มาดูกันสิว่าเรื่องทหารๆ ของไทย มีอะไรสำคัญๆ บ้าง นอกจากเสื้อผ้า หมวก และสายสะพาย อันเนื่องมาแต่ประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อ ๔ พฤศจิกายน ๖๗ โดยมีผลตั้งแต่ ๑ พฤศจิกายน
สถาปนาหน่วยทหารรักษาพระองค์
และหน่วยทหารในพระองค์ รวมทั้งสิ้น ๖๗ หน่วย ที่ วาสนา นาน่วม บอกว่าเป็นการปรับโครงสร้างหน่วยเฉพาะกิจครั้งสำคัญทีเดียว
ทำให้ ฉก.คอแดง หรือ ฉก.ทม.รอ.๙๐๔ กระจายไปอยู่ในกองทัพบก
๔๖ หน่วย บวกหน่วยทหารในพระองค์อีก ๔ หน่วย กองทัพเรือ ๗ หน่วย กองทัพอากาศ ๑๐
หน่วย ล้วนเป็นกำลังรบหลักของกองทัพ ทหารบกมีทั้งหน่วยราบ ม้า และปืนใหญ่
โดยกรมรบพิเศษที่ ๓ ซึ่งเดิมเป็นกรมรบระดับมือพระกาฬของหน่วยรักษาพระองค์
จะกลับไปสู่การเป็นทหารหมวกแดงคอเขียวเหมือนเดิม เช่นกันกับกองพลรบพิเศษที่ ๑
ซึ่งเป็นหน่วยแม่ของกรมรบพิเศษ ๓ ก็กลับมาเป็นคอเขียว
จากนี้ไป ผบ.ทบ.ก็ไม่จำเป็นต้อง ‘คอแดง’ อีกต่อไปแล้ว ทว่าไม่ทำให้สอง ดาวรุ่ง ทบ. พล.ต.อินทนนท์ รัตนกาฬ ผบ.กองพลรบพิเศษ กับ พล.ต.เสด็จ อาคะจักร เสนาธิการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ยังโดดเด่นในสัญญลักษณ์ ‘คอเขียว’
นอกจากนี้ยังมีหน่วยรบกองทัพภาคได้รับการสถาปนาเป็น
ฉก.คอแดงด้วย ได้แก่ ทัพภาค ๓ กองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๗ ค่ายเม็งราย
จังหวัดเชียงราย และที่ทัพภาค ๒ คือ กรมทหารม้าที่ ๖ ของกองพันทหารม้าที่ ๖
ขอนแก่น กับกองพันทหารม้าที่ ๑๔ กรมทหารม้าที่ ๗ ที่น้ำพอง ขอนแก่นเช่นกัน
การตั้ง ฉก.ภาคเหนือและอีสาน ก็เพื่อไว้รองรับเวลามีเสด็จพระราชดำเนินไปภาคทั้งสอง
จะได้ใช้กำลังทหารรักษาพระองค์ในพื้นที่มาปฏิบัติการ รวมทั้งร่วมในโครงการพระราชดำริ
หรือพระราชกรณียกิจพิเศษในพื้นที่ได้ด้วย
สำหรับหน่วยทหารในพระองค์ที่สถาปนาใหม่ ๔ หน่วย เป็นหน่วยในพระองค์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) หนึ่งหน่วยราบ คือ ร.๑๗ พัน ๓ กับทหารม้าในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถอีกสามหน่วย
ขณะที่กองทัพเรือสถาปนาหน่วย
ฉก.คอแดง ๗ หน่วยจากกรมนักเรียนนายเรือรักษาพระองค์ กองพันที่ ๑ ถึง ๔ ที่เรียกกันว่าเป็น
‘ฉก.เผด็จ’ กับหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ซึ่งมีทั้งกองพลนาวิกโยธิน และกรมทหารราบนาวิกโยธิน
ทัพอากาศ
มีกรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์ (ชุดสีฟ้า ที่เรียกกันว่า ทหารฟ้า รอ.) อยู่ในส่วนของกองพันที่
๑ ถึง ๕ กับ กรมทหารอากาศโยธินรักษาพระองค์ มีหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน
และกองพันอากาศโยธิน กรมอากาศโยธิน
วาสนาบอกว่าต่อนี้ไปผู้บัญชาการทหารสูงสุดและกองทัพทั้งสามจะเปลี่ยนมาเป็น ‘คอเขียว’ หมด แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือความเป๊ะ ความเนี้ยบจากการเป็นทหารคอแดงมา ข้อที่จะยุ่งยากหน่อยจะเป็นเรื่องเครื่องแบบและการแต่งกาย
ไม่ต้องสวมใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาวขลิบแดงข้างใน
อาจใส่สีเขียวหรือสีขาวแทน ทว่าชุดใหญ่หรือทรงเครื่องต้องเปลี่ยนจากชุดขาวหมวกโมรียอดแหลม
มาเป็นชุดขาวหรือชุดสีมีสายสะพายพาดเฉียง
แต่ทหารหน่วยที่ได้รับสถาปนาเป็น
ฉก.พิเศษรักษาพระองค์ใหม่ อาจจะยังได้แต่งชุดใหญ่สักกะหลาดหลากสี สอดรับกับสวมหมวกพู่สีทรงสูง
งดงามเวลาสวนสนามวันที่ ๓ ธันวาคมที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ดีในตอนท้ายมีข้อคิดเห็นเรื่องมีคนห่วงใย
ต่อนี้ไประดับผู้บัญชาการกองทัพไม่ต้องถูกครอบคลุมด้วย ‘คอแดง’ แล้ว
จะเป็นอิสระมากในการคิดทำการปฏิวัติรัฐประหาร วาสนาบอกไม่ต้องกังวลใดๆ เลย
โอกาสเกิดน้อยมากๆ เพราะกำลังหลักที่ใช้ทำการยึดอำนาจปกครองของทัพบก
ยังคงอยู่ในกองทัพภาค ๑ แม่ทัพภาค ๑ ก็ยังเป็นคอแดงอยู่
และท้ายที่สุดของที่สุด ‘คุณวาส’ ประชาสัมพันธ์วันที่ ๓ ธันวา
การสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญานของหน่วยทหารต่างๆ จะมีราชินีสุทิดา และพระเจ้าลูกเธอสิริวัณวลี
เสด็จร่วมการสวนสนามด้วย
ราชินีนั้นจะทรงนำทหารทั้ง ๑๓ กองพันด้วยพระองค์เอง
ในฐานะผู้บังคับกองผสม ส่วนเจ้าฟ้าหญิงฯ จะทรงเป็นผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์