"นายก" มือใหม่ในสภา ลุกขึ้นมาตอบพรรคฝ่ายค้าน ว่ามีความเข้าใจดี เรียกร้องขอทำงานในสภาร่วมกับฝ่ายค้านอย่างเข้าใจกัน ยุติการสร้างวาทกรรม โกรธแค้นเกลียดชังกัน แก้ปัญหาน้ำท่วมไปแล้วตั้งแต่ก่อนแถลงนโยบาย pic.twitter.com/19AEQJ5aJg
— แมวเกเร (@Unrulycat2511) September 12, 2024
ที่ผ่านคุณเอี่ยวก็โพสเอาใจช่วยอุ๊งอิ๊ง มาตลอด นี่แกคงเหลืออด (เดา)
— Gameover (@BereKriss) September 12, 2024
✔️ไม่พร้อม
✔️ไม่มี passion
✔️ไม่มีความขยัน
✔️มีความรอบรู้มุ่งมั่นจะแก้ไขปัญหาต่ำ
✔️ต่ำกว่ามาตรฐานของคนที่ควรจะเป็นผู้นำที่ดี 😂
นี่เห็นด้วยมากกกทุกข้อขอเพิ่ม มีความเห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมชาติต่ำ !#มีเรื่องLive pic.twitter.com/7tHg3jMJTH
เป็นนายกที่ยังดูเด็กอยู่มาก นิสัยน่ะ https://t.co/BbO9KodRc8
— my name is PoMPoM (@tumso9ood) September 12, 2024
ศิธา ทิวารี มองว่าคำพูด “3 ปีจากนี้คือรัฐบาล 3 นาย” ของ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน “จะหลอนเพื่อไทยถึงเลือกตั้งปี 70”#TheStandardNow #ทักษิณ #แพทองธาร #รัฐบาล #เพื่อไทย #การเมือง pic.twitter.com/6RF2rC9frB
— THE STANDARD (@thestandardth) September 12, 2024
"หากผมไปอยู่บนบัลลังก์นั่งที่นายกรัฐมนตรี นโยบายความท้าทายและนโยบายความเร่งด่วนจะไม่ใช่อย่างนี้ จะเปลี่ยนแปลงไป จะมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐธรรมนูญใหม่ นโยบายที่เปลี่ยนแปลงกลไกอุบาทว์จะต้องหมดไป”
— กัณวีร์ สืบแสง Kannavee Suebsang (@nolkannavee) September 12, 2024
จะหาว่าผมทะเยอทะยานก็ได้ครับ แต่จำเป็นต้องพูดแบบนี้… pic.twitter.com/qeasCjasnS
กัณวีร์ สืบแสง Kannavee Suebsang
@nolkannavee
"หากผมไปอยู่บนบัลลังก์นั่งที่นายกรัฐมนตรี นโยบายความท้าทายและนโยบายความเร่งด่วนจะไม่ใช่อย่างนี้ จะเปลี่ยนแปลงไป จะมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐธรรมนูญใหม่ นโยบายที่เปลี่ยนแปลงกลไกอุบาทว์จะต้องหมดไป”
จะหาว่าผมทะเยอทะยานก็ได้ครับ แต่จำเป็นต้องพูดแบบนี้ เพราะผิดหวังกับนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรี ผมจะทำให้ดูครับ ซึ่งไม่ใช่เป็นการตำหนิ แต่เป็นการ “ติเพื่อก่อ
ส่วนหนึ่งของการอภิปรายนโยบายรัฐบาล ผมเห็นความท้าทายทั้ง 9 ประการ รัฐบาลสามารถประเมินสถานการณ์ได้ดี แต่เมื่อไปดูนโยบายเร่งด่วน 10 ประการของรัฐบาลแล้วรู้สึกตกใจ เพราะความท้าทายเรื่องสภาวะการไร้เสถียรภาพทางการเมือง ไม่ได้บรรจุในนโยบายเร่งด่วน ทั้งที่ผลการเลือกตั้งปี 2566 ชัดเจนแล้วว่าประชาชนต้องการการเมืองใหม่ ต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการแก้ไขรายมาตรา
เมื่อดูนโยบายทางด้านการเมือง และการพลิกฟื้นความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกประเทศก็ยังรู้สึกตกใจ นโยบายที่รัฐบาลมีการชี้แจงว่าจะเร่งเรื่องความโปร่งใส ใช้งบประมาณน้อยแต่ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น แต่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตใช้งบประมาณน้อยหรือไม่
สำคัญคือการไม่เห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ความเชื่อมั่นเป็นหัวใจหลักในการสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในประเทศ ซึ่งไม่อยู่ในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
"เราเผชิญความไร้เสถียรภาพทางการเมืองอีกยาวนาน การปฏิวัติรัฐประหารที่ซ้ำซ้อน ความขัดแย้งรุนแรง การแบ่งขั้ว การถอดถอนรัฐบาล การถอดถอนนายกรัฐมนตรี การยุบพรรคการเมือง ความเชื่อมั่นจึงหายไป รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยน่าจะรู้สึกถึงรสชาตินี้ดีที่สุด โดยเฉพาะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี น่าจะเข้าใจความรู้สึกนี้มากกว่าทุกคน"
ผมเชื่อว่าการที่ประชาชนถูกยึดอำนาจจะส่งผลเลวร้าย และสร้างปีศาจทางการเมืองที่น่าขยะแขยง เชื่อมั่นว่ารัฐบาลที่มีนางสาวแพทองธาร เป็นนายกฯ จะไม่เดินซ้ำรอยบาดแผลเดิม และหาทางแก้ไขโดยเร็วที่สุด ขณะที่นโยบายการต่างประเทศของไทย หากเปรียบเทียบกับนโยบายรัฐบาลชุดที่ผ่านมาถือว่าดีขึ้น นโยบายการต่างประเทศ รัฐบาลทั่วโลกมักจัดนโยบายนี้ไว้ในนโยบายหลัก จึงเป็นข้อเสียใจ เพราะเมื่อดูตัวนโยบายการต่างประเทศไทย ตอนหนึ่งมีการระบุว่า จะไม่เป็นส่วนหนึ่งในความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งนโยบายดังกล่าวเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างสัจจนิยมวิทยาและเสรีนิยมวิทยา ส่วนตัวไม่มั่นใจว่ากรณีจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ยกตัวอย่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ หากเกิดปัญหาขึ้นจริง ๆ ไทยจะตัดสินใจแก้ปัญหาเรื่องแรงงานไทยอย่างไร รวมถึงปัญหาผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ด้วย
ทั้งนี้กรณีที่อาเซียนได้เซ็นสัญญากับจีนในการทำ FTA โดยตั้งคำถามถึงปัญหาสินค้าจีนทะลักเข้าไทย ซึ่งปัจจุบัน SMEs ไม่สามารถต่อสู้ได้ พ่อค้าตายประชาชนแย่ รัฐบาลจะทำอย่างไรต่อไป ดังนั้นการสร้างนโยบายต่างประเทศ รัฐบาลไทยจะต้องดำเนินการ ดังนี้
1.ประเมินศักยภาพประเทศตนเองถึงข้อดี-ข้อด้อย
2.ประเมินสถานการณ์อนุภูมิภาค ภูมิภาค และเวทีระหว่างประเทศ
3.ประเมินความคาดหวังของเวทีระหว่างประเทศว่า เขาต้องการอะไรจากเรา
ผมได้ยกสถานการณ์ประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา การจุดคลองฟูนันเตโช จากเมืองพนมเปญมาสู่จังหวัดกอบ ซึ่งจะทะลุออกอ่าวไทย ระยะทาง 180 กิโลเมตร เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลจีน หากสร้างเสร็จจะมีแหดักเรือจากฝั่งแปซิฟิกสู่ EEC ของไทย เรามีนโยบายเสริมการสูญเสียเม็ดเงินของ EEC หรือไม่
นอกจากนี้หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของจีน ยังไปเยือนเมียนมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้มีการหารือว่ารัฐบาลจีนต้องการเข้ามามีอิทธิพลในการสร้างสันติภาพในประเทศเมียนมา ทั้งที่ไทยจำเป็นต้องแสดงความเป็นผู้นำทางสันติภาพ แต่จีน กลับมีอำนาจรอบประเทศ ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องแสดงออกผ่านนโยบายการต่างประเทศของไทย
ส่วนนโยบายที่นายกฯ ได้ชี้แจงความเสมอภาคทางเพศ ซึ่งเป็นสิ่งที่เวทีระหว่างประเทศคาดหวังกับกับไทย โดยจะปรับปรุงกฎหมายและระเบียบ เพื่อให้ผู้หญิงไทยไม่ต้องเผชิญกับการเลือกปฎิบัติ ตอนนี้มีเพศสภาพมากกว่าชายและหญิง หากเราจำเป็นต้องยอมรับว่าความคาดหวังของเวทีโลกเป็นอย่างไร เราจะต้องตามให้ทัน จึงขอให้นายกฯ ลงนาม พ.ร.บ.ขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล พ.ศ.ด้วยครับ
จัดครับ !!
'รอมฎอน' ชวน 'แพทองธาร' คลายปัญหาคดีตากใบ | 12 ก.ย. 67
— prachatai (@prachatai) September 12, 2024
.
12 ก.ย. 2567 ที่ประชุมรัฐสภาในวาระแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา รอมฎอน ปันจอร์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปราย ในประเด็นความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้
.… pic.twitter.com/WQ5VLVhrpY