นี่ไง บทบาทสำคัญของพรรคฝ่ายค้าน ที่ถูก ‘ทักษิณ’ ก้าวล้ำสั่งสอน เรื่องเกิดเมื่อ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗ โดย ครม.ของนายกฯ แพทองธาร “แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสรรหากรรมการกำกับกิจการพลังงานใหม่ จำนวน ๔ คน แทนกรรมการเดิม”
กลับปรากฏว่า “อาจส่อถึงความไม่โปร่งใส” เมื่อปรากฏว่า “คณะกรรมการสรรหาเกือบทุกท่านมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่ง หรือเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารในบริษัททางด้านพลังงาน”
Supachot Chaiyasat เป็นผู้ปูดเรื่องนี้โดยชี้ปัญหา ความเป็นกลาง ธรรมาภิบาล และความมั่นใจของประชาชนต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งใหม่กลุ่มนี้ ต่อพันธะหน้าที่ดูแล “การรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบ 3,600 MW”
ซึ่งได้พบข้อพิรุธในประกาศรับซื้อแล้วหลายประเด็น ได้แก่ “ไม่มีการเปิดประมูลแข่งขัน และ กกพ.ก็ไม่ประกาศหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก ทำให้ กกพ. สามารถใช้ดุลยพินิจส่วนตัวในการเลือก ให้กลุ่มทุนรายใดก็ตามสามารถขายไฟฟ้าให้รัฐจำนวนมากได้”
@SupachotChai บอกว่าเหตุคล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว ในการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบ 5,200 MW ซึ่ง “หากคณะกรรมการสรรหา บอร์ด กกพ. กลายเป็นผู้ถือหุ้นหรือเป็นอดีตผู้บริหารของกลุ่มทุนโรงไฟฟ้าเสียเอง
ก็คงจะมองได้ไม่ยากว่า นี่คือกระบวนการผลประโยชน์ทับซ้อน ที่รัฐบาลกำลังทำให้กระบวนการสรรหาบอร์ด กกพ. กลายเป็นกลไกของกลุ่มทุนพลังงาน ที่ส่งคนเข้ามาแทรกแซงองค์กรของรัฐ และหาช่องท่างต่างตอบแทนเอื้อประโยชน์”