเสียง
อีกเรื่องที่เมืองนนท์เหมือนกัน Thanapol Eawsakul เขียนถึงผู้สมัครนายกเทศมนตรีของนนทบุรีคนหนึ่ง ซึ่งดำรงตำแหน่งนี้ติดต่อกันมา ๔๑ ปีแล้ว (นานที่สุดในโลก) สมนึก ธนเดชากุล ในวัย ๘๐ ปี ลงสมัครต่ออีก ๑ สมัย ด้วยสโลแกน “นายกเทศมนตรีตลอดกาล”
ธนาพลบอกว่าเขามาอยู่นนทบุรีตั้งแต่ปี ๒๕๓๑ สมนึกเป็นนายกฯ เล็กเมืองนนท์มาแล้ว ๔ ปี ปีนี้ถ้าเขาได้รับเลือกอีกสมัย ก็จะเป็นนายกฯ ครบ ๔๕ ปี และอายุ ๘๔ ปี ฉะนั้นเขาขอใช้โอกาสวันเลือกตั้งนี้ “ส่งคุณสมนึก ธนเดชากุล เข้านอน”
เรื่องสุดท้าย เหตุเกิดที่นนทบุรีเช่นกัน กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม แจ้งถอดเสื้อสังกัดพรรคชั่วคราว เพื่อไปเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับ วุฒิไกร กลางทอง ผู้สมัครพรรคประชาชน ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นสวนกุหลาบมาด้วยกัน
กัณวีร์ชี้แจงว่า “ได้แจ้งชื่อต่อ กกต.แล้ว และแจ้งทางพรรคเป็นธรรมรับทราบแล้ว ซึ่งไม่ได้ผิดกฏหมายอะไร เพราะมาช่วยเป็นการส่วนตัว...นอกจากมาช่วยเพื่อนแล้ว พรรคประชาชนก็เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทางการเมืองกันอยู่”
เรื่องสำคัญสำหรับเขา “คิดว่า การเมืองท้องถิ่น เป็นรากฐานสำคัญของการเมืองระดับชาติ ถ้าเราต้องการความเปลี่ยนแปลงในระดับชาติ เราต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงในท้องถิ่นให้ได้เสียก่อน”