วันศุกร์, เมษายน 18, 2568

ถึงขณะนี้ยังไม่มีมาตรการสู้ศึกกำแพงภาษีสหรัฐออกมา เพราะ “วันนี้ยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะดำเนินมาตรการใด” แน่ๆ แบ๊งค์ชาติบอกแล้ว มาเมื่อไรเริ่มเจ๊งเมื่อนั้น

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีมาตรการสู้ศึกกำแพงภาษีสหรัฐออกมา จากรัฐบาลของลูกสาว ทักษิณ ชินวัตร ถ้อยแถลงของอุ๊งอิ๊งหลังการพูดคุยอย่างทางการกับ อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียน แค่ว่าจะรวมพลังในอาเซียนเท่านั้น

รายละเอียดต่างๆ ยังไม่ได้คุยกัน ขณะที่ รมว.คลัง/รองนายกฯ พิชัย ชุณหวชิร ซึ่งจะเป็นคนนำทีมไปเจรจาในวันที่ ๒๓ เมษานี้ ก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน “วันนี้จึงยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะดำเนินมาตรการใด และคงต้องมอนิเตอร์ติดตามต่อไป”

นั่นจากการตอบนักข่าวเมื่อ ๑๖ เมษา หลังการประชุมร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย อันมีทั้งผู้ว่าฯ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฟพฒิ กับรองฯ สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ เข้าประชุม นายพิชัยกล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้คงไม่มีใครบอกได้ว่าหยิบมาตรการไหนดี”

แต่ก็คุยเสียด้วยว่า “ซึ่งมาตรการต่างๆ ในอดีตมีเยอะ” ที่เป็นโล้เป็นพายเห็นจะเป็นที่บอกว่าต่อนี้ไปจะทำงานร่วมกับแบ๊งค์ชาติอย่างใกล้ชิด โล่งอกไปนิดที่พวก ไอแบ๊ก อีแข๊ก คงหยุดระดมโจมตีผู้ว่าแบ๊งค์ชาติกันเสียที ไม่ปล่อยให้สำรอกกันเหมือนที่ผ่านมา

พร้อมกันนั้นฝ่ายแบ๊งค์ชาติได้ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับผลกระทบต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทย จากผลของภาษีศุลกากร ๓๗% ที่ทรั้มพ์ประกาศว่าจะจัดการกับไทย ถึงแม้ตอนนี้รัฐบาลยังใจชื้นร่มๆ ดังนายกฯ บอกว่ากำแพงภาษียังไม่ได้เริ่ม

แน่ๆ จาก ธปท.ก็คือ “ในระยะสั้น ตลาดการเงินผันผวนขึ้น เริ่มเห็นการผลิต การค้า และการลงทุนบางส่วนชะลอ” เงินบาทค่าแข็งขึ้นเล็กน้อย “สอดคล้องกับภูมิภาค” การลงทุนยังมีความไม่แน่นอนสูง ร้ายที่สุด “อาจเห็นการย้ายฐานการผลิตออกจากไทย”

การส่งออกซึ่งจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากกำแพงภาษี ก็ยังต้อง “wait and see” จนกว่าจะครบ ๙๐ วันที่ทรั้มพ์เปลี่ยนใจมาผ่อนผัน ยาง ชิ้นส่วนยานยนต์ เหล็ก เคมีภัณฑ์ และอาหารแปรรูป เหล่านี้จะต้องเจออุปสรรคใหม่ เมื่อมีการแข่งขันจากประเทศอื่นเพิ่มเข้ามา

แบ๊งค์ชาติแนะว่า นอกจากการไปเจรจากับสหรัฐแล้ว ไทยควรออกมาตรการรับมือความผันผวนทางเศรษฐกิจที่จะตามมาไว้ด้วย “ทั้งการแข่งขันของสินค้าจากต่างประเทศ และป้องกันการนำเข้าสินค้ามาเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐฯ ผ่านไทย”

ทักษิณพร้อมสำหรับแพทองธารหรือยัง อย่ามัวแต่ทำตัวเป็น ‘peace promoter’ จนทำท่าจะเป็นสบู่ฟอกขาวให้แก่ ‘มินอ่องหล่าย’ เรื่องการจัดเลือกตั้งในพม่า ซึ่งมีผลต่อประชากรเพียง ๒๐ กว่าเปอร์เซนต์ โดยไม่สามารถดึงรัฐอิสระต่างๆให้มาร่วมได้

(https://prachatai.com/journal/2025/04/112644, https://www.nationtv.tv/politic/378960049=IwY2xjawJtB3 และ https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/cvwtnuFpjiw)