Paskorn Jumlongrach
20 hours ago
·
แม่น้ำปนเปื้อน
กับรัฐบาลปนเปื้อน
----------
แม่น้ำกกและแม่น้ำสายซึ่งเป็นแม่น้ำข้ามแดนกำลังเผชิญชะตาเดียวกันคือเสื่อมโทรมและปนเปื้อนด้วยสารโลหะหนักคือสารหนูเกินค่าเกณฑ์มาตรฐาน จนไม่สามารถใช้น้ำอุปโภคบริโภคได้
ถ้าดูจากแผนที่เห็นได้ว่า ต้นกำหนดแม่น้ำกกและแม่น้ำสายอยู่ในเขตเมืองสาดของรัฐฉานและไม่ห่างจากชายแดนไทยมากนัก ในอดีตป่าดอยย่านนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ โดยประชาชนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆโดยเฉพาะไทใหญ่
เมื่อราว 30 ปีก่อน ทหารว้าหรือชื่อเป็นทางการว่ากองทัพแห่งสหรัฐว้า (United Wa State Army -UWSA)ได้เข้ามาแทนที่ทหารไทใหญ่เพราะต้องการสร้างรัฐว้าใต้(ฐานใหญ่ของว้าคือเขตปกครองพิเศษว้าอยู่ติดกับจีน) พร้อมกับการอพยพชาวว้าจำนวนมากมาแทนที่กลุ่มชาติพันธุ์ท้องถิ่น ซึ่งกองทัพพม่าและทางการจีนได้ให้การสนับสนุน
ทหารว้าทำทุกวิถีทางในการตักตวงผลประโยชน์ในพื้นที่เพื่อนำเงินมาซื้ออาวุธสร้างกองทัพ ตั้งแต่ผลิตยาเสพติดส่งเข้าประเทศไทยดังที่เราเห็นจากการจับกุมได้ล๊อตใหญ่ๆตามชายแดนภาคเหนือ
ทหารว้าอนุญาตให้คนจีนเข้าไปตัดไม้ในป่าแหล่งต้นน้ำกกและสาย เพื่อขนกลับประเทศจีนแล้วปลูกยางพาราแทน
ทหารว้าสนับสนุนทำแหล่งอบายมุขต่างๆทั้งพนันออนไลน์ แหล่งสแกมเมอร์ และการค้ามนุษย์ โดยมีพวกมาเฟียจีนเชื่อมโยงกันตั้งแต่คิงส์โรมันส์ไปเมียวดีและกัมพูชา
นอกจากนี้ทหารว้ายังดึงคนจีนเข้ามาทำเหมืองทองในพื้นที่เมืองสาด ในรัฐฉานใต้ที่ติดกับชายแดนไทยซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่ไหลเข้าไทย
ผลที่เกิดขึ้นกับแม่น้ำกกและแม่น้ำสายในวันนี้เนื่องจากมีการทำเหมืองทองในพื้นที่ต้นน้ำ โดยต้นแม่น้ำสายได้มีการทำเหมืองทองมาก่อนหน้านี้ 3-4 ปี โดยปีที่แล้วน้ำในแม่น้ำสายขุ่นข้นจนกลายเป็นสีขาว (อ่านข่าวย้อนหลัง https://transbordernews.in.th/home/?p=37458
https://transbordernews.in.th/home/?p=38402 ) จริงแล้วถ้าตรวจกันดีๆ หลายคนเชื่อว่าควรพบสารโลหะหนักในแม่น้ำสายเกินค่ามาตรฐานก่อนพบในแม่น้ำกกด้วยซ้ำ เพราะสถานการณ์ของแม่น้ำสายในปีที่แล้วเลวร้ายมาก
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาชาวจีนได้ย้ายฐานการผลิตเหมืองทองจากต้นแม่น้ำสายไปยังต้นแม่น้ำกกซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากนัก(แถวพื้นที่วงกลมสีแดง) ทำให้พื้นที่ต้นแม่น้ำกกถูกเปิดหน้าดินในวงกว้าง ยิ่งกว่าก่อนเกิดภัยพิบัติเมื่อเดือนกันยายน 2567
วันนี้ประชาชนในลุ่มน้ำกกและลุ่มน้ำสายต่างเดือดร้อนกันถ้วนหน้าเพราะในน้ำมีสารโลหะหนักปนเปื้อนจนถูกห้ามใช้น้ำอุปโภคบริโภค ถึงขนาดห้ามสัมผัส ขณะที่คนเมืองเชียงรายยังต้องใช้น้ำประปาที่ผลิตจากน้ำดิบของแม่น้ำกก และคนแม่สายยังต้องใช้น้ำประปาจากน้ำดิบของแม่น้ำสาย
เมื่อปีที่แล้วทั้งคนลุ่มน้ำกกและลุ่มน้ำสายต่างก็ประสบภัยพิบัติน้ำและโคลนท่วมถล่มเช่นเดียวกัน ซึ่งความเสียหายยังทิ้งร่องรอยอยู่ถึงวันนี้
ต้นสายปลายเหตุจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ภัยพิบัติเมื่อปีก่อนจนถึงการปนเปื้อนของสารโลหะหนักในลำน้ำทั้งสองแห่ง ต่างมีหลักฐานและพยานมากมายที่ทำให้เห็นข้อเท็จจริงเกินพอที่จะกำหนดโจทย์ได้ชัดเจนเพื่อการแก้ไข
เพียงแต่โชคร้ายตอนนี้เรามีรัฐบาลที่อ่อนแอและไม่สามารถตอบสนองต่อความเดือดร้อนของประชาชนได้ทันท่วงที จึงทำให้ประชาชนในลุ่มแม่น้ำกกและลุ่มแม่น้ำสายนับแสนตกอยู่ในบรรยากาศวังเวงและเคว้งคว้าง
คิดดูครับ แม้แต่แผนรับมือภัยพิบัติในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึงในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างออกมาให้เห็นทั้งๆที่ตั้งคณะกรรมการฯชุดใหญ่ระดับชาติกันมาแล้ว 6 เดือน
แล้วอย่างนี้ประชาชนจะไปคาดหวังอะไรได้อีก
https://www.facebook.com/photo/?fbid=9709819929061205&set=a.139504616092832
