Amjommie Andmoomu
15 hours ago
·
ก่อนอื่นขอแสดงความดีใจ ที่ช่างฟ้อนเชียงใหม่ 7,218 คน สามารถบันทึกสถิติ Guinness World Record The Largest Thai dance ได้ (สถิติเดิม 5,255 คน) ตอนนี้กำลังมีดราม่า ที่นักข่าวกำลังขุดคุ้ย
* ฉันผู้ซึ่งได้คำสั่งไปทำข่าวครั้งนี้ พยายามหาข้อมูลการฟ้อนก่อน 2 วัน แบบงงๆ เหมือนเค้าเพิ่งมีการประกาศว่าจะทำลายสถิติโลก เมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย. นี่เอง เท่าที่ทราบคือ หนึ่งในสปอนเซอร์ของช่างฟ้อน คือมาดามคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ลงสมัครนายกเทศบาลนครเชียงใหม่ด้วย
* ฉันถามน้องประชาสัมพันธ์จังหวัดเพื่อหาข้อมูลมาเขียนข่าว ก็ไม่รู้เช่นกันเลยหาข้อมูลจาก อากู๋มารอไว้ ได้ที่ 19,900 คน เขียนข่าวรอไว้พร้อมสรรพ รอปรับเปลี่ยนเพราะต้องรีบส่งข่าวให้ทัน
* ณ วันฟ้อนจริงเมื่อวานนี้ ฉันไปถึงตอน 16.30 น. อากาศร้อนเลยไปนั่งรอในร้านอาหารหน้า รร.แห่งหนึ่ง ซึ่งบังเอิญเป็นที่พักและที่ทำงานของกรรมการ Guinness World Records เลยได้ฟังข้อมูลมาบ้างนิดหน่อย
* กรรมการ Guinness เข้มงวดมาก ในเรื่องจำนวนคน ตอนแรกช่างฟ้อนผู้ชายก็จะไม่ให้ แต่ก็ต่อรองจนสำเร็จ ส่วนเรื่องของชุด ต้องเป๊ะหมด ห้ามมีโลโก้ ข้อความใดๆ จะมีสติ๊กเกอร์ที่เค้ารันจำนวนเท่านั้น
* ตอนพิธีเปิด กรรมการคนหลัก พูดอย่างชัดเจน ว่า Guinness World Records มีกฏ ระเบียบ ที่ต้องทำให้ถูกต้อง พร้อมเพรียง โดยเฉพาะเรื่องของเวลา ที่ใช้พลุเป็นตัวกำหนดเวลา ซึ่งการฟ้อนต้องเริ่มและจบภายใต้เสียงพลุ แต่เอาจริงๆ เพลงฟ้อนจบ ช่างฟ้อนก็หยุด อีกแป๊บ เสียงพลุดัง ตอนแรกก็ยังกลัวเลยว่าจะได้ไหม
* จบการฟ้อนรอบแรกก่อนบันทึกจริง คนคอมเมนท์ด่าใน CM108 เต็มไปหมด โดยเฉพาะเรื่องเพลงไม่ได้ยิน ต้องยอมรับว่าเสียงลำโพงบนเวทีมันดีเลย์กว่าเสียงจริงตอนพูดด้วย เพราะใช้ลำโพงขยายเสียงออกไป และมีการถ่ายทอดสดด้วย และก็ไม่รู้ว่า มีการติดตั้งลำโพง ขยายเสียงไปครบทุกจุดที่มีช่างฟ้อนหรือไม่ โดยเฉพาะตามแจ่งต่างๆ ซึ่งเห็นบอกว่าไม่มีเสียงก็ฟ้อนแบบนับจังหวัดเอาเอง เช่นที่ แถวสวนบวกหาด วัดควรค่าม้า เป็นต้น
* ส่วนเรื่องสีซิ่นนั้น ไม่รู้จริงๆ แต่เห็นจากที่มีคนมาคอมเมนท์มาหลากหลาย พอสรุปได้ว่า ช่างฟ้อนบางคนรู้ว่ามีการเปิดให้จองซื้อซิ่นอัตลักษณ์ แต่ไม่ชอบสี ของตัวเองมีซิ่นที่ดีกว่า ก็ไม่ซื้อ บางคนก็ไม่รู้และไม่ได้มีใครชี้แจงว่าต้องใส่เหมือนกัน หลายคนได้รับแจ้งว่าใส่สีชมพูมาได้ เพราะจะมีสไบสีชมพูแจกให้ ให้ใส่เหมือนกัน เลยพากันใส่สีชมพูไป ตอนหลังก็เห็นว่าซิ่นจากที่อื่นๆ ก็ได้รำแค่จะรวมเป็นกลุ่มก้อนไว้ในโซนเดียวกัน
* ตอนลงทะเบียนช่างฟ้อน เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ามีความวุ่นวายเพราะ ให้เขียนชื่อภาษาอังกฤษ ก็ใส่ภาษาไทยมา มีการย้ายกลุ่มตลอดเวลา อันนี้ไม่รู้ว่าถูกย้ายโดยสต๊าฟ หรือยังไง แต่เข้าใจว่าสีซิ่นไม่เหมือนกันเค้าก็แยกๆ ไว้ คัดเฉพาะซิ่นอัตลักษณ์ที่สีเหมือนกันไปอยู่จุดเดียวกันด้านหน้าๆ ก่อน มันเลยเป็นปัญหา และพอย้ายคนไปเติมในส่วนที่คนขาด ไม่มีการประสานงานที่ดี ไปถึงเค้ามีเจ้าถิ่นอยู่แล้ว จะมาตั้งแถวใหม่เพิ่มไปเป็นแถวที่ 4 จากเดิมที่เค้าจัด 3 แถว ก็เกิดปัญหากับคนที่มาช่วยดูแลในพื้นที่ ที่ไม่ได้มีการแจ้งว่าพวกนี้มาจากไหน คนดูแลก็ต้องกั้นพื้นที่ไม่ให้คนเข้ามาตามหน้าที่รับผิดชอบ จึงมีการโพสลงโซเชียล พาพี่เค้าดังไป อารมณ์ขึ้นด่าเค้าไปอีก คนที่ควรด่าคือสต๊าฟที่บอกให้มาตะหาก
* เอาจริงๆ คิดว่า ผู้จัดทำไมไม่แจ้งทุกคนแต่แรก โดยเฉพาะในวันที่ซ้อมใหญ่ ทำความเข้าใจร่วมกันว่าถ้าไม่ซื้อมารำไม่ได้ เค้าไม่คิดคะแนน มันต้องมีตัวแทนไปคุยกับแต่ละกลุ่ม แค่ยกหูก็ได้เตรียมความพร้อม ไม่ใช่ไม่ให้มางมกันหน้างาน ซึ่งสต๊าฟทุกคนก็ไม่ได้มีประสบการณ์
* ตามปกติ Guinness World Records จะส่งเจ้าหน้าที่มาชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้จัดล่วงหน้าอยู่แล้ว (เห็นว่าจะมาก่อน 3เดือน) แต่ทำไมผู้จัดไม่ชี้แจงต่อให้ชัดเจน จะได้เข้าไปตรงกัน หรือผู้จัดก็ไม่เข้าใจในกฏ กติกา เกณฑ์ให้คนมาเยอะที่สุดก่อน คิดว่าทำลายสถิติได้ ก็สงสารช่างฟ้อน
* มีการทำโรงครัวจัดเลี้ยงอาหารผู้มาร่วมฟ้อน และผู้ติดตาม แต่สุดท้ายกองอยู่หน้าครัวไม่มีใครเอาไปส่ง ในความเป็นจริงต้องเป็นสต๊าฟ ที่ต้องเอาไปให้ตามจุดต่างๆ
* แต่ละจุดมีกรรมการของ Guinness World Records อยู่เพื่อตรวจสอบ ดูความพร้อมเพรียง แล้วต้องเอาคะแนนมารวม แต่เห็นว่ากรรมการไปผิดที่ทำให้การรวมผลคะแนนล่าช้า และมีการเครียดในหลายๆ ด้าน กว่าจะรวมคะแนนออกมาได้ ซึ่งก็ช้ากว่า 30 นาที ที่ตั้งไว้ธงแต่แรก
* ตัวเลข 7,218 คน ที่ได้มา นี่ไม่รู้เหมือนกันว่ามาจากไหน บ้างก็ว่าเป็นจำนวนชุดที่ขายไป ส่วนตัวยังคิดว่าแล้วกรรมการแม้มีหลายคนหลายจุดจะมายืนนับจำนวนได้ไม่ลายตาเหรอ
ที่พิมพ์มาทั้งหมด เป็นความเห็นส่วนตัว ที่ประมวลผลมาจากข้อมูลที่ได้พบตอนไปทำข่าวมา โดยคิดว่า งานนี้ผู้จัดไม่มีความพร้อม ไม่เข้าใจว่า Guinness World Records มีกฏ กติกาที่เป๊ะปัง ไม่ชี้แจงให้ทุกส่วนเข้าใจ เลยเกิดความผิดพลาดเยอะ ยิ่งเป็นการจัดงานครั้งแรก ยิ่งต้องสื่อสารเยอะๆ
ในส่วนของออแกไนซ์ ครั้งแรกเช่นกัน สต๊าฟอาจไม่มากพอ และยังไม่มีความเก๋าเพียงพอ ที่จะสื่อสารหรือจัดการ ตัดสินใจเฉพาะหน้าได้ดี เครื่องเสียงไปไม่ถึง สำคัญมาก
รอบหน้าจะทำใหม่คงต้องเตรียมการเป็นปีๆ ไม่ใช่ปุปปับ
ในมุมของช่างฟ้อน ส่วนใหญ่คิดว่า มารำถวายบูรพกษตริย์เนื่องในโอกาสครบรอบ 729 การก่อตั้งเมืองเชียงใหม่ ก็ทำให้บางส่วนมีความสบายใจ
ส่วนเงินเข้ากระเป๋าใครบ้าง NO Comment 555555
ปล. เดี๋ยวคิดไรออกมาเติมเรื่อยๆ วันนี้เข้าเวรเขียนข่าวก่อน
และเดี๋ยวมีนักข่าวไปทำข่าวมาเพิ่ม ตามต่อกันยาวๆ ไปเลย
https://www.facebook.com/photo/?fbid=10231610049088867&set=a.1934455235640
.....
Pipob Udomittipong
10 hours ago
·
ก่อนอื่นขอแสดงความดีใจ ที่ช่างฟ้อนเชียงใหม่ 7,218 คน สามารถบันทึกสถิติ Guinness World Record The Largest Thai dance ได้ (สถิติเดิม 5,255 คน) ตอนนี้กำลังมีดราม่า ที่นักข่าวกำลังขุดคุ้ย
* ฉันผู้ซึ่งได้คำสั่งไปทำข่าวครั้งนี้ พยายามหาข้อมูลการฟ้อนก่อน 2 วัน แบบงงๆ เหมือนเค้าเพิ่งมีการประกาศว่าจะทำลายสถิติโลก เมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย. นี่เอง เท่าที่ทราบคือ หนึ่งในสปอนเซอร์ของช่างฟ้อน คือมาดามคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ลงสมัครนายกเทศบาลนครเชียงใหม่ด้วย
* ฉันถามน้องประชาสัมพันธ์จังหวัดเพื่อหาข้อมูลมาเขียนข่าว ก็ไม่รู้เช่นกันเลยหาข้อมูลจาก อากู๋มารอไว้ ได้ที่ 19,900 คน เขียนข่าวรอไว้พร้อมสรรพ รอปรับเปลี่ยนเพราะต้องรีบส่งข่าวให้ทัน
* ณ วันฟ้อนจริงเมื่อวานนี้ ฉันไปถึงตอน 16.30 น. อากาศร้อนเลยไปนั่งรอในร้านอาหารหน้า รร.แห่งหนึ่ง ซึ่งบังเอิญเป็นที่พักและที่ทำงานของกรรมการ Guinness World Records เลยได้ฟังข้อมูลมาบ้างนิดหน่อย
* กรรมการ Guinness เข้มงวดมาก ในเรื่องจำนวนคน ตอนแรกช่างฟ้อนผู้ชายก็จะไม่ให้ แต่ก็ต่อรองจนสำเร็จ ส่วนเรื่องของชุด ต้องเป๊ะหมด ห้ามมีโลโก้ ข้อความใดๆ จะมีสติ๊กเกอร์ที่เค้ารันจำนวนเท่านั้น
* ตอนพิธีเปิด กรรมการคนหลัก พูดอย่างชัดเจน ว่า Guinness World Records มีกฏ ระเบียบ ที่ต้องทำให้ถูกต้อง พร้อมเพรียง โดยเฉพาะเรื่องของเวลา ที่ใช้พลุเป็นตัวกำหนดเวลา ซึ่งการฟ้อนต้องเริ่มและจบภายใต้เสียงพลุ แต่เอาจริงๆ เพลงฟ้อนจบ ช่างฟ้อนก็หยุด อีกแป๊บ เสียงพลุดัง ตอนแรกก็ยังกลัวเลยว่าจะได้ไหม
* จบการฟ้อนรอบแรกก่อนบันทึกจริง คนคอมเมนท์ด่าใน CM108 เต็มไปหมด โดยเฉพาะเรื่องเพลงไม่ได้ยิน ต้องยอมรับว่าเสียงลำโพงบนเวทีมันดีเลย์กว่าเสียงจริงตอนพูดด้วย เพราะใช้ลำโพงขยายเสียงออกไป และมีการถ่ายทอดสดด้วย และก็ไม่รู้ว่า มีการติดตั้งลำโพง ขยายเสียงไปครบทุกจุดที่มีช่างฟ้อนหรือไม่ โดยเฉพาะตามแจ่งต่างๆ ซึ่งเห็นบอกว่าไม่มีเสียงก็ฟ้อนแบบนับจังหวัดเอาเอง เช่นที่ แถวสวนบวกหาด วัดควรค่าม้า เป็นต้น
* ส่วนเรื่องสีซิ่นนั้น ไม่รู้จริงๆ แต่เห็นจากที่มีคนมาคอมเมนท์มาหลากหลาย พอสรุปได้ว่า ช่างฟ้อนบางคนรู้ว่ามีการเปิดให้จองซื้อซิ่นอัตลักษณ์ แต่ไม่ชอบสี ของตัวเองมีซิ่นที่ดีกว่า ก็ไม่ซื้อ บางคนก็ไม่รู้และไม่ได้มีใครชี้แจงว่าต้องใส่เหมือนกัน หลายคนได้รับแจ้งว่าใส่สีชมพูมาได้ เพราะจะมีสไบสีชมพูแจกให้ ให้ใส่เหมือนกัน เลยพากันใส่สีชมพูไป ตอนหลังก็เห็นว่าซิ่นจากที่อื่นๆ ก็ได้รำแค่จะรวมเป็นกลุ่มก้อนไว้ในโซนเดียวกัน
* ตอนลงทะเบียนช่างฟ้อน เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ามีความวุ่นวายเพราะ ให้เขียนชื่อภาษาอังกฤษ ก็ใส่ภาษาไทยมา มีการย้ายกลุ่มตลอดเวลา อันนี้ไม่รู้ว่าถูกย้ายโดยสต๊าฟ หรือยังไง แต่เข้าใจว่าสีซิ่นไม่เหมือนกันเค้าก็แยกๆ ไว้ คัดเฉพาะซิ่นอัตลักษณ์ที่สีเหมือนกันไปอยู่จุดเดียวกันด้านหน้าๆ ก่อน มันเลยเป็นปัญหา และพอย้ายคนไปเติมในส่วนที่คนขาด ไม่มีการประสานงานที่ดี ไปถึงเค้ามีเจ้าถิ่นอยู่แล้ว จะมาตั้งแถวใหม่เพิ่มไปเป็นแถวที่ 4 จากเดิมที่เค้าจัด 3 แถว ก็เกิดปัญหากับคนที่มาช่วยดูแลในพื้นที่ ที่ไม่ได้มีการแจ้งว่าพวกนี้มาจากไหน คนดูแลก็ต้องกั้นพื้นที่ไม่ให้คนเข้ามาตามหน้าที่รับผิดชอบ จึงมีการโพสลงโซเชียล พาพี่เค้าดังไป อารมณ์ขึ้นด่าเค้าไปอีก คนที่ควรด่าคือสต๊าฟที่บอกให้มาตะหาก
* เอาจริงๆ คิดว่า ผู้จัดทำไมไม่แจ้งทุกคนแต่แรก โดยเฉพาะในวันที่ซ้อมใหญ่ ทำความเข้าใจร่วมกันว่าถ้าไม่ซื้อมารำไม่ได้ เค้าไม่คิดคะแนน มันต้องมีตัวแทนไปคุยกับแต่ละกลุ่ม แค่ยกหูก็ได้เตรียมความพร้อม ไม่ใช่ไม่ให้มางมกันหน้างาน ซึ่งสต๊าฟทุกคนก็ไม่ได้มีประสบการณ์
* ตามปกติ Guinness World Records จะส่งเจ้าหน้าที่มาชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้จัดล่วงหน้าอยู่แล้ว (เห็นว่าจะมาก่อน 3เดือน) แต่ทำไมผู้จัดไม่ชี้แจงต่อให้ชัดเจน จะได้เข้าไปตรงกัน หรือผู้จัดก็ไม่เข้าใจในกฏ กติกา เกณฑ์ให้คนมาเยอะที่สุดก่อน คิดว่าทำลายสถิติได้ ก็สงสารช่างฟ้อน
* มีการทำโรงครัวจัดเลี้ยงอาหารผู้มาร่วมฟ้อน และผู้ติดตาม แต่สุดท้ายกองอยู่หน้าครัวไม่มีใครเอาไปส่ง ในความเป็นจริงต้องเป็นสต๊าฟ ที่ต้องเอาไปให้ตามจุดต่างๆ
* แต่ละจุดมีกรรมการของ Guinness World Records อยู่เพื่อตรวจสอบ ดูความพร้อมเพรียง แล้วต้องเอาคะแนนมารวม แต่เห็นว่ากรรมการไปผิดที่ทำให้การรวมผลคะแนนล่าช้า และมีการเครียดในหลายๆ ด้าน กว่าจะรวมคะแนนออกมาได้ ซึ่งก็ช้ากว่า 30 นาที ที่ตั้งไว้ธงแต่แรก
* ตัวเลข 7,218 คน ที่ได้มา นี่ไม่รู้เหมือนกันว่ามาจากไหน บ้างก็ว่าเป็นจำนวนชุดที่ขายไป ส่วนตัวยังคิดว่าแล้วกรรมการแม้มีหลายคนหลายจุดจะมายืนนับจำนวนได้ไม่ลายตาเหรอ
ที่พิมพ์มาทั้งหมด เป็นความเห็นส่วนตัว ที่ประมวลผลมาจากข้อมูลที่ได้พบตอนไปทำข่าวมา โดยคิดว่า งานนี้ผู้จัดไม่มีความพร้อม ไม่เข้าใจว่า Guinness World Records มีกฏ กติกาที่เป๊ะปัง ไม่ชี้แจงให้ทุกส่วนเข้าใจ เลยเกิดความผิดพลาดเยอะ ยิ่งเป็นการจัดงานครั้งแรก ยิ่งต้องสื่อสารเยอะๆ
ในส่วนของออแกไนซ์ ครั้งแรกเช่นกัน สต๊าฟอาจไม่มากพอ และยังไม่มีความเก๋าเพียงพอ ที่จะสื่อสารหรือจัดการ ตัดสินใจเฉพาะหน้าได้ดี เครื่องเสียงไปไม่ถึง สำคัญมาก
รอบหน้าจะทำใหม่คงต้องเตรียมการเป็นปีๆ ไม่ใช่ปุปปับ
ในมุมของช่างฟ้อน ส่วนใหญ่คิดว่า มารำถวายบูรพกษตริย์เนื่องในโอกาสครบรอบ 729 การก่อตั้งเมืองเชียงใหม่ ก็ทำให้บางส่วนมีความสบายใจ
ส่วนเงินเข้ากระเป๋าใครบ้าง NO Comment 555555
ปล. เดี๋ยวคิดไรออกมาเติมเรื่อยๆ วันนี้เข้าเวรเขียนข่าวก่อน
และเดี๋ยวมีนักข่าวไปทำข่าวมาเพิ่ม ตามต่อกันยาวๆ ไปเลย
https://www.facebook.com/photo/?fbid=10231610049088867&set=a.1934455235640
.....
Pipob Udomittipong
10 hours ago
·
"ท่านรัฐมนตรีไม่เกี่ยว
แต่ไปเพราะได้รับเชิญ
ท่านไม่รู้เรื่องบริหารจัดการใดๆทั้งสิ้น
ดังนั้นอย่าว่าท่านเลย"
Somrit Luechai
11 hours ago
"ท่านรัฐมนตรีไม่เกี่ยว
แต่ไปเพราะได้รับเชิญ
ท่านไม่รู้เรื่องบริหารจัดการใดๆทั้งสิ้น
ดังนั้นอย่าว่าท่านเลย"
Somrit Luechai
11 hours ago
·
นี่ไง
ว่าแล้วไม่มีผิด
คิดในใจแล้วว่าไม่พ้นหน่วยงานนี้แน่ๆ
"วัฒนธรรมจังหวัด"
เพราะการคิดแบบนี้
ไม่มีใครหรอกนอกจากหน่วยงานนี้
ส่วนที่สำนักปลัด กท.วัฒนธรรม
แถลงทำนองว่า
"ท่านรัฐมนตรีไม่เกี่ยว
แต่ไปเพราะได้รับเชิญ
ท่านไม่รู้เรื่องบริหารจัดการใดๆทั้งสิ้น
ดังนั้นอย่าว่าท่านเลย"
อันนี้เข้าใจครับ
เพราะงานนี้ถูกด่ามากกว่าถูกชม
เลยต้องแถลงออกมาแบบนี้
ผมขอเตือน
รัฐมนตรี กท.วัฒนธรรมด้วยความหวังดีว่า
ต่อไปจะไปไหนหรือจะทำอะไร
ให้ระมัดระวังพวกสอพลอตอแหลให้ดี
อย่าเชื่อพวกนี้โดยไม่ใตร่ตรอง
เพราะถ้าพลาด
พวกนี้ก็จะแค่แถลงชี้แจงให้
แต่พวกนี้ก็รอด
คุณเองยังไงก็หนีไม่พ้น
เพราะภาพปรากฏหราอย่างนี้
นี่ไง
ว่าแล้วไม่มีผิด
คิดในใจแล้วว่าไม่พ้นหน่วยงานนี้แน่ๆ
"วัฒนธรรมจังหวัด"
เพราะการคิดแบบนี้
ไม่มีใครหรอกนอกจากหน่วยงานนี้
ส่วนที่สำนักปลัด กท.วัฒนธรรม
แถลงทำนองว่า
"ท่านรัฐมนตรีไม่เกี่ยว
แต่ไปเพราะได้รับเชิญ
ท่านไม่รู้เรื่องบริหารจัดการใดๆทั้งสิ้น
ดังนั้นอย่าว่าท่านเลย"
อันนี้เข้าใจครับ
เพราะงานนี้ถูกด่ามากกว่าถูกชม
เลยต้องแถลงออกมาแบบนี้
ผมขอเตือน
รัฐมนตรี กท.วัฒนธรรมด้วยความหวังดีว่า
ต่อไปจะไปไหนหรือจะทำอะไร
ให้ระมัดระวังพวกสอพลอตอแหลให้ดี
อย่าเชื่อพวกนี้โดยไม่ใตร่ตรอง
เพราะถ้าพลาด
พวกนี้ก็จะแค่แถลงชี้แจงให้
แต่พวกนี้ก็รอด
คุณเองยังไงก็หนีไม่พ้น
เพราะภาพปรากฏหราอย่างนี้
https://www.facebook.com/somrit.luechai/posts/10232839954760245
