วันเสาร์, กันยายน 14, 2567

ลองดูกันสิ อภิปรายของสอง ส.ส.พรรคประชาชนนี้ เป็นวาทกรรมฝ่ายแค้นหรือไม่ เรื่องทำเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ กับเร่องฝุ่นพิษพีเอ็ม ๒.๕ ใครคาดว่าจะได้ ใครต้องเสีย

นายกฯ อิ๊งอุตส่าห์หาช่องพูดไปแล้ว ช่วงหลังจากอ่านนโยบาย ๑๔ หน้าเสร็จ ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลสองวัน วันนี้ (๑๔ กันยา) โฆษกพรรคเพื่อไทยขอพูดบ้าง “ฉะฝ่ายค้าน เลิกสร้างวาทกรรมจับผิดนายกฯ”

ดนุพร ปุณณกันต์ แถลงว่า “การเมืองใหม่ที่อยากเป็นนั้นไม่มีอยู่จริง” เมื่อหัวหน้าพรรคประชาชนพูดถึง “นายใหญ่ นายทุน นายหน้า” และรองหัวหน้าบอก “อยากเห็นนายกฯ มีแสงสว่างในตัวเอง” นี่คงยังไม่ได้ฟัง ช่อ ว่าผิดหวังที่ไม่เห็นแสดงวิสัยทัศน์

รวมความตามคำของ อุ๊งอิ๊งเป็นอันว่าฝ่ายค้านตอนนี้มีแต่วาทกรรม สร้างความเกลียดชัง สร้างความเข้าใจผิด สร้างความแตกแยก และเป็นฝ่ายแค้น ถ้างั้นย้อนไปดูสิว่า เขาเป็นฝ่ายแค้นกันจริงหรือ จากตัวอย่างการอภิปรายของ รังสิมันต์ โรม เมื่อ ๑๓ กันยา

เรื่องนโยบายทำ Entertainment Complex ที่เริ่มตอนปลายๆ รัฐบาลเศรษฐา มาร้อนรนต้นรัฐบาลแพทองธารนี่ละ หลังจากที่ราชติณมัยเปิดฟลอร์ จะรื้อฟื้นสนามม้านางเลิ้ง และเสริมด้วยบันเทิงครบวงจร แต่แล้วกลับเงียบไป มี คลองเตยมาแทน

ที่จริงความคิดย้ายท่าเรือและชุมชนคลองเตยออกไป เพื่อสร้างเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์แทนที่ เป็นเมกะโปรเจ็คอสังหาริมทรัพย์ของเศรษฐา ซึ่งมาถึงรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง “คนข้างนอกสภาเขานินทากันให้แซ่ด” ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนปูด

ว่า “ใบอนุญาตในการทำสถานบันเทิงครบวงจร มีบริษัทไหนบ้างที่จะได้จัดทำ ที่จังหวัดไหนบ้าง รวมถึงคุยกันไปไกลว่า นายใหญ่จะได้รับประโยชน์กี่เปอร์เซ็นต์จากการทำ...ผมก็หวังให้ข้อมูลที่ผมได้ยินมาไม่เป็นความจริง รังสิมันต์ลงท้ายการอภิปราย

ส.ส.พรรคประชาชนอีกคน ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ อภิปรายดุเดือดกว่า ทั้งหนักแน่นและฉะฉานเกินกว่าจะเป็นวาทกรรม เขาพูดข้ามช็อตไปถึงต้นปีหน้า เมื่อถึงกำหนดสถานการณ์ฝุ่นพิษในอากาศกลับมาประจำการทั้งในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่

“หลายคนอาจจะสงสัยว่ารัฐบาลเขาไม่เข้าใจต่อปัญหานี้จริงๆ หรือเปล่า นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทย ขออภัยครับท่านประธาน นี่คือสิ่งที่พรรคการเมืองพรรคหนึ่งโพสต์ขึ้นมา ในวันพุธที่ผ่านมา ระบุไว้ว่า ๑ ปีไม่เคยสูญเปล่า ในรัฐบาลเศรษฐา”

นั่นก็คือ “เพราะได้แก้ต้นตอพีเอ็ม ๒.๕ ในประเทศ ลดการเผาอย่างชัดเจน” แต่ “ลดได้จริงหรือเปล่า มาดูกันดีกว่า ว่าลดจริงหรือคิดไปเอง” ภัทรพงษ์ว่า “ปี ๒๕๖๖ ประเทศไทยมีผืนที่เผาไหม้ทั้งประเทศอยู่ที่ ๑๑.๒ ล้านไร่ มาปีนี้ ๒๕๖๗ พื้นที่การเผามีถึง ๑๓ ล้านไร่”

ข้อมูลมันแย้งกับที่รัฐบาลอุ๊งอิ๊งอวดอ้าง เขาจึงว่า “รัฐบาลยังโกหกตัวเอง หลอกประชาชนว่าปัญหานี้มันดีขึ้นแล้ว ทั้งที่ความจริงมันแย่ลงกว่าเดิม” เรื่องของเรื่องก็คือ “ท่านตัดงบฯ โครงการแก้ปัญหาฝุ่นพิษพีเอ็ม ๒.๕ แล้วเอามาทำดิจิตอลวอลเล็ต”

ถ้าจะว่าเป็นวาทกรรม มันก็สมจริงเสียจนหน้าชา เขาจึงปิดท้ายว่า “ผมอภิปรายต่อรัฐบาล ผมพูดถูกหลายครั้ง ครั้งนี้ได้โปรดพิสูจน์ว่าผมพูดผิด ตั้งใจทำงานแก้ไขปัญหาพีเอ็ม ๒.๕ ทำให้ผมพูดผิดที”

(https://x.com/webdevxp/status/1834548777115619507 และ https://www.facebook.com/thestandardth/posts/ERSNaxnegsDq)


 

เฌอโพสต์ "เดือดมากกกก !! ศึก "ธรรมนาวา วัง" กำลังลุกลามกลายไปประเด็นการสังฆายนาพระไตรปิฎก + ก่อตั้งนิกายใหม่ มีพระสงฆ์หลายฝ่ายมาเข้าร่วมทำสงครามตัวแทน"

https://www.facebook.com/QueenCherprangVI/posts/401048793022441?ref=embed_post




ฝายเก็บกักน้ำ แต่เวลาน้ำท่วม ฝายก็ขวางทางระบายน้ํา ดูภาพฝายแม่กกกันชัดๆ ว่าขวางการไหลของน้ำในแม่น้ำกกอย่างไร


Chainarong Setthachua
9 hours ago
·
น้ำกกที่เมืองเชียงรายระบายได้ช้าและทำให้น้ำท่วมหนักมาจากอะไร?
หน่วยงานด้านน้ำระดับชาติระบุว่าน้ำแม่น้ำกกระบายลงแม่น้ำโขงได้ช้าเพราะน้ำโขงหนุน ความจริงแล้ว น้ำกกที่ท่วมเมืองเชียงรายยังไกลจากแม่น้ำโขงมาก
แม่น้ำกกมีต้นกำเนิดในรัฐฉาน ประเทศพม่า ไหลเข้าประเทศไทยที่ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นไหลผ่านเชียงราย และไหลลงแม่น้ำโขงที่บ้านสบกก อำเภอเชียงแสน มีความยาวรวมประมาณ 285 กิโลเมตร โดยเป็นส่วนที่ไหลผ่านเขตจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ประมาณ 135 กิโลเมตร
ช่วงที่น้ำแม่กกไหลผ่านเมืองเชียงราย ได้มีการสร้างฝายแม่กก กั้นแม่น้ำกกบริเวณบ้านป่ายางมนกับบ้านเมืองงิม เดิมเรียกกันว่าฝายป่ายางมน
แม้เรียกว่าฝาย แต่จริงๆ แล้วก็เหมือนเขื่อนเพราะสร้างด้วยคอนกรีต มีขนาดใหญ่ แบบเดียวกับเขื่อนปากมูล เขื่อนราษีไศล เพียงแต่เรียกว่าฝายเพื่อให้ดูดีกว่าเขื่อน โดยมีประตูระบายน้ำ 11 บาน
ถ้าใครเคยนั่งเครื่องบินไปลงสนามบินแม่ฟ้าหลวง หากมองลงมาก็จะเห็นแม่น้ำกกที่ไหลผ่านเมืองเชียงรายค่อนข้างกว้าง หรือใครที่ไปนั่งริมน้ำกก แถบเมืองเชียงราย ก็จะเห็นแม่น้ำกกค่อนข้างกว้างและน้ำไม่ไหล นั่นเป็นเพราะผลจากการสร้างฝายแห่งนี้ที่มีการขวางการไหลของน้ำไว้
เมื่อมวลน้ำทางตอนเหนือในรัฐฉานไหลลงมาถึงบริเวณนี้ น้ำก็ระบายลงน้ำกกทางตอนล่างและไหลลงแม่น้ำโขงได้น้อยลง ต่อให้เปิดบานประตูระบายน้ำทั้งหมด แต่ช่องทางน้ำไหลก็น้อยกว่าธรรมชาติมาก จึงทำให้น้ำท่วมสองฝั่งน้ำแม่กกทางตอนบนของฝาย รวมถึงเมืองเชียงราย
ดังนั้น หน่วยงานด้านบริหารจัดการน้ำของชาติ คือ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช.อย่าโยนบาปให้แม่น้ำโขงเลยครับ แต่ช่วยดูว่าในลุ่มน้ำกกเกิดอะไรขึ้นและต้องบริหารจัดการน้ำอย่างไร เช่น แม่น้ำกกตั้งแต่ท่าตอนลงมา มีโทรมาตรกี่ตัว แต่ละตัวทำงานหรือไม่ และทำไมจึงไม่มีการแจ้งเตือนไปที่เมืองเชียงราย เพราะจากท่าตอนไปเชียงรายกว่าน้ำจะมาถึงก็ใช้เวลานานพอสมควร พอถึงขนาดที่จะอพยพ ขนย้ายสิ่งของ และเคลื่อนย้ายยานพาหนะ ได้ทันเวลา ที่สำคัญการบริหารจัดการฝายแม่กกเป็นอย่างไร มีการเปิดประตูระบายน้ำเพื่อพร่องน้ำล่วงหน้าก่อนมวลน้ำขนาดใหญ่จะมาถึงเมืองเชียงรายหรือไม่อย่างไร
ดูภาพฝายแม่กกกันชัดๆ ครับว่าขวางการไหลของน้ำในแม่น้ำกกอย่างไร
ภาพจาก เพจ โครงการชลประทานเชียงราย โพสต์เมื่อ 11 กันยายน 2567

https://www.facebook.com/chainarong.stc/posts/pfbid036LVFtGA5QPg5adc5NcS1BRr2YHWT7gEQ5VCButRmDjLXsej9AaUE48QihzGDwdzCl


นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ลงพื้นที่แล้ว ประกาศรายชื่อหน่วยอาสาที่ลงพื้นที่ #saveเชียงราย


Tulip Mahawongk
11 hours ago
·
#รายชื่อหน่วยอาสาที่ลงพื้นที่ #saveเชียงราย
ขอเป็นกำลังใจให้แก่อาสาสมัครที่ลงพื้นที่สนับสนุนช่วยเหลือผู้สบประสบอุทกภัยที่จังหวัดเชียงราย
1 สมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย
2 ทีมกู้ภัยทางสูงเชียงราย TRRT
3 กู้ภัยสยามแม่สาย
4 กู้ภัยพรหมวิหาร
5 สมาคมปิยะมิตรแม่สายร่วมใจ
6 กู้ภัยแสงธรรม เชียงราย
7 กู้ภัยอัมรินทร์ใต้ เชียงราย
8 สมาคมกู้ภัยพาน เต็กก่า จีพานเกาะ เชียงราย
9 ทีมตอบโต้ภัยพิบัติวัดหน่อแก้วโพธิญาณ เชียงราย
10 กู้ชีพบุญช่วยอุปถัมภ์ เชียงราย
11 สมาคมพานร่วมใจ เชียงราย
12 มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย
13 หน่วยกู้ภัยแสงแก้วโพธิญาณ
14 มูลนิธิสยามเชียงราย
15 มูลนิธิสยามนนทบุรี
16 สมาคมกุศลสงเคราะห์เชียงใหม่
17 มูลนิธิคุณวิโรกุศลสงเคราะห์ มหาสารคาม
18 มูลนิธิเพชรเกษม กรุงเทพ
19 มูลนิธิเพชรเกษม แพร่
20 สมาคมกู้ภัยศรัทธาเชียงใหม่
21 มูลนิธิร่วมกตัญญู
22 มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง
23 กู้ภัยกกไทรศรีเทพ เพชรบูรณ์
24 สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติประเทศไทย DRAT
25 กู้ภัยสว่างวิชาธรรมสถาน นครราชสีมา
26 ทีมขวัญใจสไนเปอร์
27 มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน สัตหีบ ชลบุรี
28 มูลนิธิสว่างเวียงป่าเป้าธรรมสถาน เชียงราย
29 มูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี
30 มูลนิธิสว่างสระแก้วพิทักษ์ชีพ
31 มูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศ
32 มูลนิธิสว่างคีรีธรรม เลย
33 มูลนิธิพุทธรรม 31 นครราชสีมา
34 มูลนิธิสว่างเมธีธรรมสถาน สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์
35 ศูนย์อาสารัตนโกสินทร์
36 มูลนิธิสว่างสรรเพชร เพชรบุรี
37 หน่วยกู้ภัยพุทธญาณสมาคม“เต็กก่า”จีเยี้ยงเกาะ ขอนแก่น
38 สมาคมกู้ชีพกู้ภัยทีมกู้ภัยสุบรรณเมตตาธรรมพะเยา
39 มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์(พะเยา)
40 มูลนิธิเทวฤทธิ์ ทรงธรรม
41 มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ นครศรีธรรมราช
42 ทีมเจตสกี ประเทศไทย
43 หน่วยกู้ภัยแม่โจ้
44 ชมรมใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน
45 กู้ภัยตำรวจทางหลวงเชียงใหม่
46 มูลนิธิองค์กรทำดี
47 ทีมกันจอมพลัง
48 มูลนิธิกระจกเงา
49 มูลนิธิประสาทบุญสถาน พิษณุโลก
50 มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี
51 สมาคมเมตตาธรรมทิพยสถาน เต็กก่า จีโหงวเกาะ กาฬสินธุ์
52 มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ชลบุรี
53 สมาคมอยุธยารวมใจ เจ้าพระยาทีม
54 มูลนิธิสว่างสาธารณกุศลสถาน ราชบุรี
55 มูลนิธิสว่างนครลำปาง
56 มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน พัทยา
57 มูลนิธิสว่างมงคลศรัทธาธรรมสถาน เพชรบูรณ์
58 มูลนิธิลือชา พะเยา
59 มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ พะเยา
60 เครือข่ายการจัดการภัยพิบัติ จังหวัดนครศรีธรรมราช
61 สมาคมมิตรภาพร่วมใจการกุศล นครศรีธรรมราช
62 สมาคมกู้ชีพกู้ภัยลำพูน
63 กู้ภัยอโศก ร้อยเอ็ด
64 อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยสุโขทัย
65 สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ พิษณุโลก
66 หน่วยบรรเทาภัยพรหมศิริ สิงห์บุรี
67 มูลนิธิพุทธไธสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา
68 อาสาดุสิต คนไทยไม่ทิ้งกัน
69 มูลนิธิธรรมประทีป สัมโพธิญาณ
70 มูลนิธิสว่างพรกุศลสถาน ระยอง
71 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ภูมินทร์ กรุงเทพมหานคร
72 อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยกาญจนบุรี
73 สมาคมกู้ภัยร่วมใจลำพูน
74 มูลนิธิกู้ภัยพรานพิทักษ์ นครปฐม
75 มูลนิธิเจ้าพ่อกวนอู นครสวรรค์
76 ชมรมตอบโต้ภัยพิบัติ R.R.V.T
77 มูลนิธิสว่างนครน่านรวมใจ
78 มูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์
79 สมาคมอาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดแพร่
80 กู้ภัยประจิม บรบือ
81 วีอาร์กู้ภัย บ้านดุง อุดรธานี
82 มูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี
83 มูลนิธิเสมอกัน สุพรรณบุรี
84 สมาคมสงเคราะห์การกุศลฉะเชิงเทรา
85 กู้ภัยสว่างบุญตราด จังหวัดตราด
86 สมาคมตราดพุทธสงเคราะห์ จังหวัดตราด
87 มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
88 มูลนิธิหลวงพ่อสมหวังวัดกลางบางพระ นครปฐม
89 ทีมตอบโต้ภัยพิบัติจังหวัดนครปฐม NDRT
90 หน่วยกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชร
91 หน่วยกู้ชีพนครสาเกต ร้อยเอ็ด
92 มูลนิธิสรรพราเชนทร์ สมุทรสงคราม
93 มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร
94 ชมรมบรรเทาภัยเฉพาะกิจ
95 มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
96 มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ กาญจนบุรี
97 สมาคมกู้ชีพบัวเพชร ปทุมธานี
98 มูลนิธิอ็อกซี่ไฟต์
99 สมาคมทีชฟอร์ไลฟ์
100 สมาคมประจวบต้องรอดไปด้วยกัน
101 มูลนิธิธรรมประชาทร
102 อปพร. บางบอน (ไปเอง)
103 สมาคมกู้ภัยวัดหมอนไม้อุตรดิตถ์
104 ผู้ใหญ่เบียร์ พิทักษ์ชีพ พระนครศรีอยุธยา
105 มูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน นครราชสีมา
106 มูลนิธิสว่างเมธาธรรมสถาน จังหวัด อุดรธานี
107 มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ อำเภอศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู
108 มูลนิธิพุทธรรม 31 ยโสธร
109 กู้ภัยคนเมืองลำพูน
110 กู้ภัยฟ้าป่าซาง
111 กู้ภัยทางหลวงลำพูน
112 มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์
113 ทีมงานกู้ชีพบัวเพชร
114 สมาคมกู้ภัยกลางพิทักษ์ชีพ พะเยา
115 พันธมิตรจิตอาสา
116 มูลนิธิประชาร่วมใจ นครศรีธรรมราช
117 มูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ้ง หาดใหญ่
118 สมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย แห่งประเทศไทย
119 สมาคมกู้ภัยเด่นชัยร่วมบุญ แพร่
120 มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์
121 มูลนิธิฮารูน อปพร. บางรัก
122 ชมรมบรรเทารวมใจมิตรประชา
123 ศูนย์กู้ชีพกู้ภัยพร้าววังหิน จ.เชียงใหม่
124 มูลนิธิการกุศลอุบลราชธานี เต็กก่า จีตัมเกาะ
125 กองเรือสุวรรณนาวา ยิ้มละ 5 โล
126 ศูนย์ควบคุมภาวะฉุกเฉิน บริษัท เอ็นพีซี เซฟตี้ แอนด์ เอ็นไวรอนเมนทอล เซอร์วิส จำกัด
127 ชุดตอบโต้ภัยพิบัติเขตอำเภอท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
128 กู้ภัยพุทธศาสตร์ อ.แกลง จ.ระยอง
129 อาสาสมัครหน่วยนครธน ธน27-00
130 มูลนิธิไตรคุณธรรมซำเต็กไทร ชลบุรี
131 สมาคมกู้ภัยลำปาง
132 สมาคมกู้ชีพ กู้ภัย ในสถานการณ์ภัยพิบัติ
133 ทีมโดรนอาสาดับไฟป่า
134 มูลนิธิราชพฤกษ์ ยโสธร ใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน
135 ธน.51-00 ราชพฤกษ์
136 ใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ระยอง
137 มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จังหวัดเชียงใหม่
138 มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จังหวัดลำพูน
139 รถพยาบาลฐิติกาล นครปฐม
140 สมาคมกู้ภัยทางหลวง เณรแก้ว สุพรรณบุรี
141 ชมรมตอบโต้พิบัติอำเภอจอมทอง เชียงใหม่
142 ทีม CP ALL
143 กู้ภัยปลวกแดง ระยอง
144 สมาคมกู้ภัยศรัทธารวมใจ
145 มูลนิธิรวมใจ อปพร.อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
146 บริษัท การ์เดียนส์ ออฟ ไลฟ์ เซฟตี้ แอนด์ เรสคิว จำกัด ภูเก็ต
147 หน่วยกู้ภัยอโสกสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์
148 มูลนิธิสว่างสำเร็จเชียงใหม่
149 บรรเทาสาธารณภัย ใต้ 48-00
150 มูลนิธิวัดพระธาตุดอยตุง
151 สมาคมกู้ชีพเจริญเมือง
152 เทศบาลเมืองต้นเปา / ศูนย์ อปพร.ทม.ต้นเปา อ สันกำแพง จ เชียงใหม่
153 สมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ใต้ตอบโต้ภัยพิบัติเชียงใหม่
154 สมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ใต้ตอบโต้ภัยพิบัติลำพูน
155 กู้ภัยพิเศษพิงค์นคร จ.เชียงใหม่
156 หน่วยกู้ภัยสว่างอุทยานธรรมสถาน พานทอง ชลบุรี
157 มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ จ.สระแก้ว
และยังมีอีกหลายๆทีมที่ยังไม่ได้รายงานตัวเข้าระบบ

 

@thebetter.th

นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ กางโพย เเถลงตรวจเยี่ยมน้ำท่วมเชียงราย ลดเเล้ว ไม่ต้องห่วงอาหารมีเพียงพอ #thebetter #ข่าวการเมืองวันนี้ #เทรนด์วันนี้ #น้ำท่วมเชียงราย #นายกฯแพทองธาร

♬ เสียงต้นฉบับ - The Better

https://www.tiktok.com/@thebetter.th/video/7414079654451105042?lang=en


Uruda Covin
13 hours ago
·
คนต้องการความช่วยเหลือเยอะ
คนมาช่วยจากต่างจ.ก็เยอะ
เป็นเอกชน กลุ่มต่างๆ หน่วยกู้ภัย
ของบริจาคก็เยอะ
แต่เนี่ย ศูนย์บัญชาการน้ำท่วมเชียงรายอยู่ไหน
อย่าบอกว่าให้โทร.เข้าไปถามตรงนั้นตรงนี้ เพราะโทร.ไม่ติดค่ะ
คนเข้ามาช่วย เราว่า ตอนนี้เป็นพันคนได้นะ เราควรใช้เขาให้เต็มศักยภาพ คอยจัดการเรื่องต่างๆ อำนวยความสะดวกให้เขาทำงานได้เต็มที่น่ะ
ต้องมีศูนย์บัญชาการเป็นเรื่องเป็นราวแล้วมั้ย
จะจัดการกี่โมงคะ
ไม่ใช่ให้คนที่เดินทางมาช่วยต้องคอยถามในกลุ่มคนเชียงรายว่าไปช่วยทางไหนดี ไปแจกของทางไหนดี
ตกลงนี่เราไม่มีรัฐแล้วใช่ไหม มีแต่ประชาชนหรือยังไง


อันนี้ ต้องมีวงเล็บ (แค่เทคนิคหาเสียง) หรือเปล่า


พรรคเพื่อไทย
14 hours ago
·
นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมอภิปรายในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ในนโยบายการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่านโยบายรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะมุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แก้ปัญหารัฐราชการรวมศูนย์ รวมถึงเดินหน้าทวงคืนความยุติธรรมให้คนเสื้อแดง เพื่อนำประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
.
นายก่อแก้ว พิกุลทอง กล่าวว่าเหตุการณ์รัฐประหาร 2557 คือจุดเริ่มต้นที่มาของรัฐธรรมนูญปี 60 โดยกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับประชาชน เมื่อมีการจัดทำประชามติ ก็มีพี่น้องที่รณรงค์ไม่เห็นด้วยถูกจับดำเนินคดี 212 คนรวมถึงตนและเพื่อนพ้อง รัฐธรรมนูญปี 60 จึงเป็นรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นบนฐานความคิดไม่ไว้วางใจนักการเมืองซึ่งเป็นตัวแทนประชาชน หรืออีกนัยหนึ่ง ความไม่ไว้วางใจประชาชนจึงเป็นที่มาของการวางกลไกพิเศษผ่านสารพัดองค์กรที่ได้รับการสถาปนาอำนาจไว้เกินพอดี ทับซ้อนองค์กรที่มาจากประชาชน เพื่อควบคุม ตรวจสอบอย่างเข้มเข้น โดยเป็นการจัดวางกล-เกม-คน ในกระดานอำนาจเพื่อพวกพ้องของตนเองเท่านั้น และเมื่อใดก็ตามที่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้งเข้ามาและหากถูกมองว่าจะเป็นภัยคุกคาม กลไกที่ซุกซ่อนไว้ก็จะถูกหยิบขึ้นมาใช้งานได้ทันที
.
นอกจากนี้ องคาพยพของการรัฐประหาร จึงได้วางกรอบ “ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” เพื่อครอบคลุมการบริหารราชการแผ่นดินทั้ง 6 ด้านไว้ และยุทธศาสตร์ชาตินี้ก็มีสถานะพิเศษกว่า “แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาต” เพราะมีสภาพบังคับ หากรัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐไม่ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ก็จะมีความผิดและบทลงโทษตามมา
.
รัฐธรรมนูญปี 60 จึงเป็นค่ายกลกักขังพัฒนาการของระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะเป็นรัฐธรรมนูญที่เรา ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งฝ่ายไหน มีโอกาส และพื้นที่ อย่างเท่าเทียมกัน ในการเข้าไปร่วมออกแบบกติกาใหม่ โดยการยอมรับและมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้เราอยู่ร่วมกันได้
.
อีกปัญหาสำคัญคือ ระบบรัฐราชการแบบรวมศูนย์ ที่การทำงานระหว่างหน่วยงาน มีอำนาจและบทบาทซ้ำซ้อน เทอะทะ และเชื่องช้า มีรูปแบบการชี้วัดการทำงานแต่ไม่สะท้อนความต้องการประชาชนและไม่ทันต่อภารกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และสิ่งที่สำคัญกว่านั้น ตลอดสิบกว่าปี มีความพยายามรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง ทำให้เกิดปัญหาเชิงระบบยากเกินแก้ไข
.
นโยบายของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จึงไม่ใช่ขยายพื้นที่รัฐราชการ แต่คือการสร้างและขยายโอกาสให้คนทั้งประเทศ มีสิทธิ์คิด เลือก และดำเนินชีวิตตามที่ต้องการ รัฐไม่มีกำลังจ่ายเงินเดือนให้คนทุกคน แต่ต้องมีปัญญาสร้างโอกาสให้ประชาชน และผมมั่นใจว่ารัฐบาลนี้ทำได้
.
หากนับในช่วงรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพรรคเพื่อไทยได้ร่วมกับทุกพรรคการเมือง เดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญตั้งแต่วาระแรกของการประชุมคณะรัฐมนตรี จนได้เป็นแนวทางการจัดทำประชามติ ด้าน สส.พรรคเพื่อไทยก็เสนอยื่นแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้มี สสร.รวมถึงแก้ พ.ร.บ.ประชามติฯ ซึ่งเราทำทุกหนทางเพื่อให้รัฐธรรมนูญประชาชน “เป็นจริง” ได้มากที่สุด รวดเร็วที่สุด และพี่น้องมีส่วนร่วมมากสุด
.
จากนี้ไปอีก 3 ปี ระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้ ผมเชื่อมั่นว่า รัฐบาลที่นำโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันนี้ คือการกำหนดหมุดหมายสำคัญ ทั้งเรื่องของประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ และสถาปนาอำนาจที่เป็นของพี่น้องประชาชน การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วม ให้มีหลักการประชาธิปไตยแบบสากล จะเกิดขึ้น
.
เราจะได้เห็นการแก้ไขปัญหาระบบราชการด้วยการปลดล็อกรัฐราชการรวมศูนย์ เห็นการกระจายอำนาจ และทรัพยากรสู่ท้องถิ่น เปลี่ยนผ่านราชการไทยสู่ระบบดิจิทัล นำระบบเทคโนโลยีมาใช้ ประชาชนจะได้รับความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาและเงินทอง
.
นอกจากนี้ นายก่อแก้ว ยังกล่าวถึงกฏหมายทวงคืนความยุติธรรม หรือที่เรียกว่าร่างแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเรื่องวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่องนี้ตนเป็นแกนนำในการดำเนินการและมีพันธสัญญาในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวจนกว่าจะมีการดำเนินคดีในชั้นศาล ก่อนหน้านี้กฏหมายดังกล่าวได้ปรับปรุงแก้ไขจากนักกฏหมายในหลายด้านเพื่อให้มีทิศทางเดียวกัน ปิดช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นและจะเสนอเขาสภาพิจารณาในไม่ช้า รวมถึงต้องขอแรงทุกท่านช่วยคืนความยุติธรรมสู่ลูกหลาน พิสูจน์ว่าลูกหลานคนเสื้อแดงนั้นคือผู้บริสุทธิ์และผู้สั่งการจะต้องรับผิดชอบ
.
“นโยบายของรัฐบาลชุดนี้ มุ่งสร้างโอกาส ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน บนหลักการประชาธิปไตย โดยยึดโยงกับความจริงของประเทศ ไม่ได้ขายฝัน แต่เอาความจริงมามอบให้ ไม่ได้ทำลายฝันของใคร แต่จะสร้างสังคมไทยที่เป็นจริง ให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข” สส.บัญชีรายชื่อ กล่าว
 
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1107917037370611&set=a.508934057268915


เกรด นายกแถลงนโยบาย และการอ่านโพยน้ำท่วม ออกแล้ว ส่วนมากให้คะแนนไม่ค่อยดี (C) สำนักคนเป็นนายก


The Politics ข่าวบ้าน การเมือง
8 hours ago
·
ผลโพล
.....








Atukkit Sawangsuk
a day ago
·
อุ๊งอิ๊งตอบฝ่ายค้าน
สะท้อนความไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอสำหรับตำแหน่งนายกฯ
ว่าเขาเป็นฝ่ายแค้นเพราะชนะที่ 1 ไม่ได้เป็นรัฐบาล
อ้าง 10.9 ล้านเสียงแบบมีปมของผู้แพ้อยู่ในใจ
:
อย่างไรก็ตาม เท้งก็ไม่ควรใช้คำว่า “นายใหญ่”
ท่อนที่พูดถึง “นายใหญ่ นายทุน นายหน้า” ไม่จำเป็นเลย
ถ้าตัดท่อนนี้ออกไป จะครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งเนื้อหาและท่าที (ที่ชวนแก้ไขรัฐธรรมนูญ)
:
พรรคประชาชนต้องวางจุดให้เหมาะสมระหว่างการให้โอกาส การให้เขาพิสูจน์ตัวเอง (ให้เขาสอบตกด้วยตัวเอง) ตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์ตามเนื้อผ้า ไม่จำเป็นต้องเร่งเกินไป



อ่านสีหน้า คามารา แฮริส คิดอะไร ตอนฟังทรัมป์พูด


WTFGOP @DogginTrump

As a teacher, let me help you out with these faces: 

1. That's right fool, dig that hole 
2. Seriously? 
3. WTF? 
4. There's ridiculous & then there's whatever nonsense that is 
5. No, seriously, what the fuck is wrong with you? 
6. Say what? 
7. Damn, you are stupid 
8. I will end you 
9. Bitch, please 
10. Just STFU already (shut the fuck up)





วิธีใช้ 112 แล้วสถานการณ์จะดีขึ้น ""ตรงไหนน้ำท่วมไร้การเหลียวแล ให้บอกมีคนหมิ่น ม.112 จนท. มาถึงที่"



Nithiwat Wannasiri
3 hours ago
·
"ตรงไหนน้ำท่วมไร้การเหลียวแล
ให้บอกมีคนหมิ่น ม.112 จนท. มาถึงที่
ยิ่งบอกเพนกวิน, ไมค์ ระยอง ซ่อนตัวอยู่แถวนี้ยิ่งดี"
Via เอกชัย หงส์กังวาน
ภาพประกอบโดย ทิวากร วิถีตน ผู้ถูกสั่งขังคุกด้วยม.112 6ปี เพราะใส่เสื้อหมดศรัทธาฯ


ไผ่ ดาวดิน และครูใหญ่ อรรถพล ถูกศาลขอนแก่นสั่งจำคุกด้วยมาตรา112 จากการปราศัยบนเวทีที่ภูเขียว ไม่ให้ประกันตัว


Nithiwat Wannasiri
1 hour ago
·
ไผ่ ดาวดิน และครูใหญ่ อรรถพล ถูกศาลขอนแก่นสั่งจำคุกด้วยมาตรา112 จากการปราศัยบนเวทีที่ภูเขียว ไม่ให้ประกันตัว
.....


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
6 hours ago
·
จำคุก “ไผ่” 2 ปี 12 เดือน “ครูใหญ่” 2 ปี ผิด ม.112 เหตุปราศรัยปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ที่ภูเขียว เข้าเรือนจำรอศาลอุทธรณ์สั่งประกัน
.
.
13 ก.ย. 2567 ศาลจังหวัดภูเขียวนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ “ไผ่” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และ “ครูใหญ่” อรรถพล บัวพัฒน์ นักกิจกรรมภาคอีสาน ถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 116, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้อนุญาต จากการปราศรัยประเด็นปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ในการชุมนุมหน้าโรงเรียนภูเขียวและ สภ.ภูเขียว เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564
.
โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามมาตรา 112 จำคุกคนละ 3 ปี เพิ่มโทษไผ่กึ่งหนึ่ง กรณีทำผิดซ้ำภายหลังพ้นโทษภายในเวลาไม่เกิน 3 ปี จำคุกไผ่ 4 ปี 6 เดือน จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกไผ่ 2 ปี 12 เดือน จำคุกครูใหญ่ 2 ปี ยกฟ้องในข้อหาตามมาตรา 116, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
.
องค์คณะผู้พิพากษา ได้แก่ สากล บุตรสำราญ และพิมลพรรณ ถิรางกูร
.
คดีนี้สืบพยานไปเมื่อกลางเดือน เม.ย. ถึงต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา โดยฝ่ายจำเลยมีข้อต่อสู้ว่า ผู้ชุมนุมและการชุมนุมมีการคัดกรอง สถานที่ชุมนุมโล่งกว้าง ไม่แออัด ไผ่และครูใหญ่ปราศรัยวิจารณ์รัฐบาลที่ออกกฎหมายส่งผลกระทบสถาบันกษัตริย์ เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมถึงปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ โดยการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงความเห็นที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่ได้เรียกร้องให้ล้มล้างสถาบันกษัตริย์ รวมถึงพยานหลักฐานที่เป็นคลิปของโจทก์ตลอดจนบันทึกการถอดเทปคำปราศรัยนั้นไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน
.
เวลา 10.00 น. ไผ่, ครูใหญ่ ทนายจำเลย พร้อมทั้งเพื่อน ๆ และประชาชนที่มาให้กำลังใจ ทยอยเดินทางมาถึงห้องพิจารณาคดีที่ 2 เพื่อฟังคำพิพากษา จนเต็มม้านั่งในห้องพิจารณาคดี
.
ราว 11.00 น. ศาลออกนั่งอ่านคำพิพากษามีสาระสำคัญในส่วนที่เป็นคำวินิจฉัยใน 4 ประเด็น โดยสรุปดังนี้
.
1. ความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
.
ช่วงเกิดเหตุสถานการณ์การแพร่ระบาดทุเลาเบาบาง เห็นได้จากโรงเรียนเปิดทำการเรียนการสอน on site จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วงนั้นลดจำนวนลง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิยังจัดกิจกรรมประกวดเยาวชนต้นแบบ มีเยาวชนเข้าร่วมจำนวนไม่น้อย
.
สอดคล้องกับพยานโจทก์ปากสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิเบิกความว่า การจัดกิจกรรมจะมีความเสี่ยงสูงเมื่อมีผู้เข้าร่วมเป็นไข้ ถ้าผู้เข้าร่วมไม่แสดงอาการ การชุมนุมก็มีความเสี่ยงต่ำ เมื่อผู้ชุมนุมในคดีนี้ผ่านการตรวจคัดกรองแล้ว ไม่พบคนที่ติดเชื้อ การชุมนุมย่อมมีความเสี่ยงต่ำ จำเลยทั้งสองกับพวกย่อมทำกิจกรรมได้เช่นเดียวกับการประกวดเยาวชนต้นแบบ
.
ประกอบกับสถานที่จัดกิจกรรมล้วนโล่งแจ้ง อากาศถ่ายเท มีพื้นที่กว้าง ไม่แออัด ผู้ชุมนุมเดินไปมาได้ มีการรวมกลุ่มก็เพียงบางช่วง ไม่นาน แม้มีบางคนไม่สวมหน้ากากอนามัย แต่ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุไม่ปรากฏมีผู้ติดเชื้อ การเข้าร่วมชุมนุมของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
.
2. ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ
.
เห็นว่า พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ มาตรา 4 บัญญัติไว้ว่า ผู้ที่จะทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง ต้องขอรับการอนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อน ดังนั้น ผู้ที่มีหน้าที่ขออนุญาตคือผู้จัดให้มีกิจกรรม แต่ไม่มีพยานโจทก์ปากใดเบิกความว่า จำเลยทั้งสองเป็นผู้จัดการชุมนุม พยานหลักฐานของโจทก์ไม่พอยืนยันว่า จำเลยที่ทั้งสองเป็นผู้จัดกิจกรรม แม้จำเลยทั้งสองจะเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แต่จะอาศัยเพียงข้อเท็จจริงดังกล่าวมาพิจารณาเป็นโทษต่อจำเลย ก็จะเป็นผลร้ายต่อจำเลยเกินไป จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ
.
3. ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
เห็นว่า การกระทำที่จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ผู้กระทำต้องมีมูลเหตุจูงใจที่ชัดเจน แม้ได้ความจากพยานโจทก์ว่า จำเลยทั้งสองปราศรัยโจมตีรัฐบาล แต่ไม่ปรากฏว่ามีการยุยงปลุกปั่นเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดจะก่อความไม่สงบหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตรงกันข้ามพยานโจทก์ได้ตอบคำถามค้านทนายจำเลยว่า ระหว่างการชุมนุมไม่มีบุคคลถูกทำร้าย ผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธหรือก่อเหตุรุนแรง
.
ยิ่งเมื่อพิจารณาจากข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่ต้องการให้ตำรวจขอโทษนักเรียนที่ถูกคุกคามไม่ให้ไปร่วมกิจกรรมค่าย พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่เพียงพอรับฟังได้ว่า จำเลยทั้งสองมีมูลเหตุจูงใจที่จะทำให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดก่อให้เกิดความไม่สงบหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2) (3)
.
4. ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
.
จำเลยที่ 1 ปราศรัยถ้อยคำว่า “ปัญหาของสังคมไทยที่ยาวนานก็คือสถาบันพระมหากษัตริย์…” ประชาชนที่ได้รับฟังย่อมเกิดความรู้สึกว่า พระมหากษัตริย์ไม่ดูแลประชาชน อันเป็นการกล่าวหาพระมหากษัตริย์ว่า ไม่อยู่ในทศพิธราชธรรม เป็นการด้อยค่าสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้
.
ที่จำเลยอ้างว่า สถาบันกษัตริย์ที่พยานพูดมีความหมายถึง กลุ่มเครือข่ายชนชั้นนำที่ได้ผลประโยชน์จากความเหลื่อมล้ำ หากเป็นเช่นนั้นจริง จำเลยที่ 1 ก็ชอบที่จะใช้คำอื่นที่สื่อความหมายได้ตรงมากกว่า คำเบิกความของจำเลยที่ 1 ไม่สมเหตุสมผล ไม่น่าเชื่อถือ การกระทำของ จำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดฐานดูหมิ่น หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์
.
สำหรับคำปราศรัยของจำเลยที่ 2 “ต้องไม่เอานโยบายรัฐบาลไปผูกขาดสัมปทาน…” ประชาชนที่รับฟังอาจเข้าใจว่า พระมหากษัตริย์สั่งระเบิดภูเขา อันเป็นการใส่ความพระมหากษัตริย์ ทำให้พระมหากษัตริย์เสื่อมเสียพระเกียรติ
.
พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำคุกคนละ 3 ปี จำเลยที่ 1 เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน และได้กระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ซ้ำในอนุมาตราเดียวกันภายใน 3 ปี นับแต่วันพ้นโทษ เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 กึ่งหนึ่ง จำคุกจำเลยที่ 1 กำหนด 4 ปี 6 เดือน จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 กำหนด 2 ปี 12 เดือน จำเลยที่ 2 กำหนด 2 ปี
.
ส่วนคำขอให้นับโทษจำคุกจำเลยทั้งสองในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีอื่น ไม่ปรากฏว่าศาลมีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวแล้วหรือไม่ และผลการพิพากษาเป็นอย่างไร จึงให้ยกขอในส่วนนี้ ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
.
หลังศาลจบการอ่านคำพิพากษา ไผ่และครูใหญ่ได้พูดคุยกับเพื่อนและญาติซักพักก่อนถูกควบคุมตัวลงไปห้องขังด้านหลังศาล ก่อนทนายจะยื่นประกันในช่วงบ่ายด้วยวงเงินประกันคนละ 300,000 บาท เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ศาลจะใช้เวลาในการพิจารณาสั่งนานหน่อย เนื่องจากต้องผลการประเมินความเสี่ยง
.
อย่างไรก็ตาม หลังรออยู่จนกระทั่งราว 15.30 น. เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ศาลมีคำสั่งส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิจารณา ยังไม่สามารถบอกได้ว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์จะลงมาเมื่อไหร่
.
ประมาณ 16.15 น. รถผู้ต้องขังของเรือนจำอำเภอภูเขียวควบคุมตัวผู้ต้องขังรวมทั้งไผ่และครูใหญ่ จากห้องขังศาลจังหวัดภูเขียวไปที่เรือนจำ ทั้งสองต้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำระหว่างรอฟังคำสั่งคำร้องขอประกันชั้นอุทธรณ์ ทำให้ผู้ต้องขังทางการเมืองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 44 คนแล้ว โดยเป็นผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 ถึง 30 คน
.
อ่านรายละเอียดบนเว็บไซต์: https://tlhr2014.com/archives/69896
.
ย้อนอ่านคำเบิกความพยานในชั้นศาล: https://tlhr2014.com/archives/69832





 

5 เรื่องใหญ่วัดใจรัฐบาล กล้าแก้ปัญหาทุนต่างชาติหรือไม่ ขณะที่ พิชัย วอน อย่าโจมตีสินค้าจีน


พรรคประชาชน - People's Party
11 hours ago
·
[ 5 เรื่องใหญ่แก้วิกฤตการผลิตไทย รัฐบาลกล้าทำหรือไม่? ]
.
หลายปีที่ผ่านมานี้เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับการไหลทะลักของสินค้านำเข้าผ่านหลายช่องทาง ทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์ การทุ่มตลาดด้วยสินค้าราคาต่ำ และการประกอบธุรกิจผ่านนอมินีของคนต่างชาติ จนผู้ประกอบการไทยประสบความเดือดร้อนกันไปทั่ว
.
แม้รัฐบาลจะดูใส่ใจกับเรื่องนี้ โดยมีการบรรจุประเด็นปัญหาอยู่ในคำแถลงนโยบาย กล่าวถึงความท้าทายที่ SMEs กำลังเผชิญการแข่งขันด้านราคาของสินค้านำเข้า และการวางนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการทันทีในการดูแล ส่งเสริม และปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมของคู่แข่งทางการค้าต่างชาติ
.
แต่ในความเป็นจริง 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลเดียวกันนี้แทบไม่ได้ทำอะไร กล้าๆ กลัวๆ ดังที่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ว่าจะ “ไม่เน้นการตอบโต้ เพราะอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและหวั่นจะกระทบการส่งออก”
.
นั่นคือการเปิดหัวย้อนทบทวนมาตรการของรัฐบาลที่ผ่านมา โดย ดร.ชาย สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ซึ่งได้ร่วมอภิปรายซักถามต่อการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (12 ก.ย.)
.
การปล่อยปละละเลยที่ผ่านมาของรัฐบาล ย่อมมีส่วนไม่น้อยที่ทำให้ในปี 2566 ไทยขาดดุลการค้าจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์คือ 1.3 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 7% ของ GDP สอดคล้องกับที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยประเมินผลกระทบจากสินค้าต่างชาติราคาต่ำ ว่ากระทบมากถึง 25 กลุ่มอุตสาหกรรม จาก 46 กลุ่ม ตั้งแต่ต้นปี 2567 โรงงานปิดตัวเฉลี่ย 111 โรงต่อเดือน กำลังการผลิตในโรงงานหลายแห่งลดต่ำกว่า 30%
.
[ 3 มิติการรุกคืบทุนต่างชาติยึดหัวหาดเศรษฐกิจไทย ]
.
ทุนต่างชาติรุกคืบเศรษฐกิจไทยได้ไหลลื่นด้วยปัจจัย 3 ด้าน
.
ด้านที่ 1) จากนโยบายรัฐบาลที่เชิญชวนต่างชาติให้มาลงทุน โดยหวังให้นักลงทุนมาอุดหนุนผู้ประกอบการไทย ซื้อ local content จากผู้ประกอบการไทย
.
แต่กลับกลายเป็นว่าต่างชาติขนมาทั้งห่วงโซ่อุปทาน เช่น มาตรการส่งเสริมการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า ที่รัฐบาลหวังว่าค่ายรถจะมาซื้อชิ้นส่วนในประเทศ แต่ปรากฏว่ามีการซื้อ local content น้อยมาก ไม่ถึง 20,000 ล้านบาทอย่างที่รัฐบาลเคยอ้างถึง โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ระบุว่ามูลค่าที่เกิดขึ้นจริงมีเพียงหลักร้อยล้านเท่านั้น เพราะมีเพียง 2 ค่ายรถ EV ที่มีแนวโน้มใช้ local content จริงจัง
.
ด้านที่ 2) สินค้าราคาต่ำจากต่างชาติผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่วันนี้ขายทุกอย่าง ที่ผ่านมาคนไทยบริโภคสินค้าจีนมากขึ้นทุกประเภท ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ SME ไทยที่เน้นขายสินค้าราคาต่ำและต้องพึ่งพาตลาดในประเทศ
.
ที่น่ากลัวคือสินค้าจำนวนมากมีข้อน่ากังวลเรื่องความปลอดภัย ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง อาหารเสริม ซึ่งสินค้าจำนวนมากบนแพลตฟอร์มออนไลน์ไม่มีทั้ง มอก. และ อย.
.
ไม่ใช่แค่สินค้าออนไลน์เท่านั้นที่กำลังก่อปัญหา แต่สินค้าผ่านช่องทางปกติก็เช่นกัน อย่างกรณีผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหล็กคุณภาพต่ำที่ถูกนำเข้า โดยอาศัยช่องโหว่ระบุพิกัดศุลกากรเป็นพิกัดอื่นเพื่อเลี่ยงภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด หรือ AD (Anti-dumping) ที่ส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
.
ด้านที่ 3) การใช้นอมินี ซึ่งปัจจุบันเกิดขึ้นในทุกธุรกิจในทุกพื้นที่ ตั้งแต่ร้านอาหาร ท่องเที่ยว เกษตร ขนส่ง อสังหาริมทรัพย์ สถาบันการศึกษา ผับ บาร์ ครอบคลุมทุกภาคของประเทศ
.
ตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความรุนแรง อย่างเช่น ในภาคเกษตร ที่วันนี้มีการรุกไปในหลายสินค้า มีทุนต่างชาติทั้งเข้ามาปลูกและมารับซื้อในประเทศไทยเอง เช่น ลำไย ที่วันนี้ที่ลำพูนมีล้งลำไย 5 เจ้าเป็นของทุนต่างชาติ ซึ่งคาดว่าเครือข่ายเดียวกันทั้งหมด ปีหนึ่งลำพูนผลิตลำไย 2 แสนตัน มากสุด 4 แสนตัน
ถ้าทุนต่างชาติร่วมกันกดราคาเหลือแค่กิโลกรัมละ 1 บาท ก็ทำให้รายได้ของเกษตรกรลำไยในลำพูนหายไปแล้ว 400 ล้านบาท
.
อีกกรณีตัวอย่างคือธุรกิจขนส่ง สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยเคยยื่นข้อร้องเรียนถึงกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ ว่าปัจจุบันมีรถบรรทุกจากต่างชาติโดยเฉพาะจีน เข้ามาวิ่งในไทยร่วม 10,000 คัน โดยรถเหล่านี้ขนสินค้าที่สั่งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์วันละหลายแสนชิ้น ไม่มีมาตรฐาน ราคาต่ำ โดยวิธีการคือต่างชาติมาซื้อหัวบริษัทไทย หรือไม่ก็ตั้งบริษัทเองโดยหานอมินีมาถือหุ้น ทั้งหมดเพื่อให้ได้ใบอนุญาตขนส่ง
.
ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมถึงการรุกเข้ามาของทุนต่างชาติในรูปแบบอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น
.
๐ แอปพลิเคชันรับชำระเงินต่างชาติ ที่ร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งวันนี้ QR Code ที่ให้สแกนเป็นการโอนเงินไปบัญชีธนาคารในต่างประเทศโดยตรง
๐ ขนส่งจากต่างชาติ ที่ปัจจุบันมีการดำเนินการการอย่างผิดกฎหมาย ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก หรือการใช้นอมินี ขนสินค้าราคาต่ำคุณภาพไม่ได้มาตรฐานเข้ามาในประเทศไทยง่ายมาก และมีการโฆษณากันอย่างโจ่งแจ้ง
๐ การใช้วีซ่าผิดประเภท ทั้งฟรีวีซ่าและวีซ่านักเรียนนักศึกษาไปทำงาน ซึ่งปัจจุบันปรากฏในภาพข่าวทั่วไปถึงกรณีการตรวจจับพบคนงานใช้วีซ่าผิดประเภท
๐ สำนักงานบัญชี สำนักงานทนายความ ที่เป็นตัวการสำคัญช่วยจัดตั้งธุรกิจนอมินี ซึ่งปีที่แล้วกรมพัฒนาธุรกิจการค้าตรวจพบ 2 สำนักงานบัญชีทนายความที่เป็นคนช่วยจัดตั้งบริษัท โดย 2 รายนี้จัดตั้งบริษัทมามากกว่า 200 บริษัท
๐ ซุปเปอร์แอพของต่างชาติ ทั้งสั่งอาหาร ของใช้ บริการ Delivery ค่าบริการโอนไปต่างประเทศโดยตรง บางครั้งคนส่งของเป็นคนต่างชาติด้วยซ้ำ
.
“จากสถานการณ์ทั้งหมด ทำให้เงินไหลออกไปต่างชาติทั้งหมด ผู้ประกอบการไทยแข่งขันไม่ได้จนต้องปิดตัว ผู้บริโภคไทยเสี่ยงอันตรายจากสินค้าคุณภาพต่ำ แรงงานไทยถูกแย่งงาน และในระยะยาว เมื่อผู้ประกอบการไทยตายไปแล้ว โครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศจะมีความเสี่ยงถูกผูกขาดจากธุรกิจต่างชาติ แพลตฟอร์มออนไลน์ขึ้นค่าธรรมเนียมได้ไม่จำกัด คนที่เป็นเจ้าตลาดกำหนดราคาได้ คนซื้อก็ผูกขาดกำหนดราคารับซื้อได้”
.
[ 5 คำถามที่รัฐบาลต้องตอบ วัดใจความจริงจังแก้ปัญหาทุนต่างชาติ ]
.
สิทธิพลชี้ว่าเมื่อสถานการณ์ย่ำแย่และรุนแรงมากขึ้น ผ่านไป 1 ปี รัฐบาลจึงรู้ตัวว่าต้องดำเนินการอะไรสักอย่างแล้ว และได้มีการออกมาตรการมา 5 ข้อ พร้อม 63 แผนปฏิบัติการ ตามมติ ครม. วันที่ 3 กันยายน 2567
.
ซึ่ง 5 มาตรการดังกล่าวหากอ่านผ่านๆ ก็ดูดีทุกข้อ แต่ก็ทำให้เกิดคำถามที่รัฐบาลต้องตอบให้ได้เช่นกัน คือ
.
1) มาตรการเกี่ยวกับการตรวจจับสินค้าไม่มีมาตรฐาน หรือ มอก. ซึ่งในปี 2566 มีการดำเนินคดียึดอายัดสินค้าได้เพียง 200 ล้านบาท จากตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีมูลค่าปีหนึ่งหลักแสนล้าน ซึ่งถือว่าน้อยมาก นั่นเป็นเพราะปัจจุบันเรามี มอก. ที่สามารถไปยึด อายัด และดำเนินคดี ได้เพียง 144 มาตรฐาน
.
คำถามคือในเมื่อสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ก่อตั้งมาหลายปี การเพิ่งมีมาตรฐานออกไปเพียง 144 มาตรฐาน จะเพิ่มทันกับปัญหาหรือไม่? การที่ สมอ. ไม่มีอำนาจดำเนินการกับผู้สั่งซื้อสินค้าตรงจากแพลตฟอร์มต่างประเทศจะทำอย่างไร? การเพิ่มอัตราการเปิดตู้สินค้า จะเพิ่มเท่าไร ป้องกันการหลุดรอดได้แค่ไหน? ปัจจุบันมีการจ่าย “ภาษีเหมา” รัฐบาลจะแก้ปัญหานี้อย่างไร? คลังสินค้าทัณฑ์บน ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับเก็บสินค้าเพื่อส่งออกโดยไม่ต้องเสียภาษี ปัจจุบันมีความเสี่ยงสินค้าถูกลักลอบเอาออกมาขายในประเทศโดยไม่จ่ายภาษี จะแก้ไขอย่างไร?
.
2) ปัญหานอมินี ที่ทั้งปี 2566 มีการจับกุมได้ 8 ราย ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลโดยดีเอสไอ พบว่า 2 ราย เป็นสำนักงานบัญชีและสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเป็นผู้ถือครองหุ้นถึง 267 บริษัท
.
คำถามคือเป็นไปได้อย่างไร ที่กรณีนอมินีเกิดขึ้นทั่วบ้านทั่วเมืองขนาดนี้แต่กลับจับได้แค่ 2 ราย?
.
ปัญหาคือที่ผ่านมาการตรวจสอบนอมินีมีการปฏิบัติที่ทั้งน้อยเกินไป โทษเบาเกินไป คืบหน้าช้า คนทำผิดลอยนวล ส่งผลให้ไม่เกิดความเกรงกลัว จึงพากันทำกันเป็นล่ำเป็นสัน
.
3) การกำกับแพลตฟอร์มต่างชาติ ทั้งประเด็นให้มีสำนักงาน และจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหากขายสินค้า
.
คำถามคือกรณีกำกับแพลตฟอร์มให้จดทะเบียนนิติบุคคลและมีสำนักงานในไทย ไม่ทราบกฎหมายเศรษฐกิจแพลตฟอร์มดิจิทัลคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว จะเสร็จเมื่อไหร่? ที่กระทรวงพาณิชย์เคยบอกว่าอาจขัดต่อข้อตกลงหรือมาตรฐานการค้าระหว่างประเทศ สรุปแล้วขัดหรือไม่ขัด? และถ้าแพลตฟอร์มละเลยปล่อยให้มีสินค้าไม่มี อย. หรือ มอก. อยู่บนแพลตฟอร์ม กฎหมายลงโทษได้หรือไม่ เช่น สั่งปิดแพลตฟอร์มหรือบางส่วนของแพลตฟอร์มได้หรือไม่?
.
ส่วนเรื่องมาตรการให้ผู้ค้าต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม คำถามคือถ้าไม่จดจะทำอย่างไร? แพลตฟอร์มต่างชาติที่ยังมาขึ้นทะเบียน VAT on Electronic Service (VES) ไม่ครบ และที่ขึ้นทะเบียนแล้วมีแนวโน้ม แจ้งรายได้ต่ำกว่าความจริง กรมสรรพากรมีอำนาจบังคับหรือไม่?
.
4) การให้กรมการค้าต่างประเทศอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการ ในการใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า คำถามคือจะทำอย่างไร? โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้นำเข้าเลี่ยงไปใช้พิกัดศุลกากรอื่นทำให้ไม่ต้องเสียภาษี AD ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการตอบโต้ทางการค้า เช่นนี้รัฐจะทำอย่างไร?
.
สิทธิพลให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ได้สอบถามแนวทางแก้ปัญหาไปยังหน่วยงานผู้รับผิดชอบ ทั้งกรมการค้าต่างประเทศ กรมศุลกากร และ สมอ. ต่างก็ตอบว่าได้ดำเนินการครบถ้วนตามกรอบอำนาจที่หน่วยงานมีแล้วทั้งสิ้น
.
5) การช่วยเหลือ SMEs ขยายการส่งออกผ่าน e-commerce คำถามคือจะทำอะไร และต่างจากที่ผ่านมาอย่างไร? ตามแผนนี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยบูรณาการแผนงานและส่งเสริมพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของ SMEs ซึ่งในปี 2566 สสว. มีโครงการสร้างความพร้อมให้ SMEs ที่เน้นเรื่องความเป็นสากล ใช้งบประมาณไปจำนวนมาก แต่จากการประเมินพบว่าความคุ้มค่าต่ำกว่างบประมาณที่ใช้ คำถามคือ สสว. จะทำอะไรได้ดีกว่าเดิม?
.
ในเรื่องขยายการส่งออกสินค้าไทยผ่าน e-commerce จะทำอะไรและทำอย่างไร? จะป้องกันการปลอมแปลงสินค้าไทยที่ขายกันอย่างเกลื่อนกลาดอยู่บนแพลตฟอร์มของต่างชาติอย่างไร? จะเอาสินค้าใหม่ๆ ไปบุกตลาดต่างชาติอย่างไร?
.
[ 1 ปีแห่งความสูญเปล่า : รัฐบาลจะปกปองผลประโยชน์ผู้ประกอบการไทยได้กี่โมง? ]
.
สิทธิพลชี้ว่านอกจาก 5 มาตรการที่รัฐบาลออกมาแล้ว สิ่งที่รัฐบาลใหม่ต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน ก็คือปัจจัยสนับสนุน
.
ทั้งแอปพลิเคชันโอนเงินไปต่างชาติ ขนส่งผิดกฎหมาย ใช้วีซ่าผิดประเภท กำจัดสำนักงานบัญชีหรือทนายความที่ให้การสนับสนุนนอมินี กำกับแอปพลิเคชันที่ให้บริการธุรกิจต่างชาติอย่างเหมาะสม เพื่อลดความรุนแรง และตัดวงจรปัญหา
.
และสุดท้าย รัฐบาลควรถอดบทเรียนจากมาตรการที่ต่างประเทศที่ใช้ในการดูแลผู้ประกอบการ ซึ่งปัจจุบันทุกประเทศล้วนมีมาตรการพิเศษเพื่อช่วยผู้ประกอบการ เช่น สหรัฐอเมริกาที่ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าสินค้าจากจีนหลายรายการ หรืออินโดนีเซียที่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างชาติหลายรายการ ทั้งสิ่งทอ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ซึ่งเราสามารถถอดบทเรียนมาปรับได้ตามความเหมาะสม
.
คำถามสุดท้ายที่ประชาชนและภาคเอกชนฝากมา คือสิ่งที่รัฐบาลระบุไว้ในคำแถลงนโยบายว่า “จะปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการไทย” คำถามคือกี่โมง?
.
#พรรคประชาชน #แถลงนโยบาย #ประชุมสภา #sme





 

คลิปอภิปรายในสภาฯของ รอมฎอน ปันจอร์ ที่ดุดัน ไม่เกรงใจใครเมื่อวาน โดยตั้งใจสื่อสารกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง ถึงปัญหาความขัดแย้งในชายแดนภาคใต้/ปาตานี


Romadon Panjor - รอมฎอน ปันจอร์
a day ago
·
วันนี้ผมได้ร่วมอภิปรายนโยบายของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ครับ ตั้งหัวข้อไว้ว่า “โอกาสของลูกสาว อากาศของประชาชน: จังหวัดชายแดนภาคใต้ในมือรัฐบาลแพทองธารในอีก 20 ปีต่อมา” โดยตั้งใจสื่อสารกับนายกรัฐมนตรีโดยตรงว่าปัญหาความขัดแย้งในชายแดนภาคใต้/ปาตานีนั้นไม่ใช่อะไรอื่น หากแต่เป็นมรดกตกทอดมาสู่รุ่นเรา ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมาเราผ่านนายกรัฐมนตรีมา 8 คน ใน 10 รัฐบาล
แม้ในคำแถลงนโยบายครั้งนี้จะมีอยู่เพียงประโยคเดียว แต่มีความหมายมาก เพราะอยู่ในนโยบายการจัดทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็อยู่ในกลุ่มเดียวกับแนวทางฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งและการปฎิรูประบบราชการและกองทัพ แม้รายละเอียดจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่การจัดวาง “จังหวัดชายแดนาภาคใต้” อยู่ตรงนี้เท่ากับเป็นการมองว่า “ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้” เป็นปัญหาทางการเมือง อันเป็นก้าวสำคัญในการมองปัญหาที่แตกต่างไปจากคำแถลงของรัฐบาลก่อน ปัญหาการเมืองนั้นต้องการการแสวงหาทางออกทางการเมืองครับ
ผมยังได้ไล่เรียงให้เห็นบทเรียนสำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเฉพาะ 1 ปีที่สูญเปล่าภายใต้การบริหารของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน รวมทั้งระบุประเด็นท้าทายที่นายกฯ แพทองธาร จะต้องรับมือในอนาคต
ผมทิ้งท้ายด้วยบทเรียนสำคัญจาก #โศกนาฏกรรม ตากใบ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลทักษิณ ผมเรนรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองต่อกรณีนี้ โดยเฉพาะการโน้มน้าวและแนะนำให้ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดีที่ราษฎรฟ้อง เดินทางไปเบิกความที่ศาล ก่อนจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้
ผมย้ำและขอคำยืนยันจากนายกรัฐมนตรีด้วยว่าการสังหารประชาชนจะต้องไม่เกิดขึ้นอีกครับ


ภาพสไลด์ของ “รอมฎอน” ที่โดนประท้วงกันวุ่นในสภาฯ เมื่อวาน


Romadon Panjor - รอมฎอน ปันจอร์
5 hours ago
·
ภาพสไลด์ของผมที่โดนประท้วงกันวุ่นในสภาฯ เมื่อวานครับ อาจเป็นเพราะปรากฎภาพของคุณทักษิณในประเด็นสำคัญ เจตนาของผมคือการเรียนรู้บทเรียนสำคัญที่คนรุ่นพ่อทิ้งเป็นมรดกให้กับคนรุ่นลูกเช่นผมและนายกฯ แพทองธาร เป็นภารกิจสำคัญที่เราต้องรับช่วงต่อ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม
เท่าที่มีการบันทึกไว้ มีผู้นำประเทศอย่างน้อย 2 คนที่เคยเอ่ยคำ #ขอโทษ #ขออภัย ต่อกรณี #โศกนาฏกรรมตากใบ หนึ่งในนั้นคือคุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ในระหว่างรายการ CareTalk X CareClubHouse (ลิงค์ในคอมเมนท์นาทีที่ 1.51.00-2.05.42) โดยมีพี่แยม Thapanee Eadsrichai เป็นผู้ตั้งคำถาม ในวันที่ครบรอบเหตุการณ์ 18 ปี และเหลืออายุความอีก 2 ปี
“ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้สั่งการ แต่ในฐานะที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ผมต้องขอโทษ ขออภัย บรรดาญาติพี่น้องของผู้ที่สูญเสียและผู้ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนั้นด้วย”
เนื้อหาการพูดคุยตลอด 15 นาทีนั้นน่าสนใจหลายอย่าง ทั้งรายละเอียดเหตุการณ์ในความทรงจำของเขา การเปิดเผยข้อมูลที่คุณทักษิณอ้างว่าได้มาจากตำรวจสันติบาลมาเลเซียว่าเหตุการณ์ตากใบเป็น plot หรือการวางงานที่ประสงค์จะล้มรัฐบาลของเขา พร้อมทั้งโยนคำถามให้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งในขณะนั้นเป็น ผบ.ทบ. พร้อมทั้งโยนความรับผิดชอบเหล่านี้ให้กับ #ทหาร รวมไปถึงเรื่องเล่าของเขาเกี่ยวกับการพบปะกับแกนนำบีอาร์เอ็นที่ร้านต้มยำกุ้งในมาเลเซีย
ทั้งหมดนี้เป็นที่มาของประเด็นที่ผมอภิปรายเมื่อวานเพื่อทวงถามกับ #รัฐบาลของลูกสาว หรือรัฐบาลภายใต้การนำของคุณแพทองธารว่าจะแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองใด ๆ หรือไม่กับกรณีที่คุณพ่อของท่านเคยพูดต่อสาธารณะเมื่อสองปีก่อน ผมเห็นว่านี่คือ #โอกาสของ #ลูกสาว ที่จะคืน #อากาศ ให้กับ #ประชาชน ซึ่งในความหมายนี้คือความยุติธรรม คือความจริงที่ว่าใครจะต้องรับผิดชอบต่อการตายและความสูญเสียที่กลายเป็นปมขัดแย้งสำคัญของสถานการณ์ไฟใต้มายี่สิบปี
รัฐบาลแพทองธารจะรับผิดชอบอย่างไรและจะรื้อฟื้นนิติธรรมที่เข้มแข็งได้อย่างไรหากไม่เผชิญหน้ากับ #อดีตอันเจ็บปวด นี้
อย่างน้อย ๆ ก็ควรต้องโน้มน้าวและแนะนำให้ #จำเลยที่1 ในคดีตากใบ ซึ่งเป็นหนึ่งใน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไปตามนัดของศาลในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ (ก่อนจะสิ้นอายุความในอีก 10 วันหลังจากนั้น) แล้วปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมได้เปิดเผยความจริงและคืนความยุติธรรมให้กับประชาชน
เย็นเมื่อวาน นายกฯ แพทองธาร พูดถึงข้อเรียกร้องของผมอยู่เล็กน้อย เธอบอกว่าในฐานะนายกรัฐมนตรี ขอน้อมรับคำแนะนำให้การเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์บาดแผล ยึดมั่นในหลักนิติธรรม และ “จะพยายามทำให้ถึงที่สุด” ซึ่งก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่การทำให้ถึงที่สุดนี้คืออะไร ผมยังคงรอคำตอบอยู่ครับ
นอกจากคุณทักษิณแล้ว ผู้นำประเทศอีกคนที่เคยเอ่ยคำขอโทษในกรณีตากใบต่อสาธารณะคือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งกล่าวคำนี้ที่โรงแรมซีเอสปัตตานี ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2549 หรือหลังรัฐประหารล้มรัฐบาลทักษิณเกือบสองเดือนครับ ในบริบทตอนนั้น คำขอโทษของรัฐบาลหลังรัฐประหารนั้นเท่ากับเป็นการโยนบาปให้กับรัฐบาลทักษิณและเสริมความชอบธรรมในทางการเมืองให้กับรัฐบาลใหม่
ส่วนจะได้ผลหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ
.....
Romadon Panjor - รอมฎอน ปันจอร์
นาทีที่ 1.51.00 - 2.05.42 
https://www.youtube.com/live/Nf25xsS_eMQ
[LIVE] CareTalk X CareClubHouse : พวกเธอมานี่ “พี่โทนี่” จะรีวิวหนังสืออออออ!!


ครอบครัวเหยื่อ คดีตากใบ ร่ำไห้ ผิดหวัง 7 จำเลยไม่ขึ้นศาล



ครอบครัวเหยื่อ คดีตากใบ ร่ำไห้ ผิดหวัง 7 จำเลยไม่ขึ้นศาล มั่นใจหมายจับจะได้ผล

13 กันยายน 2567
มติชนสุดสัปดาห์

เมื่อวันที่ 13 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีศาลจังหวัดนราธิวาสนัดสอบคำให้การ 7 จำเลย คดีตากใบ เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เมื่อรอจนถึงเวลานัดทั้ง 7 จำเลยไม่มีใครมาศาล ศาลนราธิวาสมีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยที่ 3-6 และจำเลยที่ 8-9 ประกอบด้วย จำเลยที่ 3 พล.ต.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร อดีตผู้บัญชาการ พล.ร.5, จำเลยที่ 4 พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ อดีต ผอ.ศปก.สน. ตร., จำเลยที่ 5 พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ อดีต ผบช.ภาค 9, จำเลยที่ 6 พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล อดีต ผกก.สภ.อ.ตากใบ,

จำเลยที่ 8 นายศิวะ แสงมณี อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย, จำเลยที่ 9 นายวิชม ทองสงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส โดยให้จับตัวให้ได้ภายในอายุความ 25 ตุลาคม 2567



ขณะที่จำเลยที่ 1 พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้ออกหมายเรียก และหนังสือขออนุญาตจับกุมไปที่สภา พร้อมนัดใหม่ในวันที่ 15 ตุลาคม 2567

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางฮามิยะห์ หะยีมะ มารดาของ นายการียา หะยีมะ ผู้เสียชีวิตจากการถูกยิงในเหตุการณ์ตากใบ และเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 7 เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกผิดหวังที่จำเลยไม่มาร่วมในการไต่สวน แต่ก็มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมที่ศาลมีการออกหมายจับ



นางฮามิยะห์กล่าวว่า อยากให้ทั้ง 7 คนออกมารับผิดชอบ มาขอโทษ มาให้เห็นหน้า ให้รู้ว่าตนเองได้ทำอะไรลงไปในเหตุการณ์ครั้งนั้น เพราะจากเหตุการณ์นั้นทุกคนยังเสียใจ ยังเป็นภาพติดตา มีแผลในใจ คนในครอบครัวหายไปตั้งแต่วันนั้นและไม่เจอกันอีกเลย

ขณะที่ นางสีตีรอกายะห์ สาและ กล่าวว่า เราทนมา 20 ปี ได้ข่าวว่าศาลรับคดีนี้แล้วรู้สึกดีใจ อยากดูหน้าคนที่ทำผิดเหมือนกัน อยากให้มาขอโทษด้วยสักคำเพราะเราทนมานานแล้ว ลำบากมานานแล้ว

.....

Thanapol Eawsakul
5 hours ago
·
เมื่อรัฐบาลเพื่อไทยมีอำนาจรัฐ
จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย ไม่คิดจะเอาประยุทธ์ จันทร์โอชาขึ้นศาลแล้ว พรรคเพื่อไทย ยังปล่อยให้พลเอกพิศาล. วัฒนวงษ์คีรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 27พรรคเพื่อไทย
https://candidate.ptp.or.th/.../%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8...
หนีศาล อ้างว่า ไปรักษาตัว ต่างประเทศเสียแล้ว
ทนายเผย พล.อ.พิศาล รักษาตัวตปท. ไม่ชัวร์จะนำตัวขึ้นศาล สู้คดีตากใบได้ไหม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4789860
คาดว่าเป็นโรคปอด
ปอดแหก




วันศุกร์, กันยายน 13, 2567

จนได้ ‘คุณไหม’ พูดถูกอีกเรื่องดิจิตอลวอลเล็ต เมื่อ รมว.คลัง จนใจ บอกเฟส ๒ คงจ่ายไม่ทันในปี ๖๗ นี้

แพทองธาร กับ ภูมิธรรม คราวหน้าคราวหลังจะแถลงอะไร เตี๊ยมกันไว้เสียบ้างก็ดี นายกฯ บอกดิจิตอลวอลเล็ตต้องรอหน่อยนะ แต่ทั่นรองฯ คุมกลาโหม กลับพูดใหม่ว่าแก้ปัญหายาเสพติดทหารทำอยู่แล้ว ส่วนประชาชนทั่วไปอยากได้แจกเงิน

ซึ่งโครงการแจกเงินเฟส ๑ ดูเหมือนจะลงตัวแล้วละ ทั้งที่อีกสองสามวันจะหมดเขตลงทะเบียนสำหรับคนที่พร้อม ในกลุ่มเป้าหมายจำนวนหนึ่ง ส่วนที่เหลือเฟส ๒ ยังลูกผีลูกคน ซ้ำ รมว.คลัง พิชัย ชุณหวชิร บอกแล้ววันนี้ (๑๓ กันยา)

ว่าน่าจะจ่ายได้ไม่ทันปีนี้ “เพราะจะดูความต่อเนื่องอีก ๒-๓ เรื่อง โดยจะดูพร้อมๆ กันว่าอันไหนดีที่สุด ส่วนจะได้ไตรมาสไหนของปี ๒๕๖๘ จะต้องขอดูหลังจากนี้ก่อน” จึงไปลงเอยที่คำติติงของฝ่ายค้านอีกจนได้ จากที่ คุณไหม พูดในสภา

นโยบายดิจิตอลวอลเล็ต “คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอีก จนถึงตอนนี้เป็นรอบที่ ๗ แล้ว เพราะงบกลางของ ปี ๖๗ มีเท่าไรก็เอามาแจกก่อน จ่ายเป็นเงินสด ส่วนที่เหลือก็พยายามจะแบ่งงบปี ๖๘ หาทางกู้เงินเพิ่ม ตัดลดงบชำระหนี้ ก็ยังได้เงินไม่พอ”

แม้นว่าเป้าหมายหลักของทั่นรองฯ ในการแถลงครั้งนี้อยู่ที่บทบู๊ฟัดกับฝ่ายค้าน ที่บังอาจเรียกรัฐบาลนี้ว่า สามนาย (นายใหญ่ นายทุน และนายหน้า) อ้าง วันนี้ประเทศวิกฤตมาก ทั้งปัญหาอุทกภัยและปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน”

ฉะนั้นอย่าด้อยค่า “คิดว่าเราควรจะช่วยกัน อะไรที่มีปัญหาก็วิพากษ์วิจารณ์มาได้ เสนอแนะ แต่ไม่ใช่ใช้วิธีการเยาะเย้ย ถากถาง” ไม่เพียงแค่กร้าว บิ๊กอ้วน เอาอย่างทรั้มพ์ อวดตัวแบบไม่ค่อยตรงตามจริง มีบิดๆ เบี้ยวๆ เล็กน้อยก็เอา

อ้าง “วันนี้รัฐบาลรวมกันเสียงไม่ใช่น้อย ๑๐ ล้านเสียงของพรรคเพื่อไทยรวมกับทุกเสียง เป็นเสียงข้างมากในสังคมไทย ดังนั้น ๑๐ ล้านเสียงของฝ่ายค้าน อย่าใช้เรื่องนี้มาด้อยค่าคนอื่น” อ้าว ฝ่ายค้านลดเหลือแค่สิบล้านเท่านั้นเหรอ

ไหนตอนก้าวไกลชนะเลือกตั้งนั่นมัน ๑๔ ล้านเสียงมิใช่หรือ แม้เมื่อต้องเปลี่ยนเป็นพรรคประชาชน ส.ส. ๑๔๓ คนก็มากันหมด ถึงจะยังไม่รู้แน่ว่าฐานเสียงลดไปบ้างหรือไม่ เท่าไร ก็ไม่น่าจะเหลือแค่สิบล้านนะ อย่างนี้ใครหว่า “ด้อยค่าคนอื่น”

(https://www.facebook.com/thestandardth/posts/HyJFhmZfEKFx, https://www.facebook.com/thestandardth/posts/WntpqJeQW และ https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/38823MA1KfCMRJ) 

คนเยอรมันบอก ประเทศที่พึ่งอาสาสมัครเยอะ แสดงว่า บริการสาธารณะพัง (คนชาติอื่นบอกได้ไหม ?)



.....


Atukkit Sawangsuk
11 hours ago
·
นั่นสิ ทำไมต้องเป็นคนเยอรมัน
แต่ทำไมต้องร้อนใจเหมือนเขาด่ารัฐบาล
เราควรจะมองร่วมกันว่า “บริการสาธารณะพัง”
มันเป็นผลจาก 9 ปีประยุทธ์ รัฐราชการเป็นใหญ่ รวมศูนย์อำนาจปัดความรับผิดชอบ
ไม่ได้เรียกร้องว่ารัฐบาลเพื่อไทยต้องแก้ได้ทันที
แต่ต้องมีความคืบหน้าให้ประชาชนเห็นว่ารื้ออะไรได้บ้าง และจะทำอะไรต่อ เพื่อให้บริการสาธารณะทุกด้านมีประสิทธิภาพ

.....

Atukkit Sawangsuk
18 hours ago
·
(เรียบเรียงจากมิตร)
เห็นทหารทุกเหล่าทัพระดมสรรพกำลังช่วยน้ำท่วมแล้วปลื้มใจ
แต่ไม่ทันไร เพจอวย เพจ IO แม่-ขึ้นมาทันที
(ภาพใหม่ยังไม่มีก็ใช้ภาพเก่า)
เห็นไหมล่ะ ด้อยค่า ด่าทหาร กันนัก
ถึงเวลาทุกข์ยากลำบากใครช่วยประชาชน
ทหารของพระราชา ก้มหน้าก้มตา ไม่เคยทวงบุญคุณใคร ไม่เหมือนนักการเมือง
ฯลฯ
ทุกฝ่ายระดมช่วยน้ำท่วมกันสุดกำลัง
มหาดไทย ปภ. ทหาร ตำรวจ เอกชน มูลนิธิ อาสาสมัคร เครือข่ายเจ็ตสกี ซึ่งไม่มีเงินเดือนเบี้ยเลี้ยงด้วยซ้ำ
ทุกฝ่ายน่าชื่นชมทั้งนั้น
แต่คนอื่นเขาไม่มี IO หรือเกรียนคีย์บอร์ดมาทวงบุญคุณชาวบ้าน
พวกเมริงเพลาๆ มั่งเหอะ ทหารจะดูดีขึ้นเยอะ




ชม #CCTV ของจีนใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการพยากรณ์อากาศล่าสุด ให้เสมือนจริง

https://www.facebook.com/watch/?v=832052745708335&t=0


น้ำท่วมแม่สายเกิดจากอะไร และเหตุไดการเตือนภัยล่วงหน้า ยังไม่เกิดขึ้น



นักวิชาการเปิด 4 เหตุผลน้ำท่วมแม่สาย ชี้ท่วม “ถี่เป็นประวัติการณ์” และมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น

11 กันยายน 2024
บีบีซีไทย

สถานการณ์น้ำท่วมบริเวณชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากระดับน้ำแม่สายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล้นตลิ่งเข้าท่วมตลาดสายลมจอย จุดขายสินค้าชายแดนไทย-เมียนมา ขึ้นชื่อของชายแดนแม่สาย

เหตุอุทกภัยดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากเผชิญกับอิทธิพลพายุยางิ ซึ่งลดระดับจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นเป็นพายุดีเปรสชัน ครอบคลุมพื้นที่ทางตอนบนของประเทศไทยเมื่อระหว่างวันที่ 8-10 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกหนักมาก และทำให้ อ.แม่สาย และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย เกิดเหตุน้ำท่วมขึ้น

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ว่า นอกจากพื้นที่ตลาดสายลมจอยที่เกิดเหตุน้ำท่วมแล้ว ยังมีชุมชนแม่สาย หัวฝาย เหมืองแดง ไม้ลุงขน เกาะทราย ที่ได้รับผลกระทบด้วย

“น้ำที่ไหลลงมาตามลำน้ำสายมีขอนไม้ เศษไม้ สิ่งปฏิกูล ไหลลงมาด้วย คาดว่าพื้นที่ป่าต้นน้ำในประเทศเมียนมาฝนคงตกหนัก” นายพุฒิพงศ์ กล่าว

ด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อ.แม่สาย ปลดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ที่ประสบเหตุน้ำท่วมเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ส่วนการประปาส่วนภูมิภาคสาขาแม่สาย แจ้งว่าไม่สามารถเข้าพื้นที่สถานีสูบน้ำได้ จึงยังไม่สามารถจ่ายน้ำประปาได้ตามปกติ

ตลอดคืนที่ผ่านมาประชาชนในแม่สายที่กลายเป็นผู้ประสบภัยต่างโพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพื่อขอความช่วยเหลือให้อพยพออกจากพื้นที่ ซึ่งระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและไหลเชี่ยวกราก โดยศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ อ.แม่สาย ระบุว่า มวลน้ำที่ไหลเชี่ยวแรงทำให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนในเขตเทศบาลตำบลแม่สายได้ และต้องการเรือยางจำนวนมากเพื่ออพยพผู้ประสบภัย

ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย จัดตั้งศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบอุทกภัย 2 จุด ได้แก่ เทศบาลตำบลแม่สาย และวัดพรหมวิหาร



สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.เชียงราย รายงานวันนี้ (11 ก.ย.) ว่าเบื้องต้นทางการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเข้าพักในศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้ง 2 แห่งแล้ว 71 คน (ข้อมูล ณ เวลา 01.00 น. ของวันที่ 11 ก.ย.)

ขณะที่คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ รายงานว่า สถานีตรวจวัดน้ำฝน ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย มีปริมาณฝน 24 ชั่วโมงย้อนหลังสูงสุดในประเทศที่ 235.8 มิลลิเมตร (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ก.ย. เมื่อเวลา 13.00 น.)

อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ภายใน 1-2 วันนี้ ฝนทางภาคเหนือจะซาลง เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมภาคเหนือตอนบนได้เคลื่อนตัวไปปกคลุมประเทศเมียนมาแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ำตามลุ่มน้ำต่าง ๆ ในภาคเหนือ

บีบีซีไทยพูดคุยกับ ดร.ธนพล พิมาน หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำจากสถาบันสิ่งแวดล้อมสตอกโฮล์ม (Stockholm Environment Institute – SEI) หนึ่งในผู้ศึกษาเหตุการณ์น้ำท่วมบริเวณพื้นที่แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก มาตั้งแต่ปี 2562 เพื่อวิเคราะห์ว่าเหตุอุทกภัยในพื้นที่ชายแดนแม่สายเกิดขึ้นได้อย่างไร และเหตุใดเขาจึงมองว่า พื้นที่นี้มีแต่จะท่วมถี่มากขึ้น รุนแรงมากขึ้น หากไม่สามารถผลักดันให้เกิดการบริหารจัดการน้ำข้ามพรมแดนได้

เปิด 4 ปัจจัย เหตุน้ำท่วมแม่สายครั้งนี้

นักวิชาการอาวุโสจาก SEI บอกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่าในปีนี้แม่สาย “น้ำท่วมถี่เป็นประวัติการณ์” จากปกติที่เคยเกิดอุทกภัยประมาณ 2-3 ครั้งต่อปีเท่านั้น แต่ในปี 2567 พบว่าแม่สายน้ำท่วมไปแล้ว 7 ครั้งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงครั้งล่าสุดที่กำลังเกิดขึ้น โดยเขาแจกแจงออกเป็น 4 ปัจจัย ดังนี้

ฝนที่ตกหนักมากกว่าปกติ

ดร.ธนพล ชี้ว่าเหตุอุทกภัยในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากปริมาณฝนที่ตกเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลพายุยางิเท่านั้น แต่ปัจจัยหลักเป็นเพราะฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือน ก.ค.- ส.ค. ซึ่งพบว่ามีปริมาณฝนมากกว่าปกติถึง 50-60% ทำให้ดินไม่มีความสามารถอุ้มน้ำไว้ได้เลย

“หมายความว่าฝนที่ตกลงมาทุกเม็ดในตอนนี้ จะกลายเป็นน้ำหลากเพียงอย่างเดียว” เขาบอก

นอกจากนี้เขายังมองว่า ฤดูฝนของไทยยังต่อเนื่องไปจนกว่าจะถึงกลางเดือน พ.ย. ดังนั้น แม่สายก็อาจเผชิญกับเหตุน้ำท่วมครั้งที่ 8 ในเร็ว ๆ นี้ก็เป็นได้

พื้นที่ต้นน้ำเปลี่ยนสภาพ

แม่น้ำสายมีต้นน้ำอยู่ในประเทศเมียนมาถึง 80% และมีเพียง 20% เท่านั้นที่ทอดยาวอยู่ในพื้นที่แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก จากการที่เขาลงพื้นที่ศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในช่วงปี 2562-2564 พบว่าสาเหตุที่ทำให้แม่สายเกิดน้ำท่วมเร็วและแรงนั้นเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณต้นน้ำซึ่งอยู่ในประเทศเมียนมา โดยปัจจุบันพบว่าพื้นที่ดังกล่าวได้เปลี่ยนจากป่ากลายเป็นพื้นที่เกษตรกรรม รวมถึงเหมืองแร่จำนวนหลายจุดด้วยกัน ทำให้ศักยภาพการชะลอน้ำน้อยลดลง

นอกจากนี้ยังพบว่า บริเวณแม่สาย-ท่าขี้เหล็กนั้นเป็นที่ราบระหว่างหุบเขา ทำให้น้ำที่หลากลงมาจากต้นน้ำมีความเชี่ยวและแรงโดยธรรมชาติ ต่างจากน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างที่ค่อย ๆ เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่โดยรอบ



ระดับแม่น้ำโขง

เขากล่าวต่อว่าเงื่อนไขท้ายน้ำของแม่น้ำสายอยู่ที่สบรวกหรือจุดบรรจบของแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง ซึ่งช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีระดับสูงขึ้นมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา อันเป็นผลจากระดับน้ำโขงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาเดียวกัน ส่งผลให้การระบายน้ำของแม่น้ำสายเป็นไปได้ช้า

การขยายเมืองทั้งในฝั่งแม่สายและท่าขี้เหล็ก

ในช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมา เขาพบว่าตัวเมืองแม่สายของไทยและท่าขี้เหล็กของเมียนมา ต่างขยายตัวเป็นเมืองขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางน้ำเปลี่ยนแปลง และหลายจุดที่เคยเป็นพื้นที่รับน้ำหรือพื้นที่ระบายน้ำเดิมก็ถูกเปลี่ยนสภาพเป็นพื้นที่อยู่อาศัย

“หากพูดให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือสร้างบ้านอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม” เขาบอก และอธิบายต่อว่าในอดีตแม่น้ำสายเคยมีความกว้าง 130-150 เมตร แต่ปัจจุบันมีสิ่งปลูกสร้างประชิดแนวลำน้ำเข้าไปกว่าเดิม ส่งผลให้แม่น้ำสายมีความกว้างประมาณ 20-50 เมตรเท่านั้นในช่วงพื้นที่เมือง

“พอเราบีบพื้นที่แม่น้ำให้เป็นคอคอด มันก็ทำให้การระบายน้ำสู่แม่น้ำโขงตอนล่างมีความยากลำบากมากขึ้น”

แก้น้ำท่วมแม่สาย ต้องใช้กลไกระหว่างประเทศ

“องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) บอกว่า ถ้าเรามีระบบเตือนภัยที่ดีจะช่วยลดผลกระทบจากน้ำท่วมได้ 20-30%” ดร.ธนพล บอก

“อย่างที่เรียนให้ทราบว่าน้ำท่วมครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 ภายใน 2 เดือนแล้ว ดังนั้นไม่ใช่ชาวบ้านเขาไม่รู้ว่าพื้นที่นี้มันเกิดน้ำท่วม เขารู้ และเขาก็พยายามป้องกันอย่างเต็มที่ในศักยภาพที่พวกเขาทำได้”

นักวิชาการจากสถาบันสิ่งแวดล้อมสตอร์กโฮล์มเล่าต่อว่า เทศบาลตำบลแม่สายพยายามสร้างกำแพงกั้นน้ำตามแนวแม่น้ำสาย ความสูงประมาณ 1-1.5 เมตร ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัย รวมถึงพยายามอุดรอยรั่วของกำแพงมาโดยตลอด แต่เนื่องจากน้ำที่มีปริมาณมากในครั้งนี้ ซึ่งประเมินว่าอยู่ที่ 2-3 เมตร ขึ้นไปทำให้เกินศักยภาพการป้องกันของกำแพงที่สร้างขึ้น

เขาเสนอว่า ในระยะยาว ตัวเมืองแม่สายต้องวางแผนและออกแบบเมืองให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำท่วม โดยทุกครั้งที่วางผังเมืองต้องคิดเรื่องการจัดการน้ำควบคู่กันไปด้วย ส่วนบ้านเรือนที่อยู่แนวแม่น้ำสาย หากไม่ย้ายออกก็ต้องสร้างใหม่ให้สอดคล้องกับเหตุอุทกภัยที่มีแนวโน้มถี่มากขึ้น ท่วมมากขึ้น และแรงมากขึ้น

“บ้านชั้นเดียวอาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป อาจต้องขยับเป็นบ้านสองชั้น” เขากล่าว



ในมุมมองของนักบริหารจัดการน้ำเช่นเขา เห็นว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับพื้นที่แม่สายไม่สามารถพึ่งพาทรัพยากรในระดับเทศบาลและจังหวัดได้ แต่มันต้องการแผนการจัดการน้ำข้ามพรมแดนระหว่างไทย เมียนมา และ จีน

เขาเสนอว่า รัฐบาล, กระทรวงการต่างประเทศของไทย, สทนช. และทางการเมียนมา จะต้องประสานงานกันเพื่อติดตั้งสถานีตรวจวัดปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ต้นน้ำแม่น้ำสายซึ่งอยู่ในเขตแดนประเทศเมียนมาให้ได้

“เพื่อนำข้อมูลน้ำฝนมาประเมินเป็นปริมาณน้ำท่าที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำสาย เพราะตอนนี้เราไม่มีข้อมูลปริมาณน้ำฝนบริเวณต้นน้ำเลย เนื่องจากพื้นที่นี้เป็นน้ำท่วมที่เร็ว แรง มาในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ จึงต้องการข้อมูลโทรมาตรที่อัปเดตในระยะเวลาทุก ๆ 5-10 นาที เพื่อประเมินปริมาณน้ำฝนที่จะกลายเป็นน้ำหลากได้”

เขาบอกว่าปัจจุบันสถานีตรวจวัดที่ใกล้ที่แม่น้ำสายมากที่สุดอยู่ที่อยู่บริเวณจุดตลาดสายลมจอย ซึ่งช่วยให้ทำแบบจำลองการพยากรณ์และเตือนภัยล่วงหน้าได้เพียง 1-3 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ถ้าหากมีสถานีตรวจวัดบริเวณต้นน้ำในประเทศเมียนมา จะช่วยให้ทำแบบจำลองการพยากรณ์และแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าได้มากถึง 1-3 วัน ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากเหตุอุทกภัยได้



อีกวิธีหนึ่งที่อาจช่วยให้น้ำในแม่น้ำสายไหลได้ดีขึ้น คือการขุดลอกลำน้ำ แต่เนื่องจากแม่น้ำแม่สายทอดยาวระหว่างชายแดนไทย-เมียนมา ทำให้งานดังกล่าวต้องเผชิญกับความท้าทายด้วยเหตุผลเรื่องความมั่นคง เนื่องจากในปัจจุบันการปักหมุดเขตแดนระหว่างไทยและเมียนมายังคงดำเนินการอยู่

“เขตแดนระหว่างประเทศยังไม่แล้วเสร็จทั้งหมด คำถามที่หลายฝ่ายกังวลคือ หากเราทำการขุดลอกอะไรต่าง ๆ บริเวณลำน้ำในบริเวณนั้น ก็อาจทำให้พื้นที่ตลิ่งหรือเขตแดนระหว่างประเทศได้รับผลกระทบตามไปด้วย” ดร.ธนพล อธิบาย

“ดังนั้นกลไกการบริหารจัดการแม่น้ำสายข้ามพรมแดนต้องมีความชัดเจน ไทยและเมียนมาต้องหาทางทำงานร่วมกันให้ได้ ซึ่งจะไม่ได้ส่งผลดีแค่พื้นที่แม่สาย แต่รวมถึงท่าขี้เหล็กของเมียนมาด้วย”

นอกจากนี้ ทางการไทย และ สทนช. ต้องประสานขอความร่วมมือกับจีน เพื่อจัดการระดับน้ำในแม่น้ำโขงร่วมกันให้ได้ ซึ่งจะช่วยระบายน้ำจากแม่น้ำสายให้ไหลลงแม่น้ำโขงตอนล่างให้ได้ไวที่สุด

“ข้อเสนอทั้งหมดนี้ต้องเป็นความร่วมมือระดับประเทศ การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแม่สายจึงไม่ใช่เรื่องง่าย และมีความซับซ้อน” นักวิชาการจาก SEI ระบุ

“ดังนั้นการจัดการบริหารน้ำข้ามพรมแดนต้องเกิดขึ้น อุทกภัยมันไม่ได้เลือกหรอกว่าจะเกิดในไทยหรือเมียนมา เพราะน้ำมีหน้าที่ไหลจากที่สูงไปสู่ที่ราบตามกฎธรรมชาติ ผมจึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องทบทวนตั้งแต่การวางผังเมืองไปจนถึงแผนยุทธศาสตร์เมืองแม่สาย ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะเกิดเหตุเช่นนี้ต่อไปอีก” ดร.ธนพลกล่าวทิ้งท้าย