เรื่องนี้ (น่าจะ) จบไปแล้ว จากการแถลงของมูลนิธิโครงการตำราฯ โดยเฉพาะข้อ ๓ ที่ว่ามี “การจ่ายค่าตอบแทนเพิ่มเติมจำนวน ๖,๐๐๐ บาท” เป็นส่วนหนึ่งของการ “ชำระค่าตอบแทนและค่าใช้จ่าย ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำบัญชี”
โดยที่ในส่วนเงิน ๖ พันดังกล่าวนั้น จะมีการชำระในวันที่ ๒๕ ของเดือน “ตามระเบียบของมูลนิธิฯ” ซึ่งคู่กรณีไม่ติดใจ เว้นแต่ขอชี้แจงในส่วนของตนบ้าง จึงปรากฏโพสต์เฟชบุ๊คของ ‘เพ็นกวิน’ พริษฐ์ ชิวารักษ์ นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย
ด้วยว่าเหตุที่เกิดเป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับค่าจ้างทำบัญชีของนางสุรีรัตน์ ชีวารักษ์ มารดาเพ็นกวิน ที่ว่าจ่ายขาดไปสองเดือน ๆ ละ ๓ พันบาท และกลายเป็นข่าวอึกทึกเพราะผู้เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายเป็นคนมีชื่อเสียง ทั้งในแวดวงขบวนการประชาธิปไตย และสื่อ
แรกเมื่อเกิดข่าว ศ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ผู้ก่อตั้งโครงการตำรา และคิดว่าเป็นประธานมูลนิธิฯ ในปัจจุบัน เป็นเป้าของการวิวาทะเรื่องนี้ในสาธารณะ มาหลุดเป้าต่อเมื่อมูลนิธิฯ แถลงว่า ดร.ชาญวิทย์มิได้รู้เห็นหรือเกี่ยวพันในกรณีพิพาทแต่อย่างใด
ขณะที่คู่กรณีในวงนอกแบ่งเป็นสามเส้า มี ‘ใบตองแห้ง’ กับ ฟ้ารุ่ง สีขาว เข้าทางโครงการตำรา ทว่าสองรายนี้หันมาฟัดกันเองอยู่บ้าง อีกด้านเป็น จอม ไฟเย็น ที่เข้าข้าง ‘แม่สุ’ มารดาเพ็นกวิน เต็มบ้อง นอกนั้นก็มี ‘อีแบ๊ก’ แทรกเข้าไปหมายตบ ‘ซ่ม’ เท่านั้น
คือพวก bags นี่แพ้ภูมิสีส้มเอามากๆ พยายามให้ร้ายโจมตีในทุกกรณี ใครที่ชื่นชอบพรรคการเมืองซึ่งการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้ ส.ส.มากที่สุด แต่ต้องมาเป็นฝ่ายค้าน เพราะมีการตระบัดสัตย์ ข้ามขั้ว ไปผสมกับพวกผลพวงรัฐประหาร ตั้งรัฐบาล
‘ข้อพิพาท’ เกิดขึ้นอย่างไร ทางมูลนิธิฯ บอก ว่าจ้างนางสุรีรัตน์ทำบัญชีตั้งแต่พฤษภา ๖๗ ถึงมีนา ๖๘ รวม ๑๒ เดือน จ่าย ๓๖,๐๐๐ บาทครบแล้ว จะมาเรียกร้องอีกสองเดือน ๖ พันได้อย่างไร แม่สุไม่ยอม บอกว่าเข้าทำงานพฤษภาก็จริงแต่ทำบัญชีให้ย้อนไปถึงมกรา
ในเมื่อไม่มีสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร ก็ถือว่าทำบัญชีให้ครบ ๑๒ เดือน มกรา-ธันวา ๖๗ เมื่อเอางานของมกราและกุมภา ๖๘ มาให้ทำ ต้องถือว่าจ้างเพิ่มอีกสองเดือน เรื่องออกมาอึงอื้อทางสาธารณะเมื่อมีการลำเลิกบุญคุณเพ็นกวิน
‘กวิ้น’ จึงได้เอ่ยถึงในโพสต์ของเขา “นี่ไม่ใช่เรื่องว่าผมไม่เห็นแก่บุญคุณคุณูปการของอาจารย์ท่านนั้น เรื่องที่ท่านทำดีทั้งต่อผมและสังคม ผมชื่นชมและจดจำ” แม่รับงานนี้ในราคาต่ำกว่าปกติเพราะ ‘คุณูปการ’ นี้ ส่วนที่บอกเลิกจ้างอ้างว่าผลงานไม่ดีนั้น
มันกระทบ “ศักดิ์ศรีวิชาชีพของแม่ผม” แล้วที่บอกว่า (ตื๊อนัก) จะจ่ายให้ ๓ พัน (ขาดตัว) “รับก็จบ ไม่รับก็จบ” ก็กระทบศักดิ์ศรีเหมือนกันหนา “เรื่องที่เขาใช้เป็นเหตุอ้างไม่จ้างต่อนั้น แม่ผมชี้แจงได้หมด” กวิ้นว่า “เพราะแกโดนอะไรทำนองนี้บ่อยครับ”
ทั้งหมดนี่เป็นฝีมือของคนที่เป็นมือขวาทำงานแทน อจ.ชาญวิทย์ กวิ้นเลยปิดจ๊อบว่า “มีการว่ากล่าวและสะสางกันให้เรียบร้อยจะได้ไม่เป็นเรื่องอีก เข้าใจว่าเรื่องปัญหาทำนองนี้มีมาหลายรอบแล้ว”
(https://www.facebook.com/RatsadonNews/posts/6Ec6ehkDZt, https://www.matichon.co.th/prachachuen/book/news_5144865 และ https://www.facebook.com/baitongpost/posts/jiygpbcsyURRj)