วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 16, 2568

จดชื่อแล้วนะ ... เหมือนอยู่ในยุคเผด็จการ ... 😡


ภัควดี วีระภาสพงษ์
7 hours ago
·
อยู่ในยุคเผด็จการก็แบบนี้ล่ะค่ะ เฮ้อ
...
😡
.....


The Isaan Record
10 hours ago
·
ตำรวจมาหานักข่าว The Isaan Record ถึงสำนักงาน อ้างส่วนกลางให้ติดตามผู้ต้องหาคดี 112 ทั่วประเทศ
วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2568) เมื่อเวลาประมาณ 11.30-11.50 น. ขณะที่บอย-พงศธรณ์ ตันเจริญ (คนขวามือในภาพ) ผู้สื่อข่าว The Isaan Record กำลังทำงานอยู่ที่สำนักงาน พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 นาย เดินทางเข้ามาหาถึงที่ทำงาน เมื่อพงศธรณ์ถามถึงมูลเหตุการมาพบในครั้งนี้ ตำรวจทั้งสองนายได้อธิบายว่าตนได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ให้มาติดตามและสอบถามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาในคดี มาตรา 112 ซึ่งพงศธรณ์ ตันเจริญ คือหนึ่งในบุคคลที่มีรายชื่อของการติดตาม โดยส่วนกลางสั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามผู้ต้องหาคดี 112 ทุกคนในประเทศ
นอกจากนี้พงศธรณ์ได้สอบถามถึงชื่อและสังกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทั้งสองนายได้พูดชื่อ ตำแหน่งและสังกัดของตน โดยย้ำว่าพวกตนมิได้มีเป้าหมายเพื่อที่จะสร้างการคุกคามแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการเข้ามาหาเพื่อสอบถามข้อมูลความเป็นอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น
พงศธรณ์ได้การพูดคุยกับตำรวจทั้งสองนาย โดยกินเวลาประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นก่อนที่ดาบตำรวจทั้งสองนายจะขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับนั้นนายพงศธรณ์ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ฝากบอกเจ้านายพวกคุณด้วยว่าผมไม่มีทางหลบหนีออกนอกประเทศแน่นอน พวกคุณไม่ต้องกังวลและคิดว่าผมจะหลบหนี เพราะผมจะอยู่ที่เมืองไทย”
เนื่องจากสถานการณ์การลี้ภัยของผู้ต้องหาในคดี 112 นั้นมีจำนวนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พงศธรณ์จึงตั้งข้อสังเกตุว่าเหตุที่ตำรวจออกมาตามหาตนอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้มีการพบกับตำรวจมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์สอบถามตน เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2566 (คลิกอ่าน https://tlhr2014.com/archives/62472 )
พงศธรณ์ ตันเจริญ เป็นหนึ่งในนักกิจกรรมทางการเมืองที่มีบทบาทและเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงที่เรียนสาขาการเมืองการปกครอง วิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (2562-2567) ปัจจุบันจบการศึกษารัฐศาสตรบัณฑิตและทำงานเป็นผู้สื่อข่าวให้กับ The Isaan Record
ที่ผ่านมาพงศธรณ์เคยมีส่วนสำคัญในการเป็นผู้จัดกิจกรรมทางการเมืองหลายกิจกรรมที่จังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2563 ซึ่งพงศธรณ์คือหนึ่งในผู้ร่วมจัดกิจกรรม “แล่น ลัก ลุง” อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ถูกตำรวจติดตามจนกระทั่งเดินทางมาพบที่บ้านของเขา ถัดมาในช่วงกลางปีเดียวกันนั้นเขาถูกดำเนินคดีทางการเมืองครั้งแรกในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ. ควบคุมโรค จากการชุมนุม “อีสานสิบ่ทน” เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ลานแปดเหลี่ยม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ต่อมาคดีดังกล่าว ศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้องทุกข้อกล่าวหาในกลางปี 2565 อย่างไรก็ตาม เขายังต้องขึ้นศาลเพื่อต่อสู้ในคดีมาตรา 112 กรณีการร่วมขึ้นปราศรัยถึงทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในม็อบ #25พฤศจิกาไปSCB ที่หน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ กรุงเทพฯ เมื่อปลายปี 2563 ซึ่งสถานะของคดีในปัจจุบันรอการสืบพยานโจทย์-จำเลยในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม พ.ศ.2568
พงศธรณ์ได้กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมานั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเคยเดินทางมาหาตนที่บ้านเกิดที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งในตอนนั้นเขาต้องการสอบถามความเคลื่อนไหวและการเตรียมการจัดกิจกรรมทางการเมือง นั่นคือครั้งแรกที่ตำรวจมาหาตนถึงที่พัก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมักเลือกใช้วิธีการโทรศัพท์หาอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่เคลื่อนไหวจัดการชุมนุมทางการเมืองในช่วงปี 2563

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1092853446215132&set=a.621847056649109
.....