“คนรุ่นเราเปลี่ยนแค่ประตูหน้าต่าง แต่เด็กรุ่นนี้เขาขอสร้างบ้านหลังใหม่”
— The People (@thepeople_co) October 22, 2020
จากคนเดือนตุลาฯ เข้าป่า สู่คนขับรถขยายเสียงให้ม็อบนักศึกษา
ภารกิจส่งไม้ต่ออุดมการณ์ของ ‘ลุงสุธี’#ม็อบ22ตุลา #ให้มันจบที่รุ่นเรา #ปากเกร็ด
(อ่านต่อ) pic.twitter.com/8uqx4P6WRN
ลุงสุธี ปัจจุบันอายุ 54 ปี พื้นเพเป็นคนจังหวัดตรัง หลังเรียนจบวิทยาลัยเทคนิคอาชีวะ ก็ตัดสินใจสมัครเป็นทหารได้อยู่ 1 ปี และออกมาทำการค้าขายเหมือนกับคนหนุ่มสาวในยุคนั้น ไม่นาน เขาย้ายเข้ากรุงเทพฯ และเลือกที่จะลงหลักปักฐานที่จังหวัดนนทบุรีได้ 10 ปีแล้วในช่วงเวลาที่รถกระบะปิ๊กอัปจอดเทียบฟุตบาต ปล่อยให้แกนนำได้สื่อสารกับผู้ชุมนุมบริเวณนั้น เรานึกสงสัยขึ้นมาว่า คนขับรถขยายเสียง ที่พาเอาอุดมการณ์การต่อสู้อันหนักแน่นที่ไปมาแล้วหลายต่อหลายแห่งนั้น มีมุมมองต่อการเมืองและสังคมปัจจุบันอย่างไร pic.twitter.com/OIKtKNZUXs
— The People (@thepeople_co) October 22, 2020
ในช่วงระหว่างที่ทำการค้าขาย ลุงสุธีก็สมัครเรียนต่อในระดับชั้นมหาวิทยาลัย สาขาพัฒนาชุมชน จนได้วุฒิการศึกษาปริญญาตรีในที่สุด
หลังจากย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ได้สักพัก ลุงสุธีเริ่มมองเห็นปัญหาเรื่องการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น กรุงเทพฯ กลายเป็นภาพสะท้อนความเหลื่อมล้ำได้อย่างดี เพราะอำนาจส่วนกลางที่กระจุกตัวอยู่ในเมืองหลวงเพียงอย่างเดียว ทำให้ท้องถิ่นไม่ได้พัฒนาทุกภาคส่วนอย่างที่ควรจะเป็น
ซึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้เขาตัดสินใจมุ่งหน้าสู่ถนนสายการเมืองอย่างจริงจังก็คือ เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2535 ที่ลุงสุธีได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วย
อ่านต่อที่จากมุมมองของอดีตนักเรียนอาชีวะ สู่การเป็นนักการเมืองท้องถิ่น จนมาถึงหน้าที่คนขับรถขยายเสียงให้กับขบวนการนักศึกษาคนรุ่นใหม่ เราถามว่า ลุงสุธีมองเห็นอะไรจากบานหน้าต่างรถยนต์คันนี้ เขาบอกว่า เห็นถึงพลังการต่อสู้ และกงล้อทางประวัติศาสตร์เดียวกับตอนพฤษภาทมิฬ pic.twitter.com/eUyUsF3P6X
— The People (@thepeople_co) October 22, 2020
https://twitter.com/thepeople_co/status/1319332296105734144