17 กุมภาพันธ์ 2498 การบิดเบือนความจริงที่เป็นต้นตอของความบิดเบี้ยวหลายๆอย่างจนถึงปัจจุบัน

สถาบันปรีดี พนมยงค์ Pridi Banomyong Institute
17 hours ago
·
#OnThisDay 17 กุมภาพันธ์ 2498
3 จำเลยผู้บริสุทธิ์​ ถูกประหารชีวิตในคดีสวรรคต
.
“สัจจะเป็นอมตะ
ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
ประวัติศาสตร์ย่อมให้ความกระจ่างในที่สุด”
- ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์, 9 มกราคม 2549
.​
17 กุมภาพันธ์ 2498 จำเลยทั้ง 3 คน คือ ชิต สิงหเสนี, บุศย์ ปัทมศริน และเฉลียว ปทุมรส ถูกนำตัวเข้าสู่หลักประหาร ตามที่ศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษประหารชีวิต กรณีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลสวรรคตด้วยพระแสงปืน เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2489 เป็นเวลา 8 ปี 8 เดือน 8 วัน นับตั้งแต่สวรรคต
.
ชิต และบุศย์ ขณะนั้นเป็นมหาดเล็กเฝ้าหน้าห้องบรรทม และเฉลียว เป็นราชเลขานุการในพระองค์ฯ ตกเป็นจำเลยในคดี โดยศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2497 ตัดสินว่า จำเลยทั้ง 3 คน ได้กระทำความผิด “บังอาจสมคบกันกระทำการประทุษร้ายต่อพระองค์พระมหากษัตริย์ในรัชกาลที่ 8” และพิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิต ต่อมาในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2497 จำเลยทั้งสามได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ฎีกาดังกล่าวได้ตกไปในที่สุด
.
แถลงการณ์กระทรวงมหาดไทย วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2498 ระบุว่า
.
ตามที่ศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษประหารชีวิตนายเฉลียว ปทุมรส นายชิต สิงหเสนี และนายบุศย์ ปัทมศริน จำเลยในคดีต้องหาว่าประทุษร้ายต่อองค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล และจำเลยทั้งสามได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษนั้น
.
บัดนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ยกฎีกาของจำเลยทั้งสามเสีย ทางราชทัณฑ์จึงได้นำตัวจำเลยทั้งสาม ไปประหารชีวิตตามคำพิพากษา ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2498 เวลา 05.00 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง ต่อหน้าคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวางเป็นประธานกรรมการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายแพทย์เชื้อ พัฒนเจริญ และนายหลอม บุญอ่อน รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าแผนกควบคุมเรือนจำกลางบางขวางเป็นกรรมการ ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยเป็นการเสร็จไปแล้ว จึงขอแถลงมาให้ทราบทั่วกัน
.
ข้อความบางส่วนจากจดหมายของนายบุศย์ เขียนถึงภรรยา
.
“จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายครั้งสุดท้ายในชีวิตฉัน ซึ่งเราจะต้องจากกันโดยฉันไม่ได้กระทำผิดคิดร้ายอย่างหนึ่งอย่างใด แต่ก็ต้องตายโดยที่ไม่ได้มีความผิด ขอสมอย่าได้เสียอกเสียใจ เพราะผัวของสมไม่ได้ตายโดยมีความผิด ตายโดยความอยุติธรรม”
.
ต่อมาจอมพล ป. พิบูลสงคราม ดำริจะรื้อฟื้นคดีสวรรคตขึ้นมาพิจารณาใหม่ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกประหารชีวิตทั้งสามคนและท่านปรีดี พนมยงค์ แต่ตามกฎหมายไทยที่ใช้อยู่ เมื่อคดีถูกพิพากษาถึงที่สุดแล้วเป็นอันยุติ ดังนั้น ถ้าจะรื้อฟื้นคดีสวรรคตขึ้นมาพิจารณาใหม่ ก็ต้องมีกฎหมายรองรับให้อำนาจ จอมพล ป. พิบูลสงคราม จึงเตรียมการที่จะออกกฎหมายดังกล่าวนั้น และได้บอกคุณสังข์ พัธโนทัย คนสนิทผู้รับใช้ใกล้ชิดให้ทราบ เพื่อแจ้งไปให้ท่านปรีดีซึ่งขณะนั้นท่านพำนักอยู่ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีนได้รับทราบ ทั้งนี้ ดำรินั้นล้มเหลว เนื่องจากมีการทำรัฐประหารจอมพล ป. พิบูลสงคราม ในเวลาต่อมา
.
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่:
-สามจำเลย...ผู้บริสุทธิ์ : https://pridi.or.th/th/content/2021/02/609
-รำลึก 67 ปี แห่งการประหารชีวิต 3 จำเลย คดีสวรรคต : นายตี๋ ศรีสุวรรณ พยานเท็จที่ไม่มีผลกับคำพิพากษาจริงหรือ? : https://pridi.or.th/th/content/2022/02/980
- “ลาก่อนชีวิต…ลาก่อนแม้แต่สิ่งอันสุดที่รัก !” : https://pridi.or.th/th/content/2022/02/979
- “สัจจะเป็นอมตะ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ประวัติศาสตร์ย่อมให้ความกระจ่างในที่สุด”: https://pridi.or.th/th/content/2023/02/1430
...

ความเห็นจากโพสต์

การบิดเบือนความจริงที่เป็นต้นตอของความบิดเบี้ยวหลายๆอย่างจนถึงปัจจุบัน
..
ปท.ที่ทำให้การโกหก/สร้างภาพ เป็นเรื่องจริง
ปท.ที่ความจริงเป็นสิ่งต้องห้ามพูด/สงสัย
ปท.ที่ทุกคนรู้แต่ถึงตายก็พูดไม่ได้ เพราะถ้าพูดเมื่อไหร่ก็ต้อง(เกือบ)ตาย
ปท.ที่บังคับให้พูดแต่คำเยินยอ/ต้องรักและศรัทธา ไม่เช่นนั้นต้องติดคุก
ทั้งหมด…ปท.กูมี

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1033118638860839&set=a.635945515244822