ชุมนุม ๑๔ ตุลา ท่าจะคึกแน่ มีเหตุเรียกแขกไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดไม่พูดถึงไม่ได้ เรื่องนี้สำคัญกว่าขบวนเสด็จ ก็ “เว็ดจะ” หรือ ‘เวจ’ นั่นละ เป็นข่าวว่าจะไม่มีให้ใช้ เพราะโดนวิชามารของทางรัฐบาลประยุทธ์ ส่ง ‘เจ้าหน้าที่’ ไปกดดันบริษัทรถส้วมเคลื่อนที่
มีโพสต์บนเฟชบุ๊คของ ปกรณ์ พรชีวางกูร ผู้จัดหารถสุขาสำหรับการชุมนุม พร้อมข้อความ “เราจะไม่มีรถห้องน้ำให้ใช้แล้วนะครับ เนื่องจากว่าทางบริษัทรถห้องน้ำถูกเจ้าหน้าที่ยกพลบุกไปหาทุกวัน และไปทั้งวัน” บางครั้งแห่ไปกันตั้งสี่ห้าสิบคน
ครั้งนี้ใช้วิธีการบีบคั้นขั้นสุด แจ้งกับบริษัทรถสุขาว่า “ถ้ารับงาน จะแจ้งข้อหากีดขวางเส้นทางขบวนเสด็จฯ” อันนี้ ‘เฮียบุ๊ง’ ชี้ว่า “เป็นการขู่ที่ตลกมาก” ทั้งๆ ที่เวลานัดหมายให้รถไปจอดบริการ เริ่มแต่ทุ่มตรงเป็นต้นไป อันเป็นเวลาที่รถขบวนเสด็จฯ จะผ่านถนนราชดำเนินไปนานแล้ว
งานราชพิธีวัดพระแก้วเริ่ม ๕ โมงเย็น ขบวนคงจะผ่านที่ชุมนุมตอนสี่โมงกว่า เว้นแต่จะชักช้ามาสายก็ไม่น่าจะถึงหนึ่งทุ่ม หากเกิดสายแบบที่เคยปรากฏกับงานรับปริญญายืดไปถึงเที่ยงคืนตีสอง ยิ่งดี จะได้เป็นยันต์กันผีรอบดึก ว่าไม่มีมือที่สามแทรกก่อเหตุร้ายแน่ๆ
อันวิชามารในการสกัดม็อบด้วยการขัดขวางบริการห้องน้ำเคลื่อนเข้าที่ชุมนุมนี้ ตำรวจเคยทำมาแล้วเมื่อคราวชุมนุมค้างคืนที่สนามหลวง ๑๙ กันยา ไม่เพียงกดดันบริษัทไม่ให้รับงานเท่านั้น รถของบริษัทที่มาแทนบางคันถูกตำรวจดักจับไว้ที่ฝั่งธนฯ
“ส่วนที่หลุดมาได้นั้นตำรวจก็ขับมอเตอร์ไซค์ไล่ห้ามจอด จนต้องวิ่งวนรอบสนามหลวงตั้งแต่ ๘.๐๐ น. ถึงบ่าย ๑๕.๐๐ น. สุดท้ายได้จอดเวลาประมาณ ๑๖.๐๐ น.” ปกรณ์เล่า รวมทั้งมีการข่มขู่คนขับรถด้วยว่า ถ้าขับเข้าไปในที่ชุมนุมจะเข้าข่ายโดนข้อหา ‘ล้มล้างสถาบัน’
กำหนดชุมนุม ๑๔ ตุลาเผยไว้ว่าจะเคลื่อนไปค้างแรมกันแถวหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเรียกร้องในวันรุ่งขึ้น รถห้องน้ำย่อมจำเป็นแน่นอน รัฐบาลพยายามทำการกลั่นแกล้งทุกช่องทาง ด้วยความคิดตื้นๆ ว่าจะทำให้คนไปร่วมน้อย นั้นอย่าหวัง
ทางแก้เบื้องต้นอย่างที่เขาทำกันมาแล้วเมื่อคราวชุมนุม ๑๙ กันยา ซึ่งโดน ‘เจ้าหน้าที่’ ไปดักจับรถสุขากักไว้ไม่ให้เข้าไปที่ชุมนุมหลายคัน ผู้ร่วมชุมนุมแก้ปัญหาด้วยการนั่งมอเตอร์ไซค์ออกไปตามปั๊มน้ำมันแทน ไม่สะดวกนักก็ทำให้ผ่านมาได้
หากว่าการบีบคั้นบริษัทรถเช่าห้องน้ำเคลื่อนที่จากทางการได้ผล ไม่มีรถสุขาบริษัทไหนกล้ารับงานหรือมีน้อยเกินไป คราวนี้มีผู้เสนอจัดวินมอเตอร์ไซค์ไปสำรอง และคอยรอนำคนที่เกิดความจำเป็นเร่งด่วนไปยังสถานที่มีห้องน้ำบริการแถบนั้น
“เจตนาแกล้งเพื่อให้ทุกคนลำบากที่สุด ทำอย่างนี้ได้อย่างไร” รัฐบาลนี้ทำแล้ว นี่เป็นความอัปลักษณ์ทางความคิดและจิตสำนึกต่ำตมของรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ที่โดดเด่นติดอันดับต้นๆ ของความอัปรีย์เลยทีเดียว
คงต้องภาวนาให้ ‘สุขาน็อคดาวน์’ ที่ ‘ท่อน้ำเลี้ยง’ สั่งทำเอาไว้เสร็จทันเอามาใช้ในงานนี้ ได้แค่ ๒๐ ห้องก็ยังดี ขณะที่จะหวังพึ่งอะไรไม่ได้เลยกับบริการสาธารณะ ในการชุมนุมคราวที่แล้วมีรถสุขา กทม.เพียงสองคันไปจอดริมคลองหลอด ให้บริการสองชั่วโมงแล้วกลับ
สำหรับเตรียมการของฝ่ายรัฐ มีการจัดกำลังตำรวจรับสถานการณ์คราวนี้ถึง ๑ หมื่น ๕ พันคน พร้อมอุปกรณ์ อาวุธพิเศษ และรถควบคุมผู้ต้องหาไปจอดรอ แต่ไม่เห็นมีรายงานเรื่องเสบียงอาหาร น้ำ และกระทั่งรถสุขาสำหรับเจ้าหน้าที่
ที่ผ่านมาในการชุมนุมสนามหลวง ปรากฏมีตำรวจซึ่งถุกส่งไปประจำการในที่ชุมนุม พากันไปขอข้าวกิน ขอใช้ห้องน้ำกันเป็นพรวน จากที่ ‘แม่ยกทราย’ เผยว่า “เมื่องานวันที่ ๑๙ ก.ย.มีเจ้าหน้าที่มาขอรับข้าวที่เตนท์๒๐๐ ชุด
ซึ่งเราไม่สามารถจัดให้ได้ในจำนวนนั้นจริงๆ เพราะเป็นยอดที่เยอะเกินไป รอบวันที่ ๑๔ นี้เลยมาบอกสายซัพทุกคน ว่าจะขอกันงบอาหารส่วนหนึ่งใส่กล่องเอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่มาขอรับอีกนะคะ” เห็นความต่างแล้วยังระหว่างฝ่ายม็อบกับฝ่ายสกัดม็อบ
“เพิ่งได้รับแจ้งมา ว่าตร.ขนกำลังไปบีบพี่ที่ให้เช่ารถห้องน้ำอีกแล้ว” อินทิรา ITRC @charoenpura ระเบิด “โอเค พอ ข้าวเขิ้วไม่ต้องแ_กแล้ว อย่ามาขอ ห้องน้ำก็อย่ามาเนียนเข้า จะคิดตังทุกอย่าง ห่าน” บ่นไปงั้นละ โถ พอเขามากันจริงๆ ก็โอเค
เพลงอะไรของใครนะ ดังแว่วมาทันที “ไทยเป็นชาติมีน้ำใจ” ใช่เลย คนที่ไม่ค่อยจะมีนั้นอยากจะให้ พวกที่ได้ไปแล้วเยอะแยะมักจะเหลิง กลับไม่นึกถึงความจำเป็นในชีวิตมนุษย์ ถ้าไม่มีห้องน้ำในที่ชุมนุมคราวนี้ หวังว่าพวกตำรวจเป็นหมื่นจะ ‘กลั้น’ กันเก่งๆ อะนะ
(https://www.matichon.co.th/politics/news_2390241, https://www.thansettakij.com/content/politics/452317campaign และ https://prachatai.com/journal/2020/10/89918)