วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 22, 2563

เสื้อเหลืองชูรูป ๒ ร. ออกอาละวาดแล้ว ตีน้องๆ นักเรียนนักศึกษา จนต้องเข้าเฝือกขา


ม็อบรักเจ้าเปิดบริสุทธิ์กันแล้วเมื่อ ๒๑ ตุลาที่รามฯ ก่อกวน ไล่ตี เตะ ถีบขบวนนักเรียนนักศึกษา จนน้องผู้หญิง นศ.ปี ๑ อายุ ๑๘ คนหนึ่งบาดเจ็บ ขาต้องเข้าเฝือก ฝีมือเด็กของรัฐมนตรี กปปส. ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และถาวร เสนเนียม

กิจกรรมชุมนุมรายวัน #เพื่อประชาธิปไตย เริ่มเวลาเดิมบ่ายคล้อย บริเวณลานพ่อขุน ม.รามฯ แต่กลุ่มปกป้องสถาบันกษัตริย์ยกไปปักหลักรอหาเรื่องใกล้ๆ ตั้งแต่สี่โมงครึ่ง มีการ “โจมตีนักวิชาการ นักการเมือง และกลุ่มนักศึกษา” เบิกโรง

ใกล้ ๕ โมง เครือข่ายรามคำแหงฯ ประกาศย้ายสถานที่ไปยังลาน สวป. ไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่พวกโหนเจ้ายกขบวนตาม “โห่ร้องตะโกนขับไล่ ด่าทออย่างรุนแรง...ยื้อแย่งลำโพง ขว้างปาสิ่งของใส่กลุ่มมวลชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย”

ชุมนุม #เพื่อประชาธิปไตย ประกาศย้ายหนีอีกจะไปที่ สน.หัวหมาก ยังไม่ทันจะออกพ้นรั้ว พวกชูรูป ร.๙ กรูกันหักด่านตำรวจ วิ่งไล่ทำร้ายเด็กๆ บาดเจ็บหลายราย Chotechuang Thirapatto แจ้งข่าว น้องแบม พิธีกรในงาน “บาดเจ็บสาหัส”

พวกที่ทำร้าย “นำโดย นายทินกร ปลอดภัย เลขานายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม และนายกสมาคมกีฬามีนบุรี และเจ้าของวินรถตู้เถื่อนหน้าราม” แกนนำอีกคน ทศพล มนูญญรัตน์ อดีต กปปส.คนสนิทของรัฐมนตรีศึกษาฯ

“การชุมนุมในรามคำแหงวันนี้เป็นไปอย่างสงบสันติ มีนักเรียนมัธยมเข้าร่วมชุมนุมด้วย แต่พวกเขาต้องเผชิญกับอันธพาลเสื้อเหลืองที่ตั้งใจเข้าไปข่มขู่ทำร้ายถึงภายในมหาวิทยาลัย” อจ. Puangthong Pawakapan ประณามพร้อมเรียกร้องให้ ณัฏฐพล ลาออก


แต่อย่าหวัง พวกอันฑะพาลเส้นใหญ่ ใส่เสื้อเหลืองชูรูป ร.๙ แล้วตอนนี้ไม่ลืมรูป ร.๑๐ (นัดหมายกันอีกวันที่ ๒๗ ที่พระรูป ร.๖ สวนลุม กำชับแน่น “โปรดใส่เสื้อเหลือง ถือพระบรมรูปในหลวง ร.๙ และ ร.๑๐”) ขนาดบางคนยกกำลังส่วนตัวออกสกัดโดยพลการ

นิติธร ล้ำเหลือ นำ ‘thugs’ กุ๊ย กปปส.ไปตั้งแผงเหล็กดักกีดขวางขบวนของม็อบปลดแอกที่เคลื่อนจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นเอกสารจดหมาย ลาออก จากตำแหน่ง ให้ประยุทธ์ จันทร์โอชาเซ็นเป็นเชิงสัญญลักษณ์

การชุมนุมแบบไร้แกนนำของเครือข่าย ราษฎรเริ่มที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เวลาสี่โมงเย็นเช่นกันกับที่รามฯ ผู้เข้าร่วมล้นหลามตามเคยนับพัน ชุดป่วนของนิติธรซึ่งดักรอปิดกั้นอยู่ที่บริเวณแยกบีทีเอสพญาไท กั้นแผงเหล็กไว้ แต่ก็เอาไม่อยู่

ยังมีคนที่เอาไม่อยู่กว่าใครในตอนนี้ก็คือ ‘I hear too’ ของน้องๆ นักเรียนนักศึกษา ทั้งที่อุตส่าห์ออกมายื่นกิ่งมะกอก บอก “ขอถอยคนละก้าว เข้าสภา ใช้สติและปัญญา แก้ปัญหาร่วมกัน เตรียมที่จะยกเลิกประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉิน”

เพราะนอกจากไม่ยักขอกับพวกกุ๊ยโหนเจ้า ไม่มีท่าทีจะปรามความเหิมเกริมของพวกนี้แล้ว ดูท่าจะไม่กล้าจัดการอะไรเสียด้วย จนเป็นที่น่าสงสัยว่าพวกห่ามนั่นคงจะเส้นใหญ่จริง ชัดแจ้งที่สุดเวลานี้พูดกันขรมว่า ตู่ คุมตำรวจคอแดงไม่ได้

ดูจากเหตุการณ์ใช้ตำรวจนอกเครื่องแบบใส่เกือกแตะ ไม่พกบัตรประจำตัว ตามไปจับกุม มายด์ภัสราวดี ธนกิจวิบูลย์ผล หนึ่งในแกนปลดแอก ในค้อฟฟี่ช้อปกลางซอยขณะกลับจากชุมนุม คืนเดียวกับที่ประยุทธ์แถลงให้ผู้ชุมนุม “แสดงความจริงใจ”

“ทำไมมายด์ถึงถูกจับทั้ง ๆ ที่ประยุทธ์เพิ่งบอกว่าให้ถอยคนละก้าว ในเวลา ๔ ชั่วโมงก่อนหน้านี้” Thanapol Eawsakul มีปุจฉาว่าเป็นการให้ถอย ในขณะที่ “ชนชั้นนำฝ่ายอำมาตย์...ไม่ถอย” อย่างนั้นหรือ มิฉะนั้นก็ “ประยุทธ์หาได้มีอำนาจที่แท้จริงไม่”


เห็นเหตุผลของธนาพลแล้วขนลุกขนพองยิ่ง “คนที่ไปปฏิบัติการจับกุมนั้นคือ พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รอง ผกก.๓ บก.ป. ลูกน้องของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.อ.จักรภพ ภูริเดช”

จักรภพคนนี้เป็น ผู้บัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ข้ามขั้วกับจักรภพ เพ็ญแข มีชื่อเสียงลือลั่นหลังจากวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกอุ้มหายไปจากที่พักลี้ภัยในกรุงพนมเปญหลายเดือนมาแล้ว ป่านนี้ศพยังไม่โผล่

แล้วยังวิธีการต้านม็อบของตำรวจยุคนี้ก็ยัง ไร้มนุษยธรรม เกินกว่ากฏบัตรกฎหมายที่คณะรัฐประหารสร้าง คณะสืบทอดอำนาจสานต่อ นักแล้ว มีอย่างที่ไหน ตำรวจใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงผสมสารเคมีใส่ผู้ชุมนุมมือเปล่าเจ็บแสบกันไปตามๆ

พอมีแม่ยก พ่อยก จัดหาหมวกกันน็อคและหน้ากากสกัดพิษไปให้น้องๆ สวมใส่ป้องกันอันตราย ตำรวจยุค ฮาและเฮียยกกันไปเล่นงานโรงงานผลิตหมวกแห่งนั้น เจ้าของโทรบอก เฮียบุ๊งปกรณ์ พรชีวางกูร “เสียงสั่นเลย”

(https://www.matichon.co.th/politics/news_2404681, https://m.facebook.com/waymagazine/posts/101573455607864562CP-R, https://m.facebook.com/?refsrc=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2F&_rdr และ https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_5161567)