วันพุธ, พฤษภาคม 07, 2568

กกต.-ดีเอสไอ เสร็จ ‘ลงมือ’ สอบสวน-ไต่สวน คดี สว.๑๓๘ คน ฮั้วเลือกตั้ง กำลังจะส่งศาลฎีกาคดีอาญา ‘ลงไม้’ ต่อไป ชุดแรก ๖๐ คน

กกต.ลงมือแล้ว คดี สว. ๑๓๘ คน ได้มาจากการ ฮั้ว เลือกตั้ง กำลังจะยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ให้ ลงไม้ ต่อไป ชุดแรก ๖๐ คน ตัวดังๆ ทั้งนั้น รวมทั้งพวกที่ออกมาก๋ากั่น อวดศักดิ์ศรีเหนือกว่า ดีเอสไอ

แท้จริงที่คดีมาถึงจุดที่จะส่งฟ้องนี้ เป็นผลงานที่กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมเป็นกรรมการสืบสวนและไต่สวนกับเจ้าหน้าที่ กกต. รวมทั้งสิ้น ๗ คน จากนี้ไปภายใน ๑–๒ สัปดาห์ จะทะยอยเรียก สว.แต่ละคนมารับแจ้งข้อกล่าวหา ตาม พรป. พ.ศ.๒๕๖๑

“บุคคลที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหา ล้วนมีพฤติการณ์และพยานหลักฐานชัดเจนว่ากระทำความผิด ไม่ได้ถูกเลือกเป็น สว.โดยสุจริตเที่ยงธรรม” และเนื่องจากการทำงานของ กกต.เป็นระบบไต่สวน หาก สว.คนใดไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา ถือว่าไม่ให้การชี้แจง

แต่จะไม่มีการขอศาลออกหมายจับ “กกต.จะเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาเรื่องการทุจริต เพื่อออกใบแดง และส่งเรื่องเพิกถอนสิทธิ สว.ไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป”

ส่วนความผิดอาญาอื่นๆ เช่นในฐานฟอกเงินและอั้งยี่ซ่องโจร ที่ดีเอสไอเป็นหัวเรือหลักในการสอบสวนผู้กระทำผิด ทุจริตรับเงินเป็นกลุ่มโหวตเตอร์ พลีชีพ หรือจัดฮั้ว ซึ่งเบื้องต้นมีจำนวนหลายร้อยคน จะนำส่งอัยการคดีพิเศษเพื่อส่งฟ้องศาลอาญารัชดาฯ ต่อไป

คดีนี้ใช้เวลาเกือบสองเดือนในการสืบสวนและไต่สวน หลังจากรับเข้าเป็นคดีพิเศษ การพิพากษาโดยศาลอาญาทั้งสองศาลคงต้องใช้เวลาพอสมควรเช่นกัน สำหรับมาตรา ๗๗ (๔) ของ พรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. กำหนดไว้ว่า

“ผู้ใดกระทำการหลอกลวง บังคับขู่เข็ญใช้อิทธิพลคุกคามใส่ร้ายด้วยความเท็จหรือจูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้สมัครใด เพื่อให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด

มีโทษจำคุกตั้งแต่ ๑-๑๐ ปีปรับตั้งแต่ ๒๐,๐๐๐ บาทถึง ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด ๒๐ ปี” และเมื่อศาลประทับรับฟ้องผู้ใดแล้ว ผู้นั้นจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.ทันที จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา

(https://ch3plus.com/news/political/morning/438460 และ https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9748560)