วันจันทร์, พฤษภาคม 05, 2568

ปรัชญาทางกฎหมายตั้งแต่ยุค กรีก-โรมัน หรือ จะสู้ กฏหมายไทย.. ปลาไหลยังผางหน่ายเลย


Jua Rattanapan
May 2
·
กฎหมายห้ามฟ้องซ้ำ,ลงโทษซ้ำ,และห้ามบังคับโทษซ้ำในคดีเดียวกัน
กรณี สทร.ทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ถ้าพิสูจน์ได้ว่าตนป่วยจริงไม่ป่วยทิพย์ ทุกอย่างจบลงด้วยความสงบ
………………………………….
มีหลักปรัชญาทางกฎหมายมาแต่ยุค กรีก-โรมัน ว่า
1
non bis in idem หรือหลัก Double jeopardy
“บุคคลจะไม่ถูกลงโทษซ้ำ ในการกระทำความผิดเรื่องเดียวกัน”
สถาบันกฎหมายและองค์กรยุติธรรมและหลักสูตรนิติปรัชญาทั่วโลกยึดตามหลักกฎหมายนี้
จริง ! ดังที่
“ดร.ณัฏฐ์” ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชนคนดังบอกว่า แม้ศาลฎีกาจะมีคำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงในคดีบังคับโทษ “ทักษิณ ชินวัตร” แต่ฟันธงเกมนี้จบตั้งแต่ศาลยกคำร้องชาญชัย ชี้ชัดตามหลักกฎหมาย บังคับโทษซ้ำไม่ได้ พร้อมถามประชาชนจะเชื่อเจ้าหน้าที่รัฐหรือ “กองแช่ง”
และ
"ทนายวันชัย" อ้าง สทร.ติดคุกชั้น14 จบไปแล้ว เย้ยพวกตรงข้ามว่าหึงษา ริษยา อาฆาตแค้นต้องการให้ทักษิณ ชินวัตรกลับมาติดคุก…..โดยคำสั่งไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรวตำแหน่งทางการเมืองนั้นเป็นเพียงประเด็นติดปรายนวมและนายถือแถน ประสพโชค(กองเชียร์)แสดงความคิดเห็นว่า
“ไม่มีกฎหมายที่ไหนที่จะไปให้ลงโทษซ้ำในคดีเดิม ที่ลงโทษจบไปแล้ว”
2
หากแต่ประเด็นที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง สั่งไต่สวนนั้น ไม่ใช่ non bis in idem
หรือหลัก Double jeopardy “บุคคลจะไม่ถูกลงโทษซ้ำ ในการกระทำความผิดเรื่องเดียวกัน”
แต่เป็นประเด็นไต่สวนให้ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาของศาลว่า การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ
”การบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยเป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลหรือไม่ อย่างไร”
โดยให้โจทก์จำเลยดังกล่าว แจ้งให้ศาลทราบพร้อมกับแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งศาลศาลนัดพร้อม 13 มิ.ย.นี้
การไต่สวนนี้ ศาล ทำตาม พรป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาความของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง มาตรา 6 เมื่อความปรากฎแก่ศาลไม่ว่าจะมีผู้ร้องหรือศาลเห็นเองว่าคำร้องนั้นมีมูลที่น่าสงสัย
1 กรมราชทัณฑ์ ได้ปฎิบัติตามหลักเกณฑ์การนำผู้ป่วยไปรักษาโรงพยาลนอกเรือนจำหรือไม่
2 ให้นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาบลตำรวจ เสนอคำให้การของแพทย์ พยาบาลที่รับผิดชอบผู้ป่วย พร้อมเวชระเบียนและผลการรักษา
3 สทร. ทักษิณ ชินวัตร ผู้ที่หยั่งรู้ด้วยตัวเองได้ว่าตนป่วยจริงหรือไม่ ถ้าป่วยจริงก็รอด แต่ถ้าไม่ป่วยจริงแต่ได้จูงใจให้ เจ้าหน้ที่ราชทัณฑ์ แพทย์โรงพยาบาล สร้างเรื่องป่วยทิพย์โดยตนไม่ต้องนอนในคุกตาทคำพิพากษาศาล โดยละเมิด หลักการ
3
มาตรา 246 ในวิธีพิจารณาความอาญา ที่บัญญัติไว้ดังนี้
“ในระหว่างทุเลาการบังคับอยู่นั้นศาลจะมีคำสั่งให้บุคคลดังกล่าวอยู่ในความควบคุม ในสถานที่อันควรนอกจากเรือนจำหรือสถานที่ที่กำหนดไว้ในหมายจำคุกก็ได้ และให้ศาลกำหนดให้เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามหมายนั้น เป็นผู้มีหน้าที่และรับผิดชอบในการดำเนินการตามคำสั่ง
ลักษณะของสถานที่อันควรตามวรรคสองให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งต้องกำหนดวิธีการควบคุมและบำบัดรักษาที่เหมาะสมกับสภาพของจำเลย และมาตรการเพื่อป้องกันการหลบหนีหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นด้วย
เมื่อศาลมีคำสั่งตามวรรคหนึ่งแล้ว หากภายหลังจำเลยไม่ปฏิบัติตามวิธีการหรือมาตรการ ตามวรรคสามหรือพฤติการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป ให้ศาลมีอำนาจเปลี่ยนแปลงคำสั่ง หรือให้ดำเนินการตามหมายจำคุกได้”
4
สรุป เมื่ออ่าน 4 บรรทัดสุดท้าย วรรคท้ายของมาตรา 246 หากศาลพิสูจน์ได้ว่า
1 สทร.ทักษิณ ชินวัตร ป่วยทิพย์ ก็ต้องกลับไปรับการบังคับโทษใหม่
2 เรื่อราขทัณฑ์การนำตัวทักษิณออกจากที่คุมขังโดยไม่ได้ขออนุญาติศาล(ฉุกเฉิน)และไม่ได้แจ้งกับศาลภายหลัง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และผู้รับผิดชอบก็ต้องก็ต้องติดคุกร่วมทักษิณ ชินวัตรดังตัวอย่างรุ่นพี่ที่เคยแบกตระกูลชินวัตรมาก่อนหน้าแล้ว
3 พวกแพทย์ พยายาล ในโรงพยาบาลตำรวจก็คงมีโทษติดปลายนวมไปด้วย
สวัสดี
ขุนจัน พันนา

https://www.facebook.com/jua.rattanapan/posts/2124437678026007
.....


Jua Rattanapan
Yesterday
·
การลงโทษ สทร.ทักษิณ ชินวัตร
บนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
ไม่ขึ้นกับเจตนารมย์ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นไปตามเจตนารมย์ของกฎหมายด้านมหาชน
……………………………………………
1
มาตรา ๑๘ โทษสำหรับลงแก่ผู้กระทำความผิดมีดังนี้
โทษของคดีอาญา
โทษที่กำหนดในคดีอาญาจะแตกต่างกันไปตามความร้ายแรงของการกระทำผิด โทษที่กำหนดในประมวลกฎหมายอาญาของไทยมีดังนี้ :
1. ประหารชีวิต : สำหรับความผิดร้ายแรง เช่น การฆาตกรรมโดยมีเจตนา
2. จำคุก : การลงโทษด้วยการขังผู้กระทำผิดในเรือนจำตามระยะเวลาที่ศาลกำหนด
3. กักขัง : การควบคุมตัวผู้กระทำผิดในสถานที่ที่กำหนดเป็นเวลาสั้นกว่าการจำคุก
4. ปรับ : การบังคับให้ผู้กระทำผิดจ่ายเงินค่าปรับตามที่กฎหมายกำหนด
5. ริบทรัพย์ : การยึดทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดหรือทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิด
บุคคลใดกระทำควาทผิดทางอาญา ศาลจะลงโทษได้ 5 ประการนี้เท่านั้น ไม่สามารถลงโทษเป็นอย่างอื่นได้
2 แต่การกระทำของ สทร. ทักษิณ ชินวัตรนั้น เป็นความผิดต่อสาธารณะ ต่อมหาชน คือผิดหลักการปฎิบัติ กฎ ระเบียบของรัฐในการปฎิบัติตามคำพิพากษา(ถ้าผิด) ไม่ส่งผลเสียต่อเอกชน ดังที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองได้ วินิจฉัยยกฟ้องต่อคำฟ้องของเอกชน คือนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.ประชาธิปัตย์ ว่าไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฏหมายนี้ ศาลจึงดำเนินการด้วยตัวเอง
และศาลได้สั่งไต่สวนด้วยตัวเองเมื่อพบเห็นว่าคำร้องมีมูล เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดทำ พรป.นี้ที่ว่าเพื่อพิพากษาคดีอาญา ของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง รวมทั้งการบังคับให้เป็นไปตามคําพิพากษาหรือคําสั่งในคดี ให้เป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และรวดเร็ว อันจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองจึงไม่ได้ยึดหลักการลงโทษแบบความผิดทางอาญา 5 ประการที่กล่าวมา
แต่ศาลอาจจะอ้างเพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อความปรองดอง เพื่อความสงบสุขของสังคม ศาลอาจวินิจฉัยออกคำสั่งอื่นตามความเหมาะสม(ศาลอ้างได้)
เช่น
1 ศาลอาจสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของกรมราชทัณฑ์ในการให้ทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหรือให้งดใช้กฎกระทรวงเกี่ยวกับ สทร. ทักษิณ
2 อาจจะสั่งให้ สทร. ทักษิณกลับมารับโทษ แต่ให้อยู่ที่บ้านพักโดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
3หรือศาลอาจสั่งให้ สทร.ทักษิณ ชดใช้เงินตามราคาที่ราชทัณฑ์กำหนด (รัฐไม่มีเงินก็คิดเวลาทักษิณเป็นค่าปรับก็ได้ ทั้งนี้ต้องปรับตามฐาณานุรูปด้านฐานะการเงินของทักษิณ)
4 หรือสั่งให้ สทร.ทักษิณกระทำหรืองดเว้นการกระทำบาง อย่างได้เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง เช่นห้ามพูดการเมือง ห้ามไปโฆษณาหาเสียง ห้ามประชุมทางการเมืองกับนักการเมือง ห้ามพบคนเกิน 3 คน ให้เลี้ยงหลานตามที่บอกไว้
5 หรือจะสั่งให้ไปอยู่เกาะก็ได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ละเมิดต่อสิทธิพิ้นฐานของมนุษย์
เป็นสิทธิตามกฎหมายให้อำนาจไว้กับศาลในกิจการมหาชน เช่นเดียวกับ ศาบปกครอง ศาลภาษีอากร ศาลเยาวชนและครอบครัว ขึ้นกับความเหมาะสมเพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อความสงบสุข เพื่อการปรองดองของคนหลายฝ่าย
ดังนั้นทั้งเหลือง แดง เขียวและหลากสีแบบสลิ่ม อย่าวิตกกังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ
สทร.ทักษิณ ไม่หนีไปไหนหรอก
ด้วยความปารถนาดี
ขุนจัน พันนา

https://www.facebook.com/photo/?fbid=2124689358000839&set=a.110174852785643
https://www.facebook.com/jua.rattanapan/posts/2124437678026007