วันศุกร์, ตุลาคม 31, 2568

กกต.ประกาศจัดเลือกตั้งพร้อมประชามติแล้วนะ ปลายมีนา ๖๙ แต่ก็ยังไต่สวนคดีฮั้ว สว. ๑๓๖ คนไม่คืบ ทั้งที่ผ่านมา ๑ ปี ๔ เดือน โดนฟ้องศาลฎีกาให้รวบรัดใน ๗ วัน

กกต.ประกาศแล้ว จัดเลือกตั้งพร้อมประชามติ ปลายมีนา ๖๙ หลังจากที่นรัฐบาลยุบสภา ๓๑ มกรา ต้นปีนั้น ทว่าแผนงานของ กกต.ยังไม่สะเด็ดน้ำทั้งเรื่องเลือกตั้งและประชามติ ประเด็นหนึ่งก็คือ ในเมื่อพ่วงกันอย่างนี้ บัตรออกเสียงจะมีกี่ใบ

เท่าที่ กกต.เตรียมไว้ แต่เลขาฯ แสวง บุญมี ยังตอบไม่ได้แน่นอนว่ามี ๓ หรือ ๔ ใบกันแน่ บัตรสี่ใบได้แก่ บัตรเลือก สส.เขต บัตรเลือก สส.บัญชีรายชื่อ บัตรประชามติเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ๒ คำถาม และบัตรยกเลิกเอ็มโอยูกับเขมร

ถ้าจะมีบัตรออกเสียงเพียง ๓ ใบ นัยว่าจะรวมคำถามแก้รัฐธรรมนูญเข้ากับเรื่องยกเลิกเอ็มโอยู อันนี้มีเสียงท้วง โดยเฉพาะจาก อจ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี นักกฎหมายจุฬาฯ บอกว่า “ทำให้เสี่ยงต่อความผิดพลาด และอาจเกิดการชี้นำ”

คือ “การตอบคำถามหนึ่งอาจทำให้เกิดความโน้มเอียงไปสู่อีกคำถามหนึ่ง” ได้ แม้จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายพิมพ์บัตรอีก ๕๕ ล้านใบ แต่มีทางออกสำหรับคำถามเอ็มโอยู รัฐบาลสามารถตัดสินใจได้เอง ไม่จำเป็นต้องเอาไปถามประชาชนทั้งประเทศ

ยิ่งไปกว่านั้นมีผู้สันทัดกรณีในภาคประชาชนบางคนให้ความเห็นเกี่ยวกับเอ็มโอยู โดยเฉพาะเอ็มโอยู ๔๓ ว่าไม่จำเป็นต้องยกเลิกด้วยซ้ำ รัฐบาลสามารถแก้ไขเอง ผ่านกระบวนการรัฐสภา เพราะเอ็มโอยูเป็นเพียงข้อตกลง ไม่ใช่สนธิสัญญา

“เจ้ากรมแผนที่ทหารให้ข้อมูลว่า การยกเลิกจะทำให้การสำรวจหลักเขตแดนที่ทำมา ๒๐ ปี หายไปหมด” และ “การเจรจาใหม่จะต้องใช้เวลาหลายปี” อาจถูกตีความว่าพยายามบ่ายเบี่ยงพันธกรณี ดังนั้นมีบัตรกรอกแสดงความเห็นสี่ใบน่ะดีแล้ว

อีกเรื่องหนึ่งที่ กกต.ทำตัวเกร็งไปหน่อยเกี่ยวกับบัตรเลือก สส. ๒ ใบ แบ่งเขตกับบัญชีรายชื่อ ที่มีเสียงเรียกร้องให้ใช้เบอร์เดียวกัน แต่ กกต.อ้างกฎหมายเลือกตั้งเป็นอย่างนั้น คือให้พรรคส่งแบ่งเขตก่อน แล้วจึงส่งบัญชีรายชื่อ

ก็เลยต้องออกบัตรสองรอบ ทั้งที่การแก้ไขไม่ยาก โดยแก้รัฐธรรมนูญมาตรา ๙๐ “แม้ยังต้องใช้เสียง สว. ๑ ใน ๓ แต่ไม่ต้องทำประชามติ” ข้อสำคัญ กกต.ไม่ค่อยทำอะไรเท่าไร แล้วอ้างโน่นอ้างนี่ เพื่อที่จะเดินไปเรียบๆ ง่ายๆ ไม่รู้มีเลศนัยหรือเปล่า

ต่อกรณี สว.สำรอง ๑๐ คน ออกมาร้องอีกแล้ว ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ว่า กกต.ใช้เวลานานเกินไปในการพิจารณาคดีฮั้วเลือกตั้ง สว.๑๓๖ คน นี่ไต่สวนมา ๑ ปี ๔ เดือนแล้ว ถูกทวงถามตลอดมา แต่ไม่เคยชี้แจงอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

คราวนี้ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ กกต.สรุปสำนวนภายใน ๗ วัน และขอให้ สว.ที่ต้องคดีฮั้วทั้ง ๑๓๖ คน “หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำสั่ง” อย่างหนึ่งอย่างใด

(https://www.facebook.com/thestandardth/posts/0221Y9cFiev8, https://www.facebook.com/siripan.nogsuansawasdee/posts/31Dn4k7 และ https://www.bbc.com/thai/articles/c201znp39lpo) 

รัฐบาลไทย รู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง ทหารอิสลาเอลที่มีส่วนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตล์ มาอยู่ในประเทศไทย

https://www.facebook.com/reel/1821146682612279

อนันต์ อัศวกิตติกวิน
Yesterday
·
#หรือจะปล่อยให้ปรสิตเหล่านี้กลืนกินประเทศไทยเหมือนที่เกิดขึ้นในกาซ่า
ตื่นๆ #คนสุราษฎร์ต้องตื่น รัฐบาลไทยจะต้องรีบแก้ไข ก่อนจะสายเกินแก้ ถ้าแย่แล้วอาจจะแก้ไม่ทันนะ
#เกาะพะงัน ประเทศไทย — ท่ามกลางผืนป่าอันเขียวชอุ่มของประเทศไทย ได้กลายเป็นสถานที่พักพิงสำหรับ #บรรดาอาชญากรสงครามอิสราเอลที่อ้างว่าได้รับผลกระทบจากสงคราม จริงๆมันฆ่าคนแล้วหนีมาแอบที่นี่มากกว่า
Times of Israel สื่ออิสราเอลบรรยายว่า: “ใต้หลังคาไม้ไผ่ เหล่าผู้รอดชีวิตและทหารที่ปลดประจำการ กลุ่มอาสาสมัครผู้ทุ่มเท และคนอื่นๆ รวมตัวกันรอบโต๊ะส่วนกลางและพื้นที่แสดงศิลปะ บทสนทนาของพวกเขาถูกแทรกด้วยเสียงธรรมชาติอันแผ่วเบา นี่คือ David’s Circle — พื้นที่เยียวยาที่บาดแผลทางจิตใจพบกับความหวังหลังเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 68 ที่ผ่านมา
กว่าหนึ่งปีครึ่งหลังจาก 7 ตุลาคม หนึ่งในนั้นมีดาเนียล ทหารสำรองชาวอิสราเอลที่ปักหลักอยู่ในประเทศไทยพร้อมกับภรรยาและลูกๆ หลังจากรับราชการ (เข้าร่วมก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์) ในกาซ่าเป็นเวลานานหลายครั้ง
“ผมรู้สึกไม่มั่นคงทางอารมณ์และรู้สึกทุกข์ทรมานมาก” เขากล่าวระหว่างการเยือนของเดอะไทมส์ออฟอิสราเอล “ตอนที่ผมมาถึงศูนย์ David’s circle ครั้งแรก ผมจำได้ว่าได้พบกับเซเกฟ [อดีตเจ้าหน้าที่สุขภาพจิตของกองทัพอิสราเอล] การสนทนาครั้งนั้นเป็นเหมือนประกายแห่งความหวังเมื่อดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปไม่ได้”
ด้วยจำนวนชาวอิสราเอลกว่า 300,000 คนที่เดินทางมาประเทศไทยในปีที่ผ่านมาเพียงปีเดียว กำลังเผชิญกับภาวะ PTSD David’s circle จึงเป็นแนวทางที่ก้าวล้ำสำหรับการเยียวยาแบบองค์รวมสำหรับชาวอิสราเอลในต่างประเทศ
ศูนย์เยียวยาในป่าแห่งนี้จึงเสนอทางเลือกที่แตกต่างออกไป ที่นี่ การเยียวยาเกิดขึ้นผ่านการผสมผสานแบบองค์รวมของการสนับสนุนจากเพื่อนฝูง การแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ กิจกรรมทางกาย และการเชื่อมโยงชุมชน แทนที่จะเป็นสภาพแวดล้อมทางคลินิกที่เป็นทางการ” -Times of Israel
#คนไทยเห็นด้วยไหม? ทางการไทยรับรู้ไหม? #เหมือนมีกองกำลังพร้อมยึดแผ่นดินได้ตลอดเวลา
แผ่นดินไทยได้กลายเป็นสถานที่ที่อ้าแขนรับอาชญากรสงครามที่ก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างอบอุ่นไปแล้วจริงๆเหรอ?
https://www.facebook.com/share/v/174Wk5koj7/

https://www.facebook.com/reel/1821146682612279



ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สาธารณรัฐเช็ก ปฏิเสธไม่ให้ทหารกองหนุนชาว #อิสราเอล ซึ่งเคยร่วมรบใน #ฉนวนกาซา และเลบานอน เข้าประเทศ เพราะถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หลายประเทศ ขยะเเขยงอาชญากรฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แล้วไทยละ ยังต้องการนักท่องเที่ยวแบบนี้ ?


Israeli Soldier ‘Humiliated’ In NATO Nation Over ‘War Crimes’ In Gaza; Bibi Regime Fumes

Times of India

Oct 30, 2025 

A diplomatic storm has erupted after the Czech Republic denied entry to an Israeli reservist following a Schengen-wide “criminal alert” issued by France. The soldier, accused of “serious crimes” in Gaza, was detained at Prague Airport and later forced to return to Israel. The alert effectively bans him across all European Schengen nations. The Hind Rajab Foundation had earlier filed war crimes complaints against Israeli troops in Europe, accusing them of genocide and crimes against humanity. The move marks growing international scrutiny of Israeli military actions as similar restrictions surface in Australia, Brazil, and New Zealand. Watch

https://www.youtube.com/watch?v=lUakJpcOn7M
.....


Pipob Udomittipong
16 hours ago
·
28 ต.ค. 2568 ที่สนามบินวาตสลาฟ ฮาเวล กรุงปราก ประเทศเช็ก ตำรวจปฏิเสธไม่ให้ทหารกองหนุนชาว #อิสราเอล ซึ่งเคยร่วมรบใน #ฉนวนกาซา และเลบานอน เข้าประเทศ เขาถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ระหว่างเดินทางมาพร้อมกับภรรยา ทั้งนี้ตามรายงานของ ynet เว็บไซต์ข่าวที่มีผู้อ่านมากสุดในอิสราเอล
ตัวสามีที่เป็นทหารกองหนุนอิสราเอลถูกควบคุมตัวที่สนามบินปรากเป็นเวลาหลายชั่วโมง ก่อนจะได้รับแจ้งว่าทางการฝรั่งเศสได้ออกคำสั่งห้ามเข้าประเทศที่มีผลครอบคลุมเขตเชงเกนทั้งหมด
เจ้าหน้าที่ติดอาวุธ 4 นายได้เข้าไปพบเขาและภรรยาที่ด่านตรวจหนังสือเดินทาง และอ้างว่าเขาถูกดำเนินคดีข้อหาอาชญากรรมร้ายแรง แม้สถานทูตอิสราเอลจะพยายามแทรกแซงช่วยเหลือ แต่ในที่สุด ทั้งคู่ก็ถูกบังคับให้เดินทางกลับอิสราเอล
เจ้าหน้าที่ชาวเช็กได้ชี้แจงในเวลาต่อมาว่า ทางการฝรั่งเศสกล่าวหาว่าทหารคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "อาชญากรรมร้ายแรง" และคำสั่งห้ามเข้าเมืองดังกล่าวจะถูกยกเลิกได้โดยฝรั่งเศสเท่านั้น
ไม่ใช่เรื่องแปลก ในเดือนธ.ค. 2567 ทหารอิสราเอลสองนายไม่สามารถเดินทางเข้าออสเตรเลียได้ หลังจากถูกขอให้กรอกแบบฟอร์มยาว 13 หน้า ซึ่งเป็นข้อกำหนดสำหรับบุคลากรทางทหารที่เกี่ยวข้องกับสงคราม
ในเดือนม.ค. ปีนี้ ทหารอิสราเอลคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามในฉนวนกาซา ได้หลบหนีการสอบสวนออกจากบราซิล ขณะที่นิวซีแลนด์ได้ออกนโยบายตรวจคนเข้าเมืองฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดให้ผู้ยื่นขอวีซ่าที่เป็นชาวอิสราเอล ต้องเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการรับราชการทหาร
ในเดือนเดียวกันนั้น สถานีโทรทัศน์ช่อง 13 ของอิสราเอล รายงานว่า กองทัพอิสราเอลได้ประกาศมาตรการใหม่เพื่อปกปิดตัวตนของทหารทุกระดับชั้น ท่ามกลางการออกหมายจับและการสอบสวนผู้ต้องสงสัยว่าก่ออาชญากรรมสงครามในฉนวนกาซา
ประเทศต่าง ๆ ไม่ต้อนรับทหารอิสราเอลที่เคยมีส่วนร่วมในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่ทหารเหล่านี้กลับได้รับการต้อนรับให้อยู่ที่เกาะพะงันเป็นพันคน ที่อ.ปาย และที่อื่น ๆ ในประเทศไทย ทำไม?
https://www.middleeasteye.net/.../israeli-fought-gaza...

Pipob Udomittipong
เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา อัยการ #เบลเยียม แถลงยืนยันว่า ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุมทหาร #อิสราเอล 2 นาย ในความผิดฐาน "ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง" ใน #ฉนวนกาซา ระหว่างที่ทั้งสองคนเดินทางมาร่วมเทศกาลดนตรี Tomorrowland ใกล้กับเมืองแอนต์เวิร์ปทางตอนเหนือของเบลเยียม ประเทศไหน ๆ ก็ไม่ต้อนรับทหารมือเปื้อนเลือด
https://www.hindrajabfoundation.org/.../breakthrough...



https://www.facebook.com/photo?fbid=10163273642891649&set=a.10150096728651649
...



Thailand Stand with Palestine ไทยเคียงข้างปาเลสไตน์
8 hours ago
·
สาธารณรัฐเช็ก ห้ามทหารอิสราเอล! ที่ร่วมรบในกาซา เดินทางเข้าประเทศ!

ทางการเช็กกล่าวว่า ทหารกองหนุนถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ เนื่องจากได้รับ 'คำเตือนอาชญากรรม' ทั่วเขตเชงเกนจากฝรั่งเศส

สื่ออิสราเอลรายงานว่า รัฐบาลเช็กสั่งห้ามทหารกองหนุนชาวอิสราเอลเดินทางเข้าประเทศ หลังจากทางการฝรั่งเศสออก "คำเตือนอาชญากรรม" ต่อเขา

Ynet รายงานว่า ทหารกองหนุนนิรนามผู้ซึ่งเคยสู้รบในฉนวนกาซาและเลบานอน ถูกควบคุมตัวเป็นเวลา "หลายชั่วโมง" ที่สนามบินวาคลาฟ ฮาเวล ในกรุงปราก ก่อนที่เขาจะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ

เจ้าหน้าที่อธิบายว่าการปฏิเสธดังกล่าวมีสาเหตุมาจากคำเตือนทั่วเขตเชงเก้นที่ฝรั่งเศสออกให้ ซึ่งขัดขวางการเดินทางเข้าประเทศยุโรปทุกประเทศ

รายงานระบุว่า ชายชาวอิสราเอลและภรรยาถูกตำรวจติดอาวุธ 4 นายเข้าพบที่ด่านตรวจหนังสือเดินทาง และแจ้งว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ

เจ้าหน้าที่เช็กอธิบายในเวลาต่อมาว่า เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสกล่าวหาว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับ "อาชญากรรมร้ายแรง" และคำสั่งห้ามดังกล่าวสามารถยกเลิกได้โดยฝรั่งเศสเท่านั้น

“พวกเขาบอกว่าอาจเป็นเพราะกำลังพลสำรองของผม หรือเพราะมีคนขโมยข้อมูลส่วนตัวของผมไปก่ออาชญากรรม” ชายคนดังกล่าวบอกกับ Ynet “ผมไม่เคยไปฝรั่งเศสด้วยซ้ำ”

ทั้งคู่พยายามติดต่อสถานทูตอิสราเอลประจำกรุงปารีส แต่กลับถูกบังคับให้เดินทางกลับอิสราเอล

กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลระบุว่าเหตุผลในการปฏิเสธยังไม่ชัดเจน แต่ไม่ได้เป็นเพราะการรับราชการทหารของชายคนดังกล่าว

ในเดือนธันวาคม 2567 ทหารอิสราเอลสองนายไม่สามารถเดินทางไปออสเตรเลียได้ หลังจากถูกขอให้กรอกแบบฟอร์มยาว 13 หน้า ซึ่งโดยทั่วไปแล้วต้องใช้สำหรับบุคลากรทางทหารที่เกี่ยวข้องกับสงคราม

ในเดือนมกราคม ทหารอิสราเอลคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามได้หลบหนีออกจากบราซิล ท่ามกลางการสอบสวนการกระทำของเขาในฉนวนกาซา ขณะที่นิวซีแลนด์ได้ออกนโยบายตรวจคนเข้าเมืองใหม่ที่กำหนดให้ผู้ยื่นขอวีซ่าอิสราเอลต้องเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการรับราชการทหาร

ในเดือนนั้น สถานีโทรทัศน์ช่อง 13 ของอิสราเอลรายงานว่า กองทัพอิสราเอลได้ประกาศมาตรการใหม่ในการปกปิดตัวตนของทหารทุกระดับชั้น ท่ามกลางหมายจับและการสอบสวนอาชญากรรมสงครามที่ต้องสงสัยในฉนวนกาซา

Source Middle East Eye

https://www.facebook.com/photo/?fbid=122267045324070753&set=a.122103663092070753



เมื่อ 30 ปีก่อน เคยมีการสกัดแร่หายากจากโมนาไซต์ในประเทศไทยที่จังหวัดปทุมธานี และปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวกลายเป็น “เขตสังเวยกากกัมมันตรังสี“ หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554...จนถึงปัจจุบัน ยังมีกากของเสียกัมมันตรังสีจำนวนมากบรรจุอยู่ในถังภายในพื้นที่ศูนย์

https://www.facebook.com/taragraphies/posts/pfbid025x1GSEdB4g8wNidUf5Jwcu6FSCuwWAsE5MBER3W4DtMaBUHpGen5PNKyUX71RR8Zl

Tara Buakamsri 
Yesterday
·
เขตสังเวยกากกัมมันตรังสีจากการสกัดแร่หายาก ยูเรเนียมและทอเรียมจากทรายโมนาไซต์ในประเทศไทย
***MoU ระหว่างสหรัฐอเมริกา-ไทยที่ลงนามกันไปเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ได้สร้างปรากฎการณ์ “ตื่นแร่ critical minerals/rare earth” และคำว่า ”แร์เอิร์ธ“ ได้กลายเป็น viral ไปทั่วทุกบทสนทนาในขณะนี้
***แต่น้อยคนรู้ว่า เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เคยมีการสกัดแร่หายากจากโมนาไซต์ในประเทศไทยที่จังหวัดปทุมธานี และปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวกลายเป็น “เขตสังเวยกากกัมมันตรังสี“ จากกระบวนการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554
***ศูนย์วิจัยและพัฒนาแร่หายาก (RE R&D Center) ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ศูนย์แห่งนี้เคยดำเนินการโดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (OAP) ระหว่างปี พ.ศ. 2538 – 2548 เพื่อดำเนินการสกัดธาตุแร่หายากจากทรายโมนาไซต์รวมถึงกิจกรรมการสกัดยูเรเนียม (U) และทอเรียม (Th) ต่อมาในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 หลังจากการปรับโครงสร้างองค์กร ศูนย์ดังกล่าวได้ถูกโอนย้ายมาสังกัดสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (TINT)
***อย่างไรก็ตาม กระบวนการแปรรูปแร่หายากและโมนาไซต์ รวมถึงโรงสกัดยูเรเนียมและทอเรียมหยุดดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 ประเทศไทยประสบภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ โรงงานนำร่องและบริเวณโดยรอบถูกน้ำท่วม ส่งผลให้เกิดการปนเปื้อนของวัสดุกัมมันตรังสีธรรมชาติ (Naturally Occurring Radioactive Material – NORM)
วัสดุกัมมันตรังสีธรรมชาติ (Naturally Occurring Radioactive Material – NORM) คืออะไร?
***NORM ย่อมาจาก “Naturally Occurring Radioactive Material” หรือ “วัสดุกัมมันตรังสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ” กล่าวคือ เป็นสารที่มีไอโซโทปกัมมันตรังสี (radionuclides) อยู่โดยธรรมชาติ
***ของเสียประเภท NORM มักเกิดจากกระบวนการอุตสาหกรรม การทำเหมือง หรือการผลิตที่มีการใช้วัสดุซึ่งมี NORM อยู่แล้ว
***ในกรณีนี้ ของเสีย NORM เกิดจากกระบวนการแปรรูปโมนาไซต์ (monazite processing) และการสกัดยูเรเนียม–ทอเรียม (U-Th extraction) ในโครงการนำร่องของศูนย์วิจัยและพัฒนาแร่หายาก (Rare-Earth Research and Development Center) สังกัดสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (TINT) ประเทศไทย
***ในประเทศไทย แร่โมนาไซต์ (Ce, La, Nd, Y, Th) พบในแหล่งทรายแร่หนัก (heavy-mineral sand deposits) และแหล่งสายแร่ในแร่ดีบุกเกรดต่ำทางภาคใต้ของประเทศโดยมีปริมาณแร่ธาตุหายากรวมประมาณ 60.20 % REO
***แร่หายากเข้มข้น (rare earth concentrates) จะถูกนำไปผ่านกระบวนการทางเคมีเพื่อสกัดสารประกอบแร่หายากชนิดผสมออกมา ในกรณีทั่วไป การแปรรูปทางเคมีของแร่จากหินแข็งเริ่มจากการเผา (calcining) เพื่อขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และทำให้ซีเรียม (cerium) ถูกออกซิไดซ์ไปอยู่ในสถานะวาเลนซ์ จากนั้นจะผ่านขั้นตอนต่าง ๆ เช่น การบด การชะด้วยด่าง (caustic leach) แล้วตามด้วยการชะด้วยกรดไฮโดรคลอริก (hydrochloric acid) เพื่อทำให้แร่หายากชนิดที่ไม่ใช่ซีเรียมละลายออกไปได้เป็น สารเข้มข้นซีเรียม(cerium concentrate) ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าต่ำได้โดยตรง หรือแยกต่อให้ได้ธาตุหายากบริสุทธิ์แต่ละชนิด
ศูนย์วิจัยและพัฒนาแร่หายาก
***พื้นที่ศูนย์ประกอบด้วยอาคารประมาณ 18 หลัง สำหรับการดำเนินกิจกรรมต่างๆ อาคารหมายเลข 8 (B8) เป็นอาคารหลักสำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับรังสีประกอบด้วยโรงแปรรูปโมนาไซต์และโรงสกัดยูเรเนียม–ทอเรียม อาคารหมายเลข 9 (B9) เป็นโรงแปรรูปแร่หายากสำหรับสกัดธาตุแร่หายาก อาคารหมายเลข 14(B14) เป็นสถานที่เก็บกักยูเรเนียมและทอเรียมในรูป “เค้ก” (uranium/thorium cake) อาคารหมายเลข 18(B18) ใช้เก็บทรายโมนาไซต์ซึ่งมีปริมาณจำนวนมาก
***จนถึงช่วงที่มีการทำการศึกษาโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยทางรังสี เพื่อรองรับการจัดการของเสียที่เกิดจากกระบวนการแปรรูปแร่ ซึ่งมีวัสดุกัมมันตรังสีธรรมชาติหรือ NORM (Naturally Occurring Radioactive Material) รวมถึงการ ติดตามตรวจสอบการปนเปื้อน (Contamination Monitoring) ในพื้นที่ที่เคยใช้ดำเนินการสกัดและแปรรูปแร่หายากในปี พ.ศ.2559 หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี พ.ศ.2554 อาคารเหล่านี้ยังคงมีเครื่องมือและวัสดุเดิมอยู่ แต่มาตรการความปลอดภัยยังไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ของเสียยังไม่ได้ถูกจำแนกประเภทอย่างเป็นทางการ โดยภายในอาคารมีการปะปนกันของเครื่องมือ สารเคมี ตะกอน NORM และของเสียอื่นๆ รวมถึงมูลนกที่สะสมอยู่เป็นจำนวนมาก
***การศึกษาครั้งนี้ยังได้ทำการเก็บข้อมูล ความเข้มข้นของเรดอน (Radon Activity Concentration) ภายในอาคารแต่ละหลัง
ข้อค้นพบหลักจากการศึกษาโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยทางรังสีเพื่อรองรับการจัดการของเสียที่เกิดจากกระบวนการแปรรูปแร่ซึ่งมีวัสดุกัมมันตรังสีธรรมชาติหรือ NORM (Naturally Occurring Radioactive Material) รวมถึงการติดตามตรวจสอบการปนเปื้อน (Contamination Monitoring)
***ผลการตรวจวัดที่ผนังของอาคารหมายเลข 18 พบว่า ค่าอัตราปริมาณรังสีสูงสุด (maximum dose rate) บริเวณผนังอยู่ที่ 62.2 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง (µSv/hr) ค่าเฉลี่ยของอัตราปริมาณรังสีรอบผนังอยู่ระหว่าง 30–60 µSv/hr ซึ่งสูงกว่า ระดับพื้นหลัง (1 µSv/hr) ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาแร่หายาก (RE R&D Center) ถึง ประมาณ 30–60 เท่า (อาคารหมายเลข 18 เต็มไปด้วยทรายโมนาไซต์ (monazite sand) ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดกัมมันตรังสีสูง) เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสี (Radiation Safety Officer) ไม่อนุญาตให้ทีมสำรวจศึกษาเข้าไปภายในอาคารเนื่องจากมีความเสี่ยงจากก๊าซเรดอน (radon gas) ที่อาจสะสมอยู่ในพื้นที่ซึ่งถูกปิดไว้นานเป็นเวลาหลายปี
***ผลการตรวจวัดอัตราปริมาณรังสีภายใน อาคารหมายเลข 9 ซึ่งเคยใช้เป็นโรงงานแปรรูปแร่หายาก พบว่าค่าอัตราปริมาณรังสี (dose rate) โดยรวมอยู่ในระดับพื้นหลังปกติ (background level) ประมาณ 1 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง (µSv/hr) ไม่พบการปนเปื้อนของรังสี (no contamination) ภายในพื้นที่ดังกล่าว
***อาคารหมายเลข 8 ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนการสกัดยูเรเนียมและทอเรียม (Uranium and Thorium Processing Section) ส่วนการแปรรูปโมนาไซต์ (Monazite Processing Section) ได้ใช้วิธีการแบ่งตาราง (Grid Method) เพื่อประเมินค่าอัตราปริมาณรังสี (dose rate) และระดับการปนเปื้อน (contamination level) รวมถึงปริมาตรวัสดุ(ในถังขนาด 80 ลิตร) ผลการสำรวจพบว่าใน อาคารหมายเลข 8 มีพื้นที่กว้างที่เกิดการปนเปื้อนของรังสีในระดับสูงโดยเฉพาะในส่วนการสกัดยูเรเนียมและทอเรียม ซึ่งเป็นจุดที่ให้ค่ารังสีสูงที่สุดในอาคาร นอกจากนี้ ยังพบว่าภายในส่วนสกัดยูเรเนียมและทอเรียม (U/Th processing section) มีภาชนะบรรจุของเสียประมาณ 185 ถัง ซึ่งภายในประกอบด้วยตะกอน NORM และตัวทำละลายเคมี (chemical solvents) ที่ต้องได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมเพื่อความปลอดภัยทางรังสี
***ในการติดตามตรวจสอบตัวอย่างสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ (Monitoring Environmental Sample Onsite) ทีมสำรวจศึกษาได้วิเคราะห์ค่ากัมมันตภาพรังสีรวมของรังสีแอลฟาและเบตา (Gross Alpha – Gross Beta) ในน้ำที่เก็บจากบ่อต่าง ๆ ภายในพื้นที่ จากผลการวิเคราะห์ พบว่าค่ารังสีแอลฟารวมของตัวอย่างน้ำทั้งหมด ต่ำกว่าค่าขีดจำกัดการตรวจวัด (DL) ส่วนค่ารังสีเบตารวมมีค่าระหว่าง 0.426 – 0.922 Bq/L ซึ่ง สูงกว่าค่าพื้นฐานของน้ำผิวดินก่อนเริ่มดำเนินการในปี 1991 (0.274 Bq/L) ผลการวิเคราะห์ยังแสดงให้เห็นว่าค่าความเข้มข้นของ Ra-226, Th-232 และ K-40 ในน้ำจากบ่อต่าง ๆ มีค่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับค่าพื้นฐานในปี พ.ศ.2534 ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการสะสมของวัสดุกัมมันตรังสีธรรมชาติ (NORM) จากกิจกรรมในพื้นที่
***ผลการวิเคราะห์ยังพบว่า ของเสียเหลวส่วนใหญ่มีค่ากัมมันตภาพรังสีของ Ra-226, Th-232 และ K-40 อยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจเกิดจากสารละลายที่ปนเปื้อนจากกระบวนการแปรรูปแร่โมนาไซต์ ความแตกต่างขององค์ประกอบของธาตุเหล่านี้ในของเสียแต่ละตัวอย่างขึ้นอยู่กับ ลักษณะของกระบวนการสกัดยูเรเนียม–ทอเรียมจากทรายโมนาไซต์
***จนถึงปัจจุบัน(พ.ศ.2568) จากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คาดว่ายังมีกากของเสียกัมมันตรังสีจำนวนมากบรรจุอยู่ในถังภายในพื้นที่ศูนย์ นำไปสู่คำถามเรื่องการให้ความสำคัญต่อการจัดการและโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยทางรังสีสำหรับการจัดการของเสียเหล่านี้ ของเสียกัมมันตรังสีทั้งแบบของแข็งและของเหลวยังคงรอการจัดการอย่างถูกต้องตามหลักมาตรฐาน



คลิป กมธ.ทหาร เชิญ กัน จอมพลัง กองทัพ ถกบทบาทในพื้นที่ขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา 30ต.ค.68


กมธ.ทหาร เชิญ กัน จอมพลัง กองทัพ ถกบทบาทในพื้นที่ขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา 30ต.ค.68

Friends Talk

Streamed 11 hours ago 
#พรรคประชาชน #วิโรจน์ #กันจอมพลัง

สดจากห้อง N402 สภาผู้แทนราษฎร

https://www.youtube.com/watch?v=h-V1Hk_-4h0



“กมธ.ทหาร” เรียกแจงปมชายแดน ไทย-กัมพูชา “กัน จอมพลัง” วิดีโอคอลโชว์หลักฐาน 250 แผ่น ขออนุเคราะห์เสื้อเกราะ ด้านกองทัพ โต้ไม่เคยขาดแคลนยุทธภัณฑ์-ไม่เคยร้องขอจาก “กัน จอมพลัง” โซเชียลแห่ถามหา หนังสือขอความอนุเคราะห์จากกองทัพ จะโชว์กี่โมง



“กัน จอมพลัง” วิดีโอคอลโชว์หลักฐานขออนุเคราะห์เสื้อเกราะ-กองทัพ โต้ ไม่เคยขาดแคลน

30 ต.ค. 2568
ไทยรัฐออนไลน์

“กมธ.ทหาร” เรียกแจงปมชายแดน ไทย-กัมพูชา “กัน จอมพลัง” วิดีโอคอลโชว์หลักฐาน 250 แผ่น ขออนุเคราะห์เสื้อเกราะ ด้านกองทัพ โต้ไม่เคยขาดแคลนยุทธภัณฑ์-ไม่เคยร้องขอจาก “กัน จอมพลัง”

วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายเอกราช อุดมอำนวย เป็นประธานคณะกรรมาธิการการทหาร และนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ เป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการการทหาร ได้เชิญนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เข้าร่วมประชุม

โดยนายกัน จอมพลังได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการทหารผ่านวิดีโอคอล พร้อมเปิดหนังสือขอความอนุเคราะห์จากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นหนังสือขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานหนึ่ง ถึงมูลนิธิกัน จอมพลัง ถึงการขอรับอนุเคราะห์แผ่นเกราะแข็งป้องกันกระสุน ระดับ 4 จำนวน 250 แผ่น ผ่าน บ.แห่งหนึ่ง ซึ่งมีมูลนิธิกัน จอมพลัง ช่วยสู้ จ่ายเงินเข้าบริษัท บริษัทส่งต่อไปยังหน่วยงาน



ซึ่ง นายกัน จอมพลัง ได้อ่านเอกสารให้ทาง กมธ. ฟัง แต่ในส่วนชื่อหน่วยงานทั้งทหาร ตำรวจ หรือ ชื่อผู้บังคับบัญชา ได้ขออนุญาตถามเขาก่อน เพราะถ้าหากพูดออกไปแล้วมีผลกระทบกับเขาในหน้าที่การงานในอนาคต

จากนั้นทิ้งท้ายว่า ยินดีให้ความร่วมมือในการส่งเอกสารหนังสือขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานราชการมายังมูลนิธิฯ แต่เมื่อคณะกรรมาธิการถามว่ามีทั้งหมดกี่ฉบับ นายกัน จอมพลัง บอกว่าหลังได้รับหนังสือ ยังไม่มีเวลาเพียงพอในการรวบรวม จะขอรวบรวมอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเวลาที่ประสานมากระชั้นชิด



ด้าน น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ได้มีการขอให้นายกัน จอมพลัง ติดต่อกับฝ่ายเลขาสภาฯ เพื่อส่งหนังสือทุกฉบับที่มีอยู่ และในระหว่างที่มีการเปิดภาพเอกสารจากโทรศัพท์มือถือ ขอให้กล่าวถึงหน่วยงาน และหัวข้อหลักว่ามีอะไรบ้าง

จากนั้น นายเอกราช อุดมอำนวย ประธานกรรมาธิการการทหาร ได้มีการสอบถาม นายกัน จอมพลัง ว่า “คุณกันทราบหรือไม่ว่า เสื้อเกราะเป็นยุทธภัณฑ์ ไม่สามารถครอบครองได้” นายกัน จอมพลัง กล่าวว่า “ในส่วนของชุดเกราะ ผมไม่ได้เป็นคนซื้อ เอกสารนี้ คนที่ดำเนินการเอกสารก็คือหน่วยงานกับบริษัท ซึ่งขอความอนุเคราะห์ ทางมูลนิธิจ่ายเงินให้กับบริษัทเท่านั้นเอง แต่ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการ เอกสารในการซื้อต่าง ๆ” นายเอกราช ถามต่อว่า “คุณกันจึงจ่ายเงินเข้าบริษัทอย่างเดียวใช่หรือไม่” ด้าน กัน จอมพลัง ตอบว่า “ถูกต้องครับ”

ขณะที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ เลขานุการคณะกรรมาธิการ ถามว่า “ตัวเกราะแข็งป้องกันกระสุนระดับ 4 หมายถึงข้างในใช่หรือไม่ แล้วไปส่งมอบให้กับหน่วยงานอย่างไร” ด้านนายกัน จอมพลัง กล่าวว่า “ทางร้านจะเป็นผู้ดำเนินการในการไปส่งมอบ ส่วนผมร่วมถ่ายรูป ถ่ายในเฟรม แต่ทางร้านก็จะเป็นผู้ขนส่งไปให้กับทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่”



จากนั้นนายชยพล สท้อนดี รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง สอบถามในประเด็นแรกว่า ใช่ลอตเดียวกันกับที่ นายกัน จอมพลัง ไปถ่ายรูปว่ามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ที่มีสกรีนคำว่า นายกัน จอมพลัง ช่วยสู้ ด้วยหรือไม่ และประเด็นที่สองคือ ในเอกสารมีการระบุบริษัทด้วยใช่หรือไม่ว่าให้ไปซื้อกับบริษัทดังกล่าว นายกัน จอมพลัง กล่าวว่า “ถูกต้องครับ ในเอกสารมีการเขียนชื่อบริษัทด้วย และของการสกรีนคือทางบริษัทเขาสกรีนให้”

จากนั้นนายกัน จอมพลัง ได้มีการอ่านหนังสือฉบับถัดไป ระบุว่า “ด่วนที่สุด ขอรับการสนับสนุนแผ่นเกราะแข็งป้องกันกระสุนระดับ 4 เนื่องด้วยปัจจุบัน การปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ระหว่างการรบปะทะตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งหน่วยมีกำลังพลปฏิบัติหน้าที่ควบคุมทางยุทธการในจังหวัด จึงมีความจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมของกำลังพลและอุปกรณ์ให้พร้อมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดในการปกป้องอธิปไตย และประชาชนในพื้นที่ชายแดน จึงขอสนับสนุนแผ่นเกราะแข็งป้องกันกระสุนระดับ 4 จำนวน 120 แผ่น จากมูลนิธิกัน จอมพลัง ช่วยสู้ ผ่านบริษัท … จำกัด ซึ่งบริษัทเขาไปทำเรื่องกับหน่วยเอง”



ด้านนายจิรัฏฐ์ สอบถามต่อว่า ที่คุณกัน จอมพลัง จ่ายเงินไปนั้นได้ทราบหรือไม่ว่า จ่ายเงินไปซื้ออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร ลักษณะของเกราะเป็นอย่างไร ได้เห็นบ้างหรือไม่

นายกัน จอมพลัง กล่าวว่า “ทางมูลนิธิเขาน่าจะต้องคุยกับทางหน่วยงาน ซึ่งมีความต้องการแบบไหน ผมเชื่อว่าเขาน่าจะต้องทราบว่าของเป็นของแบบไหน ราคาเทียบกันเป็นอย่างไร ผมว่าต้องเห็นอยู่แล้ว”

กองทัพ ย้ำ ไม่เคยขาดแคลนยุทธภัณฑ์-ไม่เคยร้องขอจาก “กัน จอมพลัง”

ต่อมา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกชี้แจงผ่านวิดีโอคอลว่า ทางกองทัพสามารถรับของในเขตจำนวนได้แต่ไม่รับเงิน ซึ่งทางกองทัพไม่เคยห้ามบริจาค เมื่อเกิดวิกฤต ขณะเดียวกันในระดับหน่วยยอมรับว่าทราบว่ามีการขอสนับสนุนยาง แต่กองทัพยืนยันไม่ขาดแคลน แต่ไม่ปฏิเสธน้ำใจเช่นกัน

ด้านตัวแทน กองกำลังบูรพา กล่าวผ่านวิดีโอคอล เช่นกันว่า ยืนยันไม่เคยขอหนังสือสนับสนุนไปทางมูลนิธิกัน จอมพลัง










https://www.thairath.co.th/news/politic/2892450
.....


Thairath - ไทยรัฐออนไลน์
2 hours ago
·
ยังไม่จบ! โซเชียลแห่ถามหา หนังสือขอความอนุเคราะห์จากกองทัพ หลัง #กันจอมพลัง อ้างว่าได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจริง แต่มีเพียงหนังสือ “ขอบคุณความอนุเคราะห์” ที่กองทัพมอบให้บุคคลภายนอก มาโชว์ให้ กมธ.การทหาร

https://www.facebook.com/photo?fbid=1325516329614707&set=a.360119619487721




อ.ปิ่นแก้ว แนะรัฐบาลไทย-อาเซียนร่วมกดดันพม่า-กัมพูชา ยกเลิกให้ทุนจีนเช่าที่ดินทำสแกมเซ็นเตอร์ อ.ปิ่นแก้วกล่าวว่า มาตรการ 3 ตัด (ตัดไฟ ตัดอินเตอร์เนต ตัดการขนส่งน้ำมัน) ยังไม่พอ การตัดไฟ ทำให้เขาไม่สะดวกในการทำงานแต่ไม่ได้ทำให้เขาทำงานไม่ได้


สำนักข่าวชายขอบ
11 hours ago
·
“ศ.ปิ่นแก้ว”แนะรัฐบาลไทย-อาเซียนร่วมกดดันพม่า-กัมพูชายกเลิกให้ทุนจีนเช่าที่ดินทำสแกมเซ็นเตอร์พร้อมขึ้นบัญชีดำแกนหลักประกาศเป็นอาชญากร-ชี้เหตุระเบิดตึกเคเคปาร์คเพราะต้องการผลักภาระค่าเลี้ยงดูให้ไทยหลังมีบทเรียนครั้งก่อน
-------------
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ศ.ดร.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวชายขอบ”ถึงการปราบปรามเครือข่ายขบวนการสแกมเมอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งล่าสุดไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุมร่วมกับจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขณะเดียวกันนายอนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรียังได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดต่างๆเข้ามาดูแลในแต่ละด้านเพื่อปราบปรามสแกเมอร์ว่า ตนไม่รู้รายละเอียดกรรมการที่ตั้งขึ้นมีแผนจะทำอะไรบ้าง
“ไทยจะผลักดันเรื่องนี้ว่าเป็นปัญหาสแกมเมอร์ในระดับอาเซียน มีการลงนามต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ มันมีแต่กิจกรรม แต่ไม่มีแผนการจัดการปัญหานี้ครบวงจรเพื่อปราบปรามให้หมด ปัญหานี้ประกอบกันหลายส่วน สิ่งที่ตำรวจทำมีภาพ 2 ด้าน คือจับกุมในระดับปลายแถว พวกบัญชีม้า ก็น่าสนใจที่มีข่าวออกมาควบคู่ไปกับการที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ด้วย แต่เราก็ทราบกันดีว่าอาชญากรรมแก๊งสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอย่างน้อย 4 ส่วน ตั้งแต่การดึงเอาคนเข้ามาทำงานในระบบ การใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล กระบวนการส่งผ่านเงินและฟอกเงินเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า เท่าที่ออกสื่อ ขณะนี้ตำรวจโฟกัสแค่เรื่องบัญชีม้า ส่วนอื่นๆเราไม่เห็นข่าวว่าจัดการอย่างไรบ้าง” ศ.ดร.ปิ่นแก้ว กล่าว
อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มช. ยังกล่าวถึงการปฏิบัติการระเบิดอาคารในเคเคปาร์คซึ่งเป็นแหล่งคอลเซ็นเตอร์ใหญ่ริมแม่น้ำเมย เมืองเมียงดี ประเทศพม่า ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ว่าสะท้อนให้เห็นถึงอำนาจเต็มของรัฐบาลทหารพม่า หลังจากที่เคยบอกว่าพื้นที่นี้อยู่ในความควบคุมของกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์และเข้าไม่ถึง รัฐไทยจะมองว่านี่คือปัญหาของประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่เกี่ยวกับเรา ก็ไม่ได้ เพราะมันเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเหล่าสแกมเมอร์และเหยื่อไม่ผ่านทางไทย
“รัฐบาลทหารพม่าเคยอ้างว่าตัวเองไม่มีอำนาจควบคุมชายแดน เพราะเป็นพื้นที่ของกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ แต่การระเบิดหลายครั้งติดๆกันในเคเคปาร์ค สะท้อนว่าเขาโกหก เพราะจริงๆแล้วรัฐบาลทหารพม่ามีอำนาจเต็มในพื้นที่ตรงนี้ ฉะนั้นถ้าทหารพม่าจะจัดการเหล่าสแกมเมอร์ ก็จัดการได้ ดิฉันก็รู้สึกแปลกใจทำไมระเบิดแค่บางตึกในเคเคปาร์ค ทั้งๆมีอาคารมากมายและเคเคปาร์คมีรายได้นับหมื่นล้าน เขาจะสร้างตึกใหม่เมื่อไหร่ก็ทำได้ ตลอดแนวริมแม่น้ำเมย เราทราบกันดีว่ามีพื้นที่สแกมเมอร์เกิดขึ้นใหม่เต็มไปหมด การระเบิดตึกโชว์ก็ไม่ช่วยเพราะฐานสแกมเมอร์ยังอยู่”
ศ.ปิ่นแก้วมองว่า ปฏิบัติการระเบิดอาคารในเคเคปาร์คนั้น เนื่องจากกองกำลังติดอาวุธที่ให้ความคุ้มครองแหล่งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้เคยมีบทเรียนจากครั้งก่อนที่กดดันให้เขาส่งเหยื่อและเหล่าสแกมเมอร์ออกมา แต่ปรากฏว่าเขาต้องรอและจ่ายค่าอาหารเองซึ่งต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ดังนั้นครั้งนี้เมื่อถูกดดันเขาจึงใช้วิธีระเบิดตึกเพื่อให้คนหนีตายออกไปกันเอง ทำให้ภาระการช่วยเหลือคนที่หลบหนีข้ามแดนตกเป็นของรัฐบาลไทย
“เป็นวิธีที่เขาไม่ต้องมาแบกรับค่าอาหาร โยนให้ไทยจัดการ นี่คือเหตุผลเดียวในการระเบิดตึกเคเคปาร์ค แค่ทำให้เห็นว่าเขาทำจริง แม้ในทางมนุษยธรรมรัฐบาลไทยต้องช่วยเหลือคนเหล่านี้ แต่จริงๆแล้วก็ต้องทำควบคู่กันกับรัฐบาลทหารพม่า ร่วมกันคัดกรองว่าคนเหล่านี้เป็นเหยื่อหรือเป็นผู้ต้องหา และเอาข้อมูลแชร์กันทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในอนาคตเพื่อไม่ให้คนพวกนี้กลับเข้ามาอีก แต่ดูเหมือนตอนนี้ไทยตกเป็นเหยื่อไปเรียบร้อยแล้ว”
ศ.ดร.ปิ่นแก้วกล่าวว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาของไทยต้องกดดันร่วมกับนานาชาติเพื่อให้รัฐบาลทหารพม่ายกเลิกสัญญาเช่าที่ดินที่เหล่าอาชญากรข้ามชาติใช้ รวมทั้งรัฐบาลกัมพูชา พร้อมทั้งประกาศให้นายทุนจีนที่หากินด้วยวิธีการผิดกฏหมายเหล่านี้เป็นอาชญากร
“ถ้าทำตรงนี้ไม่ได้ ก็อย่างที่เราเห็น ต้องไปวิ่งตามจับบัญชีม้าปลายแถว ทวงเงินคืนได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เราต้องจับอีกเท่าไรถึงจะพอ เราไปทุ่มทำงานปลายแถว ตำรวจคงไม่สามารถจัดการอะไรได้ ถ้าไม่มีนโยบาย ดังนั้นระดับนโยบายก็ต้องชัดว่าจะทำไม่ให้กลุ่มที่เป็นอาชญากรเข้าประเทศเราได้อย่างไร จนถึงขณะนี้ไทยยังไม่กล้าประกาศว่า หม่องชิดตู ผู้นำBGF เป็นอาชญากรเลย เขามีธุรกิจข้ามแดนที่มาใช้ธุรกรรมในไทย ถ้าไทยไม่กล้าประกาศให้คนเหล่านี้เป็นอาชญากร มันก็ไม่มีประโยชน์ ไทยไม่เคยมีความพยายามที่จะขุดรากถอนโคนธุรกิจเทาที่มาทำงานในประเทศ ไม่เคยจับระดับบิ๊กบอสได้ทั้งๆที่ทางการไทยรู้อยู่แล้ว” ศ.ดร.ปิ่นแก้ว กล่าว
ศ.ปิ่นแก้วกล่าวว่า ที่อยากจะชี้ให้เห็นคือไม่ใช่ตึกแต่คือสัญญาเช่าพื้นที่ ชเวก๊กโกสัญญาอายุ 70ปี แถมยังต่อได้ถึง 99 ปี ถ้าไม่มีการยกเลิกนายทุนกลุ่มเดิมกลับมาใหม่อยู่แล้วเพราะเขามีสิทธิในการพัฒนาพื้นที่ เนื่องจากมีสัญญาที่อ้างว่ารัฐบาลทหารพม่าเซ็นไว้ ส่วนเคเคปาร์ค วันก่อนKNU(Karen National Union-สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง)ออกมาแถลงปฏิเสธว่าพื้นที่ของเขาประมาณ 500 เอเคอร์ไม่เกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การพูดแบบลอยตัวพ้นปัญหาแบบนี้มันเอาตัวรอด จริงๆแล้ว KNU ต้องระบุให้ชัดว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นของใคร ใครทำสัญญาเช่าแล้ว 100 เอเคอร์ ที่ KNUให้เช่านั้นเป็นของใคร ทำอะไร เราทราบว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนตรงนี้ แม้คนที่รับผิดชอบอยู่คือติ่นวิน(แกนนำกองกำลังกะเหรี่ยง BGF หรือ Karen Border Guard Force) แต่สัญญาเช่าเป็นของ KNU ดังนั้น KNUหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบตรงนี้ไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่คนจีนจะมาอยู่เฉยๆโดยไม่มีสัญญาเช่า
อาจารย์ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มช. ย้ำว่าว่า ข้อเสนอหลักๆเมื่อไทยเป็นตัวตั้งตัวตีจะยกระดับเรื่องนี้เป็นวาระอาเซียน ไทยต้องเป็นผู้นำในการกดดันเรื่องนี้ให้รัฐบาลทหารพม่ายกเลิกสัญญาเช่าตลอดแนวชายแดนให้กับกลุ่มทุนจีน และมีแผนชัดเจนจะทำอย่างไรในการกวาดล้างหรือให้คนเหล่านี้เป็นอาชญากร
“คนที่หนีจากเคเคปาร์คข้ามมาฝั่งไทยมีตัวเลขต่ำมาก ไม่ถึง 2,000 คน ทั้งๆที่คนที่อยู่ในเคเคปาร์คมีนับหมื่นๆคน มันเป็นอาณาจักรที่ใหญ่มาก มีนิคมข้างในประมาณ 80 นิคม แต่ละนิคมมีเจ้าของเป็นนักลงทุนจีนไม่ต่ำกว่า 80 คน ไม่รวมหัวหน้าใหญ่ที่เป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมด ตราบใดที่รัฐบาลทหารยังไม่ประกาศให้คนเหล่านี้เป็นอาชญากร ไม่ยกเลิกสัญญาเช่า มันไม่ช่วยอะไร ไทยต้องกดดันอาเซียน ให้คนพวกนี้ไม่มีที่ยืน ไม่ให้ไปทำอะไรที่ไหนได้ ” ศ.ดร.ปิ่นแก้ว กล่าว
อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มช. กล่าวด้วยว่าอยากให้ดูเกาหลีใต้โมเดล ปัญหาคือคนพวกนี้ผ่านไทยทั้งนั้น ขณะที่เกาหลีใต้ซึ่งอยู่ไกลเขาสามารถมีมาตรการไม่ให้คนของเขาเข้าไปกัมพูชาได้
“ที่ผ่านมาเราจะได้ยินว่าเวลาที่เราจะเข้าเกาหลีใต้ คนไทยหลายๆคนที่เป็นนักท่องเที่ยวก็โดนปฏิเสธเข้าประเทศเขา หรือถามอะไรมากมาย เพราะเขาต้องการแก้ปัญหาคนเข้าเมืองแล้วลักลอบไปทำงาน ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ แต่มันเป็นมาตรการที่เขาใช้ป้องกันไม่ให้คนเดินทางเข้าออกโดยสะดวก กรณีของไทยคือเราคัดกรองคนพวกนี้ 29 สัญชาติเป็นทั้งเหยื่อและผู้ต้องหา จีนเป็นพลเมืองหลัก คนเหล่านี้ผ่านไทยทั้งนั้น คำถามคือคนจากอูกันดาไปแม่สอดได้อย่างไร มันมีอะไรที่แม่สอดเขาถึงต้องการจะไป ถ้าไม่ใช่เพราะกระบวนการสกัดกั้นของไทยหละหลวม ก็มีเหตุผลเดียวคือเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจ ขณะที่คนจีนข้ามกลับไป-มาฝั่งไทย-พม่าได้อย่างไรในเมื่อมีระเบียบออกมาให้มีแค่ไทยกับพม่าเท่านั้นที่ข้ามได้ ไม่ต้องพูดถึงนายทุนจีน ทราบมาว่ามีการจ่ายต่อหัวเป็นหมื่นเพื่อนำคนจีนข้ามไปมา”ศ.ปิ่นแก้ว กล่าว
เมื่อถามว่าเป็นเพราะโครงสร้างของคนมีอำนาจระดับบนของไทยมีส่วนรับผลประโยชน์จากขบวนการสแกมเมอร์หรือไม่ จึงไม่สามารถทำลายวงจรอุบาทว์ได้ ศ.ดร.ปิ่นแก้ว กล่าวว่า รัฐบาลมีการตั้งคณะกรรมการแต่ไม่มีแผน และไม่เคยประกาศว่าใครเป็นอาชญากร
“ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ขออนุญาตพูดตรงไปตรงมาว่า ดิฉันไม่มีความหวังในการนำไปสู่การแก้ปัญหานี้ เขาเป็นรัฐบาลชั่วคราว แม้ว่าจะเป็นสถานการณ์บังเอิญในการถูกกดดันจากสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ เราจึงเห็นการพยายามตั้งกลไกขึ้นมาในนามคณะกรรมการ แต่ข้างในกลไกไม่มีแผนเป็นกิจลักษณะอะไรในการแก้ปัญหาระดับต้นตอ สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯทำมาโดยตลอดคือการขึ้นบัญชีดำพวกอาชญากรตัวการหลัก แต่จนป่านนี้ ไทยยังไม่มีการระบุตัวว่าใครเป็นอาชญากรหลัก ทั้งๆที่มีข้อมูลอยู่หมดแล้ว หรือถ้าไม่มีก็ไปคุยกับสหรัฐฯซิ เรารู้มาตลอดว่าประเทศไทยกลายเป็นฐานการฟอกเงิน แต่รัฐบาลไทยไม่เคยระบุว่าอาชญากรพวกนี้เป็นใครบ้าง” อาจารย์ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มช.กล่าว
เมื่อถามว่าเงินพวกนี้จะถูกนำมาใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ ศ.ดร.ปิ่นแก้ว กล่าวว่า ตอบยาก เพราะไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้
“เรามีนักการเมืองซึ่งใช้เงินจากฐานพวกนี้ในการเลี้ยงคน เราก็ไม่รู้เขาเลี้ยงกันไปถึงระดับไหน การตัดฐานรายได้นี้ออกไป ทำให้มีคนหาทางจัดการปัญหาเพื่อไม่ให้กระทบกับฐานรายได้ของเขา ดิฉันไม่ได้กล่าวหาว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นอย่างนี้ แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันไม่มีมาตรการในการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเรื่องนี้ มันอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามว่า มันไปกระทบผลประโยชน์ของใครหรือเปล่า คณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นมาก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่ามีความตั้งใจในการแก้ปัญหานี้ ถ้าไม่อยากถูกเหมารวมว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ ท่านมีแผนจะแก้ไขปัญหานี้ในระดับต้นตออย่างไร”
ศ.ดร.ปิ่นแก้วกล่าวว่า มาตรการ 3 ตัด (ตัดไฟ ตัดอินเตอร์เนต ตัดการขนส่งน้ำมัน) ของพรรคเพื่อไทยทำให้เรารู้แล้วว่ายังไม่พอ เพราะอาชญากรรมไซเบอร์ก้าวหน้าทางเทคโนโลยี อย่างเคเคปาร์ค การตัดไฟ เท่าที่เคยสัมภาษณ์คนที่เข้าไปทำงานในนั้น เขาใช้เครื่องปั่นไฟมานานมากแล้ว เขาไม่ได้พึ่งพาไฟฟ้าจากบ้านเรา ในแง่ 3 ตัดเป็นการตามหลังเขา ทำให้เขาไม่สะดวกในการทำงานแต่ไม่ได้ทำให้เขาทำงานไม่ได้

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1454983129965824&set=a.504230311707782
https://transbordernews.in.th/home/?p=44322



อ้าวเฮ้ย!


คนกลมคนเหลี่ยม
14 hours ago
·
อ้าวเฮ้ย!

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1153426930262812&set=a.368277725444407









วันที่ 30 ตุลาคม ของทุกปี องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ รณรงค์ให้เป็น “วันนักโทษการเมืองสากล” เวลานี้ ประเทศไทยมีนักโทษการเมืองอย่างน้อย 208 คน


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
16 hours ago
·
วันนักโทษการเมืองสากล ภาพรวม 5 ปี ในไทย: สถิติขึ้นลงสัมพันธ์กับสถานการณ์ทางการเมือง-แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน
.
.
วันที่ 30 ตุลาคม ของทุกปี องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศหลายองค์กรได้รณรงค์ให้เป็น “วันนักโทษการเมืองสากล” (International Day of Political Prisoners) เนื่องจากเคยเป็นวันที่นักโทษการเมืองในอดีตสหภาพโซเวียตได้ประกาศอดอาหารประท้วงครั้งใหญ่ระหว่างถูกคุมขังในคุกและค่ายกักกัน เมื่อปี 1974 เพื่อเรียกร้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน การกำหนดวันดังกล่าวจึงเป็นการพยายามรำลึกถึงการเรียกร้องสิทธิของผู้ถูกจองจำด้วยเหตุผลทางการเมือง รวมทั้งยังเป็นการร่วมกันแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้ต้องขังทางการเมืองทั่วโลก และเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองที่ยังดำรงอยู่ในหลายประเทศ
.
ในประเทศไทย ภายหลังการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ในช่วงปี 2563 มีประชาชนและนักกิจกรรมทางการเมืองต้องถูกคุมขังในคดีต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบการถูกคุมขังระหว่างพิจารณา และถูกคุมขังตามคำพิพากษาถึงที่สุด
.
จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่าตลอดราว 5 ปี มีผู้เคยถูกคุมขังในเรือนจำไปรวมแล้วอย่างน้อย 208 คน (สถิติตั้งแต่กลางปี 2563 ถึงวันที่ 30 ต.ค. 2568) บางรายได้รับการประกันตัว หรือพ้นโทษในคดี บางรายถูกคุมขังหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา บางรายก็ยังคงถูกคุมขังอยู่ในปัจจุบัน โดยสถิติตัวเลขนี้นับข้อมูลผู้เคยถูกคุมขังในเรือนจำทั้งหมด แม้ระหว่างรอคำสั่งของศาลในการประกันตัวด้วย
.
แนวโน้มสถานการณ์ของการคุมขังนั้น สัมพันธ์กับสถานการณ์ทางการเมือง และกระแสการประท้วงเรียกร้องในช่วงปีต่าง ๆ อย่างยิ่ง รวมทั้งในช่วงหลังยังเกี่ยวข้องกับการกระบวนการในคดี ที่หลายคดีดำเนินมาสู่ชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา หรือคดีสิ้นสุดลงไปมากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มของผู้ถูกคุมขังเพิ่มมากขึ้นในปี 2568
.
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ที่ควรบันทึกไว้คู่ขนานกับสถิติและแนวโน้มของการคุมขัง คือการเคลื่อนไหวเรียกร้องของผู้ต้องขังทางการเมือง ที่ยังพยายามต่อสู้เรียกร้องภายใต้ข้อจำกัดด้านอิสรภาพ การสื่อสาร และเครื่องมือที่สามารถใช้เรียกร้อง โดยเฉพาะแต่ละช่วงปียังคงมีสถานการณ์การอดอาหารประท้วงของผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นระยะ
.
.
อ่านบทความบนเว็บไซต์
https://tlhr2014.com/archives/79542

https://www.facebook.com/photo?fbid=1231822232121578&set=a.656922399611567



ทรัมป์กับพันธกิจใหม่ด้านแร่ธาตุสำคัญ: โอกาส-ความเสี่ยง-และความกังวล

https://www.facebook.com/ETOWatchCoalition/posts/1224734133026774

ETOs Watch Coalition เครือข่ายติดตามการลงทุนไทยและความรับผิดชอบข้ามพรมแดน 
9 hours ago
·
"ทรัมป์ประกาศพันธกิจใหม่ด้านแร่ธาตุสำคัญ: โอกาสกระจายความเสี่ยงห่วงโซ่แร่จากจีนที่แลกมาด้วยความกังวลด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อาหาร และเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง"
.
ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังเร่งสร้างพันธมิตรทางยุทธศาสตร์เพื่อลดการพึ่งพาจีนในห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ใหม่กับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และพันธมิตรหลัก เพื่อส่งเสริมการผลิตและการค้าที่หลากหลายและยั่งยืนมากขึ้น ตามรายงานจาก Stimson Center ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในวันนี้ (30 ต.ค.) ได้นำเสนอโอกาสมหาศาลในการท้าทายการผูกขาดของจีน แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชนที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ
.
#พันธกิจหลักของทรัมป์_สร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน
ตามเอกสารวิเคราะห์ของนักวิจัยจาก Stimson Center ได้ระบุว่าสหรัฐฯ ได้ลงนาม MOU กับไทย มาเลเซีย และกัมพูชา เพื่อความร่วมมือด้านแร่ธาตุสำคัญ โดยมุ่งเน้นการกระจายห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีกรอบความร่วมมือกับญี่ปุ่นและออสเตรเลีย เพื่อรับประกันการจัดหาแร่ธาตุและแร่หายากที่เปิดกว้าง มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และโปร่งใส
.
ทรัมป์ย้ำถึงความสำคัญของการสร้างตลาดแร่ธาตุที่หลากหลาย โดยระบุว่าสหรัฐฯ ต้องการ "การเปลี่ยนผ่านสู่ตลาดแร่ธาตุสำคัญและแร่หายากที่เปิดกว้าง มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และโปร่งใส" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกว้างใหญ่ในการลดการพึ่งพาจีน ผู้ครองส่วนแบ่งการผลิตและแปรรูปแร่ธาตุสำคัญถึง 19 ใน 20 ชนิด ตามรายงานของ IEA Global Critical Minerals Outlook 2025
.
#โอกาสสำหรับสหรัฐฯ_และพันธมิตรเอเชีย?
รายงานชี้ว่าการขยายความร่วมมือนี้เป็นโอกาสเชิงยุทธศาสตร์สำหรับสหรัฐฯ ในการสร้าง "กลุ่มพันธมิตรแร่ธาตุสำคัญ" เพื่อท้าทายการผูกขาดของจีน โดยเฉพาะในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งหลายประเทศกำลังกำหนดกลยุทธ์แห่งชาติเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมนี้ ตัวอย่างเช่น สำนักเลขาธิการอาเซียนเพิ่งประกาศ "วิสัยทัศน์การพัฒนาแร่ธาตุอาเซียน (AMDV)" เพื่อทำให้ภูมิภาคเป็นศูนย์กลางการพัฒนาแร่ธาตุที่ยั่งยืนและร่วมมือกัน
.
ออสเตรเลียและไทย ซึ่งครองอันดับ 4 ร่วมกันในฐานะผู้ผลิตแร่ธาตุสำคัญรายใหญ่ ขณะที่มาเลเซียอยู่อันดับ 10 และสหรัฐฯ อยู่อันดับ 2 ตามข้อมูลจาก The Guardian (26 ตุลาคม 2568) ทำให้การเป็นพันธมิตรเหล่านี้มีความสมเหตุสมผล สหรัฐฯ สามารถส่งเสริมมาตรฐานที่รับผิดชอบ เช่น การใช้เทคนิคชีวลูชชิง (bioleaching) การรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ และการฟื้นฟู e-waste เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รายงานระบุว่า "สหรัฐฯ มีโอกาสมีส่วนร่วมอย่างมีกลยุทธ์ ขณะเดียวกันก็สร้างความแตกต่างจากแนวทางของจีน โดยการผลักดันมาตรฐานที่รับผิดชอบร่วมกันในหมู่พันธมิตร"
.
#ความกังวล_ผลกระทบจากการขุดที่สกปรก
อย่างไรก็ตาม การขยายการขุดแร่ธาตุสำคัญ โดยเฉพาะแร่หายาก มักมาพร้อมกับความเสี่ยงสูง รายงานเตือนถึงประวัติศาสตร์อันมืดมนของจีน เช่น การขุดแบบไม่ควบคุมในมณฑลเจียงซีที่ทำให้กรดกัดกร่อนน้ำใต้ดินและปนเปื้อนแม่น้ำ ส่งผลให้ต้องใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการฟื้นฟู ปัจจุบัน การขุดของจีนได้ย้ายไปยังเมียนมาและลาว ซึ่งมีเหมืองแร่หายากกว่า 500 แห่ง สร้างความเสียหายต่อชุมชนท้องถิ่นและระบบนิเวศ โดยเฉพาะลุ่มน้ำโขงที่เป็นแหล่งผลิตข้าว ปลา และผลผลิตทางการเกษตรสำหรับตลาดโลก
.
"ผลกระทบและความเสี่ยงไม่ได้จำกัดอยู่ที่ชุมชนท้องถิ่นเท่านั้น เนื่องจากภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเป็นแหล่งผลิตข้าว ปลา และผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ สำหรับตลาดโลก" รายงานยกตัวอย่าง โดยเตือนว่าการขยายในอาเซียนอาจนำไปสู่ปัญหาคล้ายกัน หากไม่มีการกำกับดูแลที่เข้มงวด สหรัฐฯ จึงถูกเรียกร้องให้เป็น "ทางเลือกที่รับผิดชอบ" โดยการลงทุนระยะยาวและมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น
.
#ข้อเสนอการสร้างกรอบที่ยั่งยืน
Stimson Center แนะนำให้สหรัฐฯ สร้างกรอบการขยายห่วงโซ่อุปทานที่ยึดมั่นในคำมั่นสัญญา เช่น การสนับสนุนการค้าแบบโปร่งใส และลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การขุดแบบชีวภาพและการรีไซเคิล เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ควรส่งเสริมการแบ่งปันความรู้ การวิจัยร่วม และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในระดับภูมิภาค โดยใช้ AMDV ของอาเซียนเป็นฐาน
.
"การสร้างพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่สามารถท้าทายและอาจแยกตัวจากระบบห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุที่จีนผูกขาด จะต้องใช้การลงทุนและความมุ่งมั่นระยะยาว" รายงานสรุป โดยชี้ว่าสหรัฐฯ สามารถนำเสนอทางเลือกที่แตกต่างจากจีนได้ หากเน้นมาตรฐานที่สูงขึ้น
.
การเคลื่อนไหวนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลก ซึ่งพึ่งพาแร่ธาตุเหล่านี้ในการผลิตแบตเตอรี่ชิปคอมพิวเตอร์ และพลังงานหมุนเวียน ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับอาเซียนจะเร่งตัวขึ้นในปีหน้า เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
...
อ่านต้นฉบับรายงานได้ที่
https://www.stimson.org/2025/trumps-new-critical-minerals-commitments-opportunities-and-concerns/

https://www.facebook.com/ETOWatchCoalition/posts/1224734133026774






นี่คือสิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับข้อตกลงที่ประธานาธิบดีทรัมป์และสีจิ้นผิงทำขึ้นระหว่างการพบกันที่นี่ในเกาหลีใต้ สรุป: สิ่งที่เราเห็นเป็นเพียงการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า ชั่วคราว ไม่ใช่ความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน






Selina Wang
@selinawangtv
·6h

Here’s what to know about the deal that President Trump and Xi Jinping made during their meeting here in South Korea:

- Trump is lowering tariffs on China by 10%.
- China is delaying its restrictions on rare earth minerals for one year.
- China will start buying US soybeans again
- no deal finalized on TikTok
 
Bottom line: what we’re seeing is temporary patches, not breakthroughs in the relationship
And the moment was partly overshadowed Trump’s surprise post on truth social just minutes before he was schedule to sit down with Xi: threatening to resume nuclear testing for the first time in 30 years…he says the move was NOT aimed at China.
@ABC
@ABCNewsLive
@GMA

https://x.com/selinawangtv/status/1983859003882180760
https://x.com/CalltoActivism/status/1983730939294622057



ทรัมป์สั่งเพนตากอนทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ หลังจากหยุดไปในปี 1992 คำสั่งนี้ อาจทำให้ความไม่ไว้วางใจระหว่างจีน รัสเซีย กับ สหรัฐฯ เกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ทวีความรุนแรงมากขึ้น - เลือกผู้นำผิด โง่ หรือ ไม่โง่ เราก็จะตายกันหมดอยู่ดี


Trump orders Pentagon to start testing nuclear weapons 'on an equal basis' with other countries

MSNBC

Oct 30, 2025 

President Donald Trump said Wednesday he had instructed the Defense Department to “immediately” start testing nuclear weapons "on an equal basis" with other nations.

https://www.youtube.com/watch?v=SDicUKbYUgk&list=RDNSSDicUKbYUgk








 

ผู้ปฏิบัติงานด้านข่าวสาร (IO) มีค่าตอบแทน 240 บาท/คน/วัน หลักฐานขนาดนี้ แล้วบอกพิสูจน์ไม่ได้ ฮ่วย ! โจทก์ทั้ง 3 จะเดินหน้าอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป


https://www.facebook.com/iLawClub/posts/1241753937998223

iLaw 
7 hours ago
·
เหล่านี้ คือ เอกสารคำสั่งให้ปฏิบัติการไอโอของกองทัพบก
ก่อนหน้านี้กองทัพปฏิเสธไม่ยอมรับ
และอ้างว่าเหล่านี้เป็นเอกสารปลอม มีบางส่วนไม่ตรงกับความจริง
ซึ่งวันนี้ศาลปกครองพิพากษายืนยันแล้ว ศาลเชื่อว่าเป็นเอกสารจริง มีปฏิบัติการไอโอของกองทัพจริง https://www.ilaw.or.th/articles/55744

 
https://www.facebook.com/watch/?v=1317143463490956
...
Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล
12 hours ago
·
สรุปคำตัดสินศาลปกครองเมื่อเช้า ที่พวกเราสามคนฟ้องกองทัพบกและ ผบ.ทบ. ข้อหาทำ IO ศาล “ยกฟ้อง” นะคะ โดยสรุปคือศาลมองว่า
- ตามหลักสากลกองทัพทำ IO กับประชาชนไม่ได้ เพราะประชาชนไม่ใช่ศัตรู
- ข้ออ้างของกองทัพที่ว่า คำสั่งให้ทำ IO เป็นเอกสารปลอม ทำขึ้นโดยผู้ไม่หวังดีนั้น ฟังไม่ขึ้นเพราะไม่เคยไปร้องทุกข์เลย (แสดงว่าศาลเชื่อว่า เป็นเอกสารจริง)
- ส่วนรายงานของทวิตเตอร์ ศาลมองว่าเป็นเรื่องสแปม ใครๆ ก็โดนสแปมได้ (ทั้งที่รายงานจริงๆ เป็นเรื่อง IO ที่โยงกับกองทัพบก ไม่เกี่ยวกับสแปม)
- มองว่าเจ้าหน้าที่ที่มาด้อยค่าพวกเรา อาจเป็นการแสดงความเห็นส่วนตัวก็ได้ (ไม่ใช่เพราะโดนสั่งให้ทำ IO)
พวกเราจะเดินหน้าอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไปค่ะ
เมื่อได้คำตัดสินฉบับเต็มแล้ว จะเขียนบทความสรุปข้อสังเกตของตัวเอง เปรียบเทียบกับรายงาน กสม. ที่ชี้ชัดว่ากองทัพทำ IO ละเมิดสิทธิ แล้วนำมาแชร์ต่อไปนะคะ

https://www.facebook.com/watch/?v=2514124552297721


กฎหมายบ้านเรา ต้องถูกขังจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าไม่มีความผิด: "แดง ชินจัง" ผู้ถูกคุมขังนาน 415 วัน และคำร้องขอประกันตัวที่ถูกปฏิเสธถึง 49 ฉบับ


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
9 hours ago
·
ต้องถูกขังจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าไม่มีความผิด: "แดง ชินจัง" ผู้ถูกคุมขังนาน 415 วัน และคำร้องขอประกันตัวที่ถูกปฏิเสธถึง 49 ฉบับ
.
.
“ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจําเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคําพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้”
.
บทบัญญัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ตามความในมาตรา 29 วรรค 2 และ วรรค 3 ที่ได้รับรองสิทธิไว้ให้กับประชาชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
.
และบทบัญญัติดังกล่าว ยังเป็นข้อกฎหมายที่ระบุไว้อย่างชัดเจนในทุกคำร้องขอประกันตัวที่ศาลยกคำร้องจำนวนรวม 49 ฉบับ ของ “แดง ชินจัง” หรือ ยงยุทธ (สงวนนามสกุล) อดีตคนเสื้อแดง และจำเลยในคดีเกี่ยวเนื่องกับวัตถุระเบิดฯ จากการชุมนุมทางการเมืองในช่วงปี 2557 จำนวน 5 คดี (รวมจำนวนการยื่นขอในทุกคดี แยกเป็นการยื่นขอประกันตัวในศาลชั้นต้นรวม 38 ฉบับ และยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัวรวม 11 ฉบับ)
.
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2567 ศาลอาญามีคำสั่งรับฟ้องในทุกคดีของยงยุทธ ในข้อหาเกี่ยวกับวัตถุระเบิด ในช่วงการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ในวันที่ 8 ก.พ. , 10 มี.ค., 26 มี.ค., 10 เม.ย. และวันที่ 11 พ.ค. ปี 2557 ก่อนมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวในระหว่างพิจารณาคดี โดยระบุว่า พฤติการณ์แห่งคดีของจำเลยเป็นเรื่องร้ายแรง หากอนุญาตให้ประกันตัว เกรงจะหลบหนี
.
หลังจากนั้นแม้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัว แต่ศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่งในครั้งแรกในแต่ละคดีว่า “พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ข้อหามีอัตราโทษสูง การกระทำที่จำเลยถูกฟ้องมีลักษณะอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย พฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวชอบแล้ว”
.
การยื่นประกันตัวในครั้งถัด ๆ มา แม้พยายามระบุเรื่องพยานหลักฐานในคดีที่ถูกกล่าวหามาจากการที่จำเลยถูกซ้อมทรมาน แต่ก็ไม่ทำให้ศาลเปลี่ยนแปลงคำสั่งอีก ทำให้ยงยุทธถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มากว่า 1 ปี 1 เดือนเศษ
.

อ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์
https://tlhr2014.com/archives/79575

https://www.facebook.com/photo?fbid=1232034565433678&set=a.656922399611567



วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 30, 2568

พวกเขาผู้ร้องทั้งสาม สฤณี ยิ่งชีพ และจอห์น วิญญู พลิกความพ่ายแพ้แห่งคดีในศาลปกครอง เป็นโอกาสเดินหน้าคัดค้านกระบวนการ ‘ไอโอ’ ของกองทัพบกต่อไป

กรณีอันเป็นประวัติการณ์ เมื่อพวกเขาผู้ร้องทั้งสาม พลิกความพ่ายแพ้แห่งคดีที่ศาลปกครองยกฟ้อง (ขอให้สั่งทัพบกหยุดปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร) เป็นโอกาสอุทธรณ์ และเดินหน้าคัดค้านกระบวนการ ไอโอ ต่อไป

สฤณี อาชวานันทกุล ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ และวิญญู วงศ์สุรวัฒน์ เปิดแถลงการณ์หน้าศาลปกครองกลาง หลังฟังคำพิพากษา เมื่อ ๓๐ ตุลาคม ว่าถึงแม้ศาลจะยกฟ้องด้วยเหตุผลสุดท้ายว่า การใช้สื่อสังคมก่อกวน โจมตี และกลั่นแกล้งบัญชีส่วนบุคคล

นั้นอาจไม่ใช่ปฏิบัติการของหน่วยงานราชการก็ได้ หากแต่เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตนของเจ้าหน้าที่คนนั้นๆ แม้กระทั่งหลักฐานที่ศาลรับฟังว่า “มีข้อความไปหา @johnwinyu ว่า กูโคตรจะเกลียดมึงเลย เป็นดาราเสือกมายุ่งเรื่องการเมือง ไอ้ขยะ”

ซึ่งข้อความทางทวิตเตอร์จากบัญชีที่ มีความเชื่อมโยงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ดังกล่าว ศาลยอมรับว่าเป็นจริง รวมทั้งหลักฐานสำคัญที่ได้มาจาก การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหลายครั้ง โดย สส.หลายคน

“ได้แก่ วิโรจน์ ลักษขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล, ณัชชา บุญไชยอินสวัสดิ์ จากพรรคก้าวไกล และชยพล สท้อนดี จากพรรคประชาชน” ซึ่งได้รับ “มาจากบุคคลที่ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารภายในกองทัพนำมาให้” แม้นว่าผู้ถูกฟ้องจะปฏิเสธอย่างด้านๆ ในศาล

ตัวอย่างหลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่งเป็นเอกสารที่ระบุว่าผู้ประกอบการ ทวิตเตอร์ ได้สั่งปิดบัญชีอันเป็น “ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของรัฐในประเทศไทย” ถึง ๙๒๖ บัญชี ว่า “เชื่อมโยงไปยังกองทัพบกได้” และ “ล็อคเป้าหมาย บุคคลที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง”

เหล่านี้ ศาลปกครองกลางยอมรับว่าเป็นเอกสารจริง เท่ากับเป็นคำพิพากษาโดยนัยยะว่า กองทัพบกได้ดำเนินการ ‘ไอโอ’ จริง ซึ่งยิ่งชีพกล่าวในตอนหนึ่งว่า สามารถนำไปใช้ในการรณรงค์ต่อไปให้กองทัพบกยุติปฏิบัติการ

แม้ว่านั่นจะเป็นจุดหมายสูงสุดที่ทำได้ในขณะนี้ แต่ก็นำไปปรับใช้กับหน่วยงานไอโออื่นๆ ไม่ว่าของกองทัพอากาศ ทัพเรือ ตำรวจ กอ.รมน. หรืออื่นๆ ฯลฯ ทั้งหมด เขายังกล่าวขอบใจ ผู้ที่ส่งหลักฐานต่างๆ ให้ สส.อภิปรายในสภา แม้จนบัดนี้ไม่รู้ว่าเป็นใคร

แต่คุณูปการของเขาผู้นี้ได้ช่วยให้ประชาชนทั้งหลายที่ปราศจากอำนาจทัดทาน มีโอกาสรอดพ้นจากการเป็นเหยื่อทำร้ายและทำลายล้าง โดยหน่วยงานของรัฐและกองทัพได้ในภายภาคหน้า

(https://www.ilaw.or.th/articles/55470 และ https://www.facebook.com/watch/live/680686621765475=1761796909148548_video)

"เราทั้งสองทราบดีว่า ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีใครหนีพ้นความตายได้ เราจึงอยากมอบประโยชน์สุขให้กับสังคมมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ และแบ่งเวลาเพียงเล็กน้อยให้กับตัวเอง" พระราชดำรัสในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แปลเป็นภาษาไทยจากภาพยนตร์สารคดี “Soul of a Nation”

 
https://www.facebook.com/watch/?v=3687999374828648
https://www.facebook.com/reel/3687999374828648

โบราณนานมา
Yesterday
·
[ เราทั้งสองทราบดีว่า ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีใครหนีพ้นความตายได้ เราจึงอยากมอบประโยชน์สุขให้กับสังคมมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ และแบ่งเวลาเพียงเล็กน้อยให้กับตัวเอง ]
.
พระราชดำรัสในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แปลเป็นภาษาไทยจากภาพยนตร์สารคดี “Soul of a Nation”
.
“...ความรักและเมตตา คือ สิ่งที่มนุษย์เราควรมอบให้แก่กัน การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน และให้ด้วยความรัก... นั่นคือเหตุผลที่พระราชสวามี และตัวเราสามารถทำงานเหล่านี้ วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย...”
.
แต่เราทั้งสองทราบดีว่า ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีใครหนีพ้นความตายได้ เราจึงอยากมอบประโยชน์สุขให้กับสังคมมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ และแบ่งเวลาเพียงเล็กน้อยให้กับตัวเอง
.
เราเคยรู้สึกกลัวความตายเหลือเกิน แต่เมื่อเราได้พบกับพระอาจารย์รูปหนึ่ง ท่านบอกเราว่า อย่าได้กลัวความตาย เพราะนั่นเป็นสัจธรรมของชีวิต ถ้าเรามีจิตที่บริสุทธิ์ คิดดีกับผู้อื่น และเราได้ปฏิบัติต่อผู้คน ต่อประเทศ อย่างเต็มกำลังความสามารถแล้ว แม้วันหนึ่งที่เราต้องจากโลกนี้ไป วิญญาณหรือจิตของเรา ก็จะสงบและเป็นสุข..“


กรมสุขภาพจิต ห่วงประชาชนโศกเศร้าอาลัย 'พระพันปีหลวง' สั่งรพ.เตรียมพร้อมดูแล-จัดทีมเยียวยาจิตใจ ปชช. (ลองอ่านคอมเมนต์ดู แล้วอาจจะรู้สาเหตุที่แท้จริง ประชาชนเศร้าเพราะ ?!?)


Khaosod - ข่าวสด
October 26

pneotdSosr2lgaot M5m 5gOimcfc 66tc6532:8b2274gu0Ate 1h4macr3 ·

กรมสุขภาพจิต ห่วงประชาชนโศกเศร้าอาลัย 'พระพันปีหลวง' สั่งรพ.เตรียมพร้อมดูแล-จัดทีมเยียวยาจิตใจ ปชช.
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9993059

https://www.facebook.com/photo?fbid=1321883159968429&set=a.648490497307702



"ให้คิดเสียว่าซื้อหวยผิด" 2 ล้านนะ ไม่ใช่ 2ร้อย


ข่าวช่องวัน
Yesterday
·
ผู้จัดคอนเสิร์ต เทศกาลเที่ยวพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โอดหลังถูกทางอำเภอมีคำสั่งยกเลิกจัดงาน แม้ลงทุนไปแล้วประมาณ 2 ล้านบาท เพื่อเตรียมงานที่จะเกิดขึ้น 3-9 พ.ย. โดยเฉพาะการจองตัวศิลปิน อุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งขอปรับรูปแบบการจัดงาน ทั้งการให้ทุกวงดนตรียืนไว้อาลัย, ทีมงาน-ผู้ชม แต่งกายสุภาพ ไม่สวมสีฉูดฉาด, งดจุดพลุ-ดอกไม้ไฟ, งดช่วงดีเจ, และการใช้แสงไฟโทนสีขาว โดยให้หน่วยงานราชการเข้าตรวจสอบควบคุมความเหมาะสม แต่สุดท้ายคณะกรรมการ ได้มีคำสั่งยกเลิกการจัดการงานดังกล่าว
.
ผู้จัดคอนเสิร์ตบอกว่า ในที่ประชุมมีคณะกรรมการคนหนึ่งบอกว่า "ให้คิดเสียว่าซื้อหวยผิด" ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจใครจะซื้อหวยงวดเป็นล้าน โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมีทั้งค่าเตรียมข้าวของอุปกรณ์จัดงานต่างๆ ค่าเครื่องปั่นไฟ รวมไปถึงค่ามัดจำศิลปินหลายคน ที่ไม่สามารถขอคืนได้ แต่แจ้งว่าจะล็อกคิวไว้ให้ นอกจากนี้ยังทำให้ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 120 คน ต้องเสียโอกาสที่จะได้รับรายได้ ขณะผู้ค้าบางคนบอกไปกู้หนี้ยืมสินมา ก็ได้รับผลกระทบจากคำสั่งยกเลิกดังกล่าว
.
อย่างไรก็ตามทางเพจอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ได้โพสต์ มติคณะกรรมการการจัดงานเทศกาลเที่ยวพิมาย นครราชสีมา 2568 เพื่อรักษาวัฒนธรรมประเพณี การท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และเพื่อเป็นการปรับรูปแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับช่วงเวลาของการถวายอาลัย โดยมีกิจกรรมที่ถูกยกเลิกประกอบด้วย
- การจัดกิจกรรมคอนเสิร์ตของภาคเอกชน
- การประกวดแข่งขันวัฒนธรรมพื้นบ้านด้านการเกษตร (ตำข้าวครกมือลีลา – ประมงพื้นบ้าน หว่านแหบก) ณ ลานหน้าที่ว่าการอำเภอพิมาย
- ประกวดร้องเพลง "พิมายเริงใจ วัยเก๋าโชว์พลัง เสียงทอง เริงระบำ" ณ ลานหน้าที่ว่าการอำเภอพิมาย
- การประกวดทำอาหารพื้นบ้าน (ผัดหมี่พิมาย/ส้มตำ) และการประกวดการเต้น เพื่อส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ณ หน้าที่ว่าการอำเภอพิมาย
- การประกวดเดินแบบแมวแฟนซี ณ ที่ว่าการอำเภอพิมาย

https://www.facebook.com/photo/?fbid=841202374940623&set=a.272939865100213
18 hours ago
·
นี่ไม่ใช่ความโศกเศร้าจากการเสีย "แม่ของแผ่นดิน" แต่คือความโศกเศร้าจากการที่ประชาชนต้องได้รับผลกระทบจากความโศกเศร้า
...นักร้อง นักแสดง แดนซ์เซอร์
...ช่างไฟ แสง สีเสียง ผู้ให้เช่าโต๊ะเก้าอี้เต็นท์ผ้าใบ
...ช่างตัดชุด แต่งหน้า ช่างทำผม
...พ่อค้า แม่ค้าหน้างาน
...Organizer ผู้จัดงาน
..อาชีพสร้างความสุขความบันเทิง ให้กับผู้คนบนแผ่นดินที่ต้องหาความสุขความบันเทิงเพื่อหล่อเลี้ยงรอยยิ้มและความสุขของชีวิต ที่ไม่ได้มาจากคุณภาพชีวิตที่ดีที่ควรได้รับจากรัฐ
..กี่ชีวิตที่ต้องสูญเสียรายได้จากอาชีพที่ใช้หล่อเลี้ยงและต่อลมหายใจของทุกคนในครอบครัว
นี่คือความโศกเศร้าจาก "การถูกบังคับให้โศกเศร้า"
Cr. ติดตามเนื้อหาข่าวเพิ่มเติมจากลิงค์นี้ https://www.facebook.com/share/p/19mYjU5eLN/

.....





บริษัทรัฐวิสหกิจจีนเร่งขยายเหมืองแร่แรร์เอิร์ธและทองคำริมแม่น้ำกกในรัฐฉาน ขณะความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มสูง


Lanner
17 hours ago
·
28 ตุลาคม 2568 มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (Shan Human Rights Foundation-SHRF) ได้เผยแพร่รายงานโดยระบุ ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดเผยให้เห็นการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเหมืองทองคำและเหมืองแร่หายาก (แรร์เอิร์ธ) บริเวณริมแม่น้ำกก ในพื้นที่เมืองยอน ทางใต้ของเมืองสาด รัฐฉานตะวันออก โดยมีบริษัทรัฐวิสาหกิจจีน ‘ไชนา อินเวสเมนต์ ไมนิ่ง จำกัด’ (China Investment Mining Company) เป็นผู้ดำเนินการ

ภาพจากดาวเทียมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่อย่างชัดเจน มีการตัดถนนและก่อสร้างเหมืองใหม่บริเวณเชิงเขาที่เคยเป็นพื้นที่ป่า และมีร่องรอยของการปล่อยกากแร่และโลหะหนักลงสู่แม่น้ำกกโดยตรง พื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากพรมแดนไทยบริเวณอำเภอท่าตอน จังหวัดเชียงใหม่ เพียงราว 30 กิโลเมตร

ขยายเหมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

รายงานของมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (Shan Human Rights Foundation) เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ระบุว่า เหมืองแร่แรร์เอิร์ธสองแห่งที่ตั้งอยู่คนละฝั่งของแม่น้ำกก มีการขยายพื้นที่และเพิ่มการผลิตอย่างต่อเนื่อง เหมืองเหล่านี้ใช้เทคนิค ‘การชะละลายในแหล่ง’ (in-situ leaching) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ฉีดสารเคมีเข้าไปในชั้นดินและหินเพื่อละลายแร่ ทำให้เกิดการปนเปื้อนสารพิษในระบบนิเวศโดยรอบ

ภาพถ่ายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2568 ของเหมืองฝั่งตะวันตกเผยให้เห็นบ่อแต่งแร่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่จากภาพล่าสุดในเดือนตุลาคม การก่อสร้างได้เสร็จสมบูรณ์ มีการสร้างหลังคาสีดำคลุมไว้เหนือบ่อทั้งหมด ขณะที่เหมืองฝั่งตะวันออกยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถเห็นสารเคมีเหลวสีน้ำเงินสดในบ่อแต่งแร่และอาคารใหม่จำนวนมากที่เพิ่งสร้างขึ้น

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนชายแดน

การขยายเหมืองทั้งทองคำและแรร์เอิร์ธเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลต่อการปล่อยสารพิษลงสู่แม่น้ำกก ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านรัฐฉาน เข้าสู่ไทยที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และต่อเนื่องไปยังจังหวัดเชียงราย ก่อนลงสู่แม่น้ำโขง

ชาวบ้านและนักสิ่งแวดล้อมแสดงความกังวลว่า การปนเปื้อนอาจส่งผลต่อประชาชนกว่า 1 ล้านคนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกกในไทย และผู้คนอีกหลายสิบล้านคนในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง
หน่วยงานไทยได้ตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำกกทุกสองสัปดาห์ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และพบสารหนูและตะกั่วเกินค่ามาตรฐานหลายครั้ง

บริษัทรัฐวิสาหกิจจีนอยู่เบื้องหลัง

เมืองยอนอยู่ภายใต้การควบคุมร่วมระหว่างกองทัพว้า (United Wa State Army - UWSA) และรัฐบาลทหารเมียนมา การทำเหมืองในพื้นที่ต้องได้รับอนุญาตจากทั้งสองฝ่าย

บริษัทรัฐวิสาหกิจจีน ไชนา อินเวสเมนต์ ไมนิ่ง จำกัด เป็นผู้ดำเนินการเหมืองเหล่านี้ โดยถือหุ้นใหญ่ถึง 90% ภายใต้โครงสร้างร่วมทุนกับบริษัทเซี่ยงไฮ้ ฉือจิน เซียะหวู่ เมทัล รีสอร์สเซส (Shanghai Chijin Xiawu Metal Resources Co., Ltd.) ก่อตั้งในปี 2565 เพื่อพัฒนาเหมืองแร่ในลาวและเมียนมา

บริษัทนี้มีความเชื่อมโยงกับสองยักษ์ใหญ่ของจีน คือ

1. บริษัทเซียะเหมิน ทังสเตน จำกัด (Xiamen Tungsten Corporation) รัฐวิสาหกิจรายใหญ่ด้านแรร์เอิร์ธ

2. บริษัทฉือเฟิง โกลด์ (Chifeng Gold) ผู้ผลิตทองคำเอกชนรายใหญ่ที่สุดของจีน

การขยายเหมืองในลาวและภูมิภาค

ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดยังพบว่า บริษัทเดียวกันนี้มีการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในแขวงเชียงขวาง ทางตอนเหนือของลาว โดยมีการปล่อยน้ำเสียลงลำน้ำที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำคาน ก่อนลงสู่แม่น้ำโขงที่เมืองหลวงพระบาง ซึ่งสร้างความกังวลว่าจะเกิดผลกระทบข้ามพรมแดนเช่นเดียวกับกรณีแม่น้ำกก

จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลไทยต่อการขยายกิจกรรมเหมืองในฝั่งรัฐฉาน แม้จะมีหลักฐานเชิงประจักษ์จากภาพดาวเทียมและผลตรวจคุณภาพน้ำที่ยืนยันถึงความเสี่ยงของสารพิษโลหะหนักที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำกก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของชุมชนในภาคเหนือของประเทศไทย

https://www.lannernews.com/29102568-01/