
Pavin Chachavalpongpun
is at Expo2025 大阪・関西万博.
9 hours ago Osaka, Japan
·
ดิชั้นได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมงาน Expo2025 ที่โอซาก้า อยากเขียนรีวิวยาวๆ แต่คิดว่าทำเป็นคลิปดีกว่า ซึ่งคลิปจะเผยแพร่ในช่อง Pavin ในวันที่ 2 พฤษภาคม เอาเป็นว่าวันนี้ขอรีวิวศาลาไทยก่อนแล้วกัน
...หลังจากเปิดมาได้ 1 อาทิคย์ ดิชั้นตัดสินใจไปร่วมงาน Expo2025 เราสามารถจองเข้าร่วมงานในศาลาได้ 1 ประเทศ (ส่วนที่ไม่ได้จองก็สามารถเข้าร่วมได้ แต่ต้องต่อคิวนะคะ) แน่นอน ดิชั้นเลือกที่จะเข้าชมศาลาไทย แต่คิวจองในเน็ตมีเวลาให้ดิชั้นตั้งแต่ 3 โมงเป็นต้นไป เอ้า 3 โมงก็ 3 โมง ในความเป็นจริง ดิชั้นไปอยู่ที่หน้าศาลาไทยตอนบ่ายโมง เลยตัดสินใจเข้าคิวแบบไม่จอง เพราะขี้เกียจรอถึง 3 โมง
..ขอพูดถึงเรื่องบวกก่อน เอาเรื่องคิวนี่แหละ แม้จะไม่ได้จองตอนบ่ายโมงและต้องเข้าคิว แต่คิวรอไม่นาน เอาดีๆ แค่ 15-20 ก็เข้าได้แล้ว ข้อดีอีกอย่างคือ ศาลาไทยสวย ออกแบบดีและฉลาด ใช้กระจกตั้งเป็นกำแพงด้านหนึ่ง แล้วอีกด้านเป็นหลังคาศาลาทอง ทีนี้เมื่อสะท้อนในกระจก ทำให้ดูเหมือนเป็นศาลาเต็มหลัง งดงามค่ะ
...อ้าวต่อไป ขอวิจารณ์นะคะ
1. การเข้าศาลาไทยใน 3 steps คือ step แรกเป็นการตัดคนส่วนหนึ่งให้เข้ามาในศาลา ส่วนนี้พูดง่ายๆ คือการให้ introduction เกี่ยวกับเมืองไทย และเอาดีๆ มันคือการฆ่ๅเวลาก่อนที่จะพาคนเข้าไปสู่ step ที่ 2 นั่นคือการชมหนังสั้นโปรโมทประเทศไทย ทีนี้กลับมา step แรก ระหว่างที่ฟังน้องคนไทยพูด intro นั้น สถานที่ตรงนั้นแคบมาก การแสดงกราฟฟิคบน screen ก็งั้นๆ ไม่ตื่นตาตื่นใจ แต่ที่ fail มากคือ สาระของการ intro เอาละ ดิชั้นคิดว่าน้องผู้ชายคนที่พูด intro ทำเต็มที่แล้ว แต่สาระไม่ได้จริงๆ น้องพูดเรื่องความสวยงามของไทย บลาๆๆ แต่ assume ว่า ไม่มีใครเคยไปเที่ยวเมืองไทย ไม่มีใครรู้เรื่องเมืองไทยเลย สิ่งที่พูดมันเบสิคมาก ถามว่าคนที่เข้าชมงานรู้จักส้มตำไหม รู้จักผัดไทย ต้มยำกุ้งไหม รู้จักทุเรียนไหม เอิ่ม แถมมีตอนสอนให้พูดภาษาไทย เช่นคำว่า ไม่เป็นไร สบายสบาย อะไรแบบนี้ คือมัน cliche มาก แล้วตบท้ายด้วยการขานชื่อเต็มของกรุงเทพมหานคร ซึ่งบอกตรงๆ ทั้งคนญี่ปุ่นและฝรั่งไม่เข้าใจ/ไม่สนใจด้วยซ้ำ
2. step ที่ 2 คือการเข้าชมคลิปโปรโม ซึ่งก็อีกอะ คือแม้จะใช้เทคนิคแสงสี แต่เนื้อหาเชยมาก โชว์ภาพสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป วัดอรุณ ทะเล ฯลฯ ไม่มีธีมอะไรเลย ที่สำคัญ ไม่มีธีมที่เกี่ยวข้องกับงาน Expo ครั้งนี้เลย (จะอธิบายเพิ่มเติมข้างล่าง) ตอนแรกคิดว่าเราจะชูเรื่อง soft power แต่ก็ไม่มี สรุปนี้มันแค่คลิปการท่องเที่ยวธรรมดาเท่านั้น ตอนท้าย มีเพลงเห่สักอย่าง ก็มีน้อง staff คนไทย 2 คนออกมารำสั้นๆ แต่ก็แค่นั้น คลิปโปรโมนี้ฉายในห้องมืด ยาวประมาณ 10 นาที
3. จากนั้นเข้าไปสู่ step สุดท้าย อันนี้คืองงมาก ตอนแรก ดิชั้นคิดว่าจะเตรียมตัวไปช้อปของกิน แต่พอเดินในถึง step สุดท้าย มีซุ้มขายอาหารเล็กๆ ขายแค่ 4 อย่าง ผัดไทย ไก่ย่างข้าวเหนียว ข้าวซอย และต้มยำกุ้ง มีแค่นั้น ราคาอยู่ที่ประมาณ 2000 เยน ให้ไม่เยอะ ดิชั้นไม่ได้ซื้อชิมนะคะ เพราะปกติทำกินเองอยู่แล้วเมนูแบบนี้ ตอนแรกคิดว่าน่าจะมีอะไรแปลกกว่านั้น นอกจากนั้น ก็มีขายสินค้ากระจุกกระจิก ไม่มีอะไรเป็นหน้าเป็นตา ขายสมุนไพร ขายเสื้อผ้าไทย ที่มีไม่เยอะ ขายของไม่กี่อย่าง ที่ตลกที่สุดคือ ขายเกี๊ยวน้ำแช่แข็งของ CP คืองง ใครจะซื้อแดก เพราะไม่มีไมโครเวฟให้ คร้านจะซื้อกลับบ้าน เกี๊ยวแม่งคงละลายพอดี คือไม่เก็ท นี่สงสัยว่า CP แม่ง sponsor ศาลาไทยแหงเลย เอาดีๆ ที่เห็นรัฐบาลพูด soft power ดิชั้นคิดว่าจะมีซุ้มอาหารไทยเริ่ดๆ showcase อาหารไทย authentic หลายๆ อย่าง แต่ก็ไม่ นี่ไปเข้าศาลาของอังกฤษ คือแม่งมีร้านอาหารเลยค่ะ ขายอาหารอังกฤษเลื่องชื่อหลายอย่าง มีโต๊ะให้นั่งเป็นเรื่องเป็นราว ตรงนี้บอกตรงๆ งงมาก เข้ามา step สุดท้าย มีแค่นั้น เลยเดินออกจากศาลาไปแบบงงๆ
4. ข้อสุดท้ายอยากวิจารณ์แบบภาพกว้าง ศาลาไทยคือผิดที่ผิดทางมาก ธีมที่กำหนดโดยผู้จัดญี่ปุ่นคือเรื่องการสร้างสังคมเพื่ออนาคตเพื่อชีวิตที่ดีกว่า นั่นหมายถึงการต้องตีความเรื่องนวัตกรรม แถมไม่ใช่นวัตกรรมธรรมดา แต่ต้องอิงกับ Sustainable Development Goals ของ UN ด้วย แต่สรุปว่า โจทย์ของศาลาไทยคือขายการท่องเที่ยวแบบเดิม ไม่มีอะไรใหม่เลย ตอนเดินออกจากศาลาไทย มีการเอาปูนปั้นมาวางตรงทางออก มีอยู่เกือบ 10 ชิ้นได้ เป็นปูนปั้นอาหาร โอ่ง ไห ชะลอมผลไม้ ที่สำคัญ มีการปลูกผักสวนครัวและสมุนไพร ซึ่งบางต้นก็เหี่ยวเฉาแล้วแม้งานเพิ่งเปิดได้อาทิตย์เดียว นี่จะอยู่รอดถึงเดือนตุลาหรือไม่? ไอเดียคือขายสมุนไพร (ในศาลาก็มีขาย) คือมันโบราณ มันไม่ได้อยู่ในธีมการมองโลกในอนาคต เอาดีๆ ของเราคือมองไปในอดีตด้วยซ้ำ โบราณ ไม่ทันสมัย แม้ว่าจริงๆ แล้ว เรายังสามารถขายของดีๆ ของเราได้ และก็นำความทันสมัยได้เช่นกัน
...เอาละค่ะ ขอจบการรีวิวแค่นี้ เดี๋ยวคลิปเต็มจะออกมาอีกที นี่คือความเห็นส่วนตัวนะคะ ในภาพรวม งาน Expo2025 คือจึ้งมาก แค่สถาปัตยกรรมวงแหวนไม้ที่ล้อมรอบงาน ก็มหัศจรรย์พันลึก งดงาม ทันสมัย ตอบโจทย์อนาคตและ SDGs จริงๆ มีแค่ศาลาไทยนั่นแหละ ที่ยังตกหลุมอดีตของตัวเอง
https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/8983679121733771
...หลังจากเปิดมาได้ 1 อาทิคย์ ดิชั้นตัดสินใจไปร่วมงาน Expo2025 เราสามารถจองเข้าร่วมงานในศาลาได้ 1 ประเทศ (ส่วนที่ไม่ได้จองก็สามารถเข้าร่วมได้ แต่ต้องต่อคิวนะคะ) แน่นอน ดิชั้นเลือกที่จะเข้าชมศาลาไทย แต่คิวจองในเน็ตมีเวลาให้ดิชั้นตั้งแต่ 3 โมงเป็นต้นไป เอ้า 3 โมงก็ 3 โมง ในความเป็นจริง ดิชั้นไปอยู่ที่หน้าศาลาไทยตอนบ่ายโมง เลยตัดสินใจเข้าคิวแบบไม่จอง เพราะขี้เกียจรอถึง 3 โมง
..ขอพูดถึงเรื่องบวกก่อน เอาเรื่องคิวนี่แหละ แม้จะไม่ได้จองตอนบ่ายโมงและต้องเข้าคิว แต่คิวรอไม่นาน เอาดีๆ แค่ 15-20 ก็เข้าได้แล้ว ข้อดีอีกอย่างคือ ศาลาไทยสวย ออกแบบดีและฉลาด ใช้กระจกตั้งเป็นกำแพงด้านหนึ่ง แล้วอีกด้านเป็นหลังคาศาลาทอง ทีนี้เมื่อสะท้อนในกระจก ทำให้ดูเหมือนเป็นศาลาเต็มหลัง งดงามค่ะ
...อ้าวต่อไป ขอวิจารณ์นะคะ
1. การเข้าศาลาไทยใน 3 steps คือ step แรกเป็นการตัดคนส่วนหนึ่งให้เข้ามาในศาลา ส่วนนี้พูดง่ายๆ คือการให้ introduction เกี่ยวกับเมืองไทย และเอาดีๆ มันคือการฆ่ๅเวลาก่อนที่จะพาคนเข้าไปสู่ step ที่ 2 นั่นคือการชมหนังสั้นโปรโมทประเทศไทย ทีนี้กลับมา step แรก ระหว่างที่ฟังน้องคนไทยพูด intro นั้น สถานที่ตรงนั้นแคบมาก การแสดงกราฟฟิคบน screen ก็งั้นๆ ไม่ตื่นตาตื่นใจ แต่ที่ fail มากคือ สาระของการ intro เอาละ ดิชั้นคิดว่าน้องผู้ชายคนที่พูด intro ทำเต็มที่แล้ว แต่สาระไม่ได้จริงๆ น้องพูดเรื่องความสวยงามของไทย บลาๆๆ แต่ assume ว่า ไม่มีใครเคยไปเที่ยวเมืองไทย ไม่มีใครรู้เรื่องเมืองไทยเลย สิ่งที่พูดมันเบสิคมาก ถามว่าคนที่เข้าชมงานรู้จักส้มตำไหม รู้จักผัดไทย ต้มยำกุ้งไหม รู้จักทุเรียนไหม เอิ่ม แถมมีตอนสอนให้พูดภาษาไทย เช่นคำว่า ไม่เป็นไร สบายสบาย อะไรแบบนี้ คือมัน cliche มาก แล้วตบท้ายด้วยการขานชื่อเต็มของกรุงเทพมหานคร ซึ่งบอกตรงๆ ทั้งคนญี่ปุ่นและฝรั่งไม่เข้าใจ/ไม่สนใจด้วยซ้ำ
2. step ที่ 2 คือการเข้าชมคลิปโปรโม ซึ่งก็อีกอะ คือแม้จะใช้เทคนิคแสงสี แต่เนื้อหาเชยมาก โชว์ภาพสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป วัดอรุณ ทะเล ฯลฯ ไม่มีธีมอะไรเลย ที่สำคัญ ไม่มีธีมที่เกี่ยวข้องกับงาน Expo ครั้งนี้เลย (จะอธิบายเพิ่มเติมข้างล่าง) ตอนแรกคิดว่าเราจะชูเรื่อง soft power แต่ก็ไม่มี สรุปนี้มันแค่คลิปการท่องเที่ยวธรรมดาเท่านั้น ตอนท้าย มีเพลงเห่สักอย่าง ก็มีน้อง staff คนไทย 2 คนออกมารำสั้นๆ แต่ก็แค่นั้น คลิปโปรโมนี้ฉายในห้องมืด ยาวประมาณ 10 นาที
3. จากนั้นเข้าไปสู่ step สุดท้าย อันนี้คืองงมาก ตอนแรก ดิชั้นคิดว่าจะเตรียมตัวไปช้อปของกิน แต่พอเดินในถึง step สุดท้าย มีซุ้มขายอาหารเล็กๆ ขายแค่ 4 อย่าง ผัดไทย ไก่ย่างข้าวเหนียว ข้าวซอย และต้มยำกุ้ง มีแค่นั้น ราคาอยู่ที่ประมาณ 2000 เยน ให้ไม่เยอะ ดิชั้นไม่ได้ซื้อชิมนะคะ เพราะปกติทำกินเองอยู่แล้วเมนูแบบนี้ ตอนแรกคิดว่าน่าจะมีอะไรแปลกกว่านั้น นอกจากนั้น ก็มีขายสินค้ากระจุกกระจิก ไม่มีอะไรเป็นหน้าเป็นตา ขายสมุนไพร ขายเสื้อผ้าไทย ที่มีไม่เยอะ ขายของไม่กี่อย่าง ที่ตลกที่สุดคือ ขายเกี๊ยวน้ำแช่แข็งของ CP คืองง ใครจะซื้อแดก เพราะไม่มีไมโครเวฟให้ คร้านจะซื้อกลับบ้าน เกี๊ยวแม่งคงละลายพอดี คือไม่เก็ท นี่สงสัยว่า CP แม่ง sponsor ศาลาไทยแหงเลย เอาดีๆ ที่เห็นรัฐบาลพูด soft power ดิชั้นคิดว่าจะมีซุ้มอาหารไทยเริ่ดๆ showcase อาหารไทย authentic หลายๆ อย่าง แต่ก็ไม่ นี่ไปเข้าศาลาของอังกฤษ คือแม่งมีร้านอาหารเลยค่ะ ขายอาหารอังกฤษเลื่องชื่อหลายอย่าง มีโต๊ะให้นั่งเป็นเรื่องเป็นราว ตรงนี้บอกตรงๆ งงมาก เข้ามา step สุดท้าย มีแค่นั้น เลยเดินออกจากศาลาไปแบบงงๆ
4. ข้อสุดท้ายอยากวิจารณ์แบบภาพกว้าง ศาลาไทยคือผิดที่ผิดทางมาก ธีมที่กำหนดโดยผู้จัดญี่ปุ่นคือเรื่องการสร้างสังคมเพื่ออนาคตเพื่อชีวิตที่ดีกว่า นั่นหมายถึงการต้องตีความเรื่องนวัตกรรม แถมไม่ใช่นวัตกรรมธรรมดา แต่ต้องอิงกับ Sustainable Development Goals ของ UN ด้วย แต่สรุปว่า โจทย์ของศาลาไทยคือขายการท่องเที่ยวแบบเดิม ไม่มีอะไรใหม่เลย ตอนเดินออกจากศาลาไทย มีการเอาปูนปั้นมาวางตรงทางออก มีอยู่เกือบ 10 ชิ้นได้ เป็นปูนปั้นอาหาร โอ่ง ไห ชะลอมผลไม้ ที่สำคัญ มีการปลูกผักสวนครัวและสมุนไพร ซึ่งบางต้นก็เหี่ยวเฉาแล้วแม้งานเพิ่งเปิดได้อาทิตย์เดียว นี่จะอยู่รอดถึงเดือนตุลาหรือไม่? ไอเดียคือขายสมุนไพร (ในศาลาก็มีขาย) คือมันโบราณ มันไม่ได้อยู่ในธีมการมองโลกในอนาคต เอาดีๆ ของเราคือมองไปในอดีตด้วยซ้ำ โบราณ ไม่ทันสมัย แม้ว่าจริงๆ แล้ว เรายังสามารถขายของดีๆ ของเราได้ และก็นำความทันสมัยได้เช่นกัน
...เอาละค่ะ ขอจบการรีวิวแค่นี้ เดี๋ยวคลิปเต็มจะออกมาอีกที นี่คือความเห็นส่วนตัวนะคะ ในภาพรวม งาน Expo2025 คือจึ้งมาก แค่สถาปัตยกรรมวงแหวนไม้ที่ล้อมรอบงาน ก็มหัศจรรย์พันลึก งดงาม ทันสมัย ตอบโจทย์อนาคตและ SDGs จริงๆ มีแค่ศาลาไทยนั่นแหละ ที่ยังตกหลุมอดีตของตัวเอง
https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/8983679121733771