จากการที่ นายประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงเทพมหานคร และสั่งกองกำลังตำรวจและทหารจำนวนมากเข้าสลายการชุมนุมของคณะราษฎร 2563 ที่ประกอบด้วยนักเรียน นักศึกษา และประชาชนจำนวนมาก ในช่วงกลางคืน โดยจับกุมแกนนำและผู้ชุมนุมไปไม่น้อยกว่า 22 คน ทำให้การชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคม 2563ที่ดำเนินไปโดยสงบปราศจากอาวุธต้องยุติลงนั้น
การสลายการชุมนุมดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดหลักปฏิบัติสากล และไม่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการปราบปรามขบวนการประชาธิปไตยก้าวหน้า ซ้ำร้ายกว่านั้น รัฐบาลยังได้ประกาศภาวะฉุกเฉินที่มีข้อห้าม อาทิเช่น ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน จำกัดเสรีภาพสื่อมวลชน และให้อำนาจเจ้าหน้าที่จับกุมโดยไม่ต้องขออำนาจศาล เป็นต้น สมาคมฯ ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวของรัฐบาล
การชุมนุมของคณะราษฎร 2563 มีเป้าหมายสามประการ อันได้แก่ 1. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก 2. เปิดสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ข้อเรียกร้องเหล่านี้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และเป็นทางออกจากวิกฤตการเมืองไทยอย่างสันติที่แท้จริง อีกทั้งมีผู้ชุมนุมเข้าร่วมหลายหมื่นคน จึงสมควรที่รัฐบาลจะต้องรับฟังข้อเสนอเหล่านี้ การสลายการชุมนุมเช่นนี้เท่ากับรัฐบาลปฏิเสธข้อเสนอของประชาชนอย่างไม่มีเยื่อใย และแสดงว่ารัฐบาลต้องการยึดกุมอำนาจการบริหารไว้อย่างถาวร และที่สำคัญ ปฏิบัติการสลายการชุมนุมเกิดภายหลังขบวนเดินทางของภรรยาและลูกของกษัตริย์วชิราลงกรณ์ ที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติ ซึ่งทั้งรัฐบาลและตำรวจได้นำมาใช้เป็นข้ออ้างหลักในการปฏิบัติการสลายการชุมนุม ดังนั้น กษัตริย์วชิราลงกรณ์จะปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการสั่งสลายการชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้
สมาคมฯ ขอเรียกร้องดังต่อไปนี้
ให้ยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินโดยทันที เนื่องจากละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกประการ
ปล่อยผู้ถูกจับกุมทุกคนทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข ทั้งการจับกุมในวันที่ 13 ตุลาคม 2563 จำนวนอย่างน้อย 21 คน และในวันที่ 14ตุลาคม จำนวนอย่างน้อย 22 คน
รัฐบาลประยุทธ์จะต้องยุติการปราบปรามขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยโดยทันที และนำข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมไปพิจารณา
สมาคมฯ ขอยกย่องและให้กำลังใจนักศึกษาและประชาชน ที่ได้ออกมาชุมนุมและยังยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ สมาคมฯ ขอยืนยันว่าจะร่วมสนับสนุนและต่อสู้ไปกับพี่น้องประชาชนต่อไปจนกว่าประชาธิปไตย จะเกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างแท้จริง
15 ตุลาคม 2563