วันจันทร์, มิถุนายน 16, 2568

“อย่าเกลียดเราเลย” “รักประเทศไทยนะ เรารู้ว่าเราเป็นคนกัมพูชา เราเกิดที่กัมพูชา ที่นั่นเป็นประเทศบ้านเกิดของเรา แต่ประเทศไทยทำให้เราเลี้ยงชีวิตเลี้ยงครอบครัวได้" เสียงเล็ดลอดจากมุมเล็กๆ ของแรงงานกัมพูชา


สำนักข่าวชายขอบ

15/06/2025
“อย่าเกลียดเราเลย” เสียงเล็ดลอดจากมุมเล็กๆ ของแรงงานกัมพูชา

“รักประเทศไทยนะ เรารู้ว่าเราเป็นคนกัมพูชา เราเกิดที่กัมพูชา ที่นั่นเป็นประเทศบ้านเกิดของเรา แต่ประเทศไทยทำให้เราเลี้ยงชีวิตเลี้ยงครอบครัวได้ เรื่องขัดแย้งระหว่างประเทศ เราไม่รู้ว่าจะคิดอย่างไรต่อ มันเป็นเรื่องการเมือง ผู้ใหญ่ที่มีอำนาจสูงสุดตัดสินใจกัน แต่เราเป็นประชาชน เรารักประชาชนกันเอง”

ความในใจจากแรงงานกัมพูชาคนหนึ่งที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยนาน 10 กว่าปี แรงงานหญิงรายนี้เป็นชาวอำเภอก็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา โดยกำเนิด

แรกเริ่มเธอเข้ามาทำงานบนแพปลาที่จังหวัดจันทบุรี ปัจจุบันทำงานให้กับมูลนิธิแห่งหนึ่ง เธอเล่าว่าเมื่อครั้งเข้ามาทำงานแพปลาแรกๆ ได้เงินค่าแรงวันละ 100 บาท

“เราเห็นว่าเรื่องขัดแย้งตอนนี้มันดังมากในโซเชียล ข่าวในโซเชียลด่ากันไป ด่ากันมา ทำให้แต่ละฝ่ายไม่ยอมกัน เดือดแล้วก็ด่ากัน เหยียบย่ำกัน เราเป็นเพื่อนบ้านกัน เรามาทำงานที่ประเทศไทย เห็นแรงงานส่วนใหญ่ที่เขาได้รับผลกระทบ แม้แต่แรงงานไทยที่ไปทำงานที่กัมพูชาก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน” เธอรู้สึกทุกข์ใจที่เห็นการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย

เธอบอกด้วยว่า ความขัดแย้งที่ลุกลามบานปลายครั้งนี้อยากให้คนที่มีอำนาจได้เจรจากัน แล้วขอให้จบลงด้วยดี

“พวกเราลำบากใจเพราะว่าไม่อยากให้ปัญหานี้เกี่ยวกับแรงงาน เรื่องระหว่างประเทศไม่อยากให้เกิดขึ้น ไม่อยากให้มีสงคราม ไม่อยากให้ทะเลาะกันแบบนี้” หญิงสาว กล่าว เธอยอมรับว่าการเมืองภายในประเทศกัมพูชาเป็นเรื่องที่ประชาชนกัมพูชาไม่มีสิทธิออกความคิดเห็นได้มากนัก

“พวกเราส่วนใหญ่ไม่สามารถเลือกผู้นำประเทศของตัวเองได้อยู่แล้ว ไม่สามารถตัดสินเขาได้ เราไม่สามารถออกความคิดเห็นได้ ตอนอยู่ในกัมพูชา เราออกความคิดเห็นไม่ได้เลย ไม่อย่างนั้นจะโดนติดคุก ประชาชนเสียงไม่ดัง” เธอบอกถึงสภาพที่เคยเผชิญมา

เมื่อมีข่าวว่ารัฐบาลกัมพูชาเตรียมอพยพแรงงานกลับประเทศนั้น เธอมองว่า ถ้ากลับแล้วมีงานทำ มีค่าแรงสูง ก็เป็นเรื่องที่แรงงานควรตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่มีใครบังคับ

“ถ้าเขามีความสามารถจ่ายค่าจ้างคล้ายๆกับนายจ้างไทยก็ดีนะ เราจะได้ไม่ขัดแย้งกันมาก ไม่ต้องด่ากัน” แรงงานหญิงกัมพูชาคนนี้อยู่เมืองไทยนาน 10 กว่าปี เธอบอกว่ารู้สึกอบอุ่นเพราะเจอกลุ่มคนไทยที่ใจดี นับถือกันเหมือนพี่น้อง ซึ่งเป็นความภูมิใจของเธอเป็นอย่างยิ่ง ไม่คิดว่าเรื่องปัญหาชายแดนครั้งนี้จะบานปลายแล้วใหญ่โตขนาดนี้

“ทำให้คน 2 ประเทศเกลียดกัน ทั้งๆที่ประชาชนไม่ได้ขัดแย้งกัน รัฐบาลด่ากันไป ด่ากันมา เราเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่เห็นรู้สึกเช่นนั้นเลย คนไทยที่ดีกับเรา บอกว่าเรามาถูกต้อง เราไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ใคร รักกันเหมือนพี่น้องไม่ทิ้งกันนะ เขาพูดกับเราดีๆ” แรงงานกัมพูชารายนี้ กล่าว เธอบอกอีกว่าเมื่อความขัดแย้งชายแดนเกิดขึ้น ทำให้มีปัญหาหลายอย่างตามมา โดยเฉพาะการถูกเลิกจ้างจากโรงงานบางแห่ง

“เพื่อนๆคนงานกัมพูชาโทรมาเล่าว่า บางที่เขาไม่ให้กินอาหาร เอาแรงงานที่โรงงานออก เขาให้หยุดทันทีที่มีปัญหาชายแดน โรงงานใหญ่ๆใน จ.ระยอง เอาแรงงานกัมพูชาออกโดยไม่บอกเหตุผล นายจ้างบางคนที่ไม่จ่ายค่าแรงให้ พอมีความขัดแย้งชายแดน เขาก็โทรเรียกให้ ตม.มาจับส่งกลับประเทศ มีบางคนที่ป่วย มีบัตรตรวจสุขภาพไปหาหมอ ก็เจอพยาบาลพูดไม่ดี เรารู้สึกน้อยใจ” เธอยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ เมื่อถูกคนไทยด่า ทำได้แต่คิดในใจว่าทุกคนเป็นมนุษย์ด้วยกัน สุดท้ายเราก็ตาย ทำไมเราไม่คิดว่าเป็นมนุษย์ด้วยกัน

“ทำไมต้องเลือกปฏิบัติจากสัญชาติ เชื้อชาติ ความขัดแย้งจากเรื่องที่เราไม่ได้สร้าง เราไม่ได้สร้างเรื่องขึ้นมา เรา ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย รู้สึกเสียใจมาก อยากบอกกับเพื่อนๆแรงงานกัมพูชาว่า ให้ทำหน้าที่ตัวเองให้ดี ถ้ากระทรวงแรงงานไทยหรือนายกรัฐมนตรีไทยไม่ได้ไล่เราออก เราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีๆ อยู่แบบเงียบๆ ไม่อยากให้ขาดรายได้ อยากให้ทำงานสู้ต่อไป”

เมื่อถามว่าอยากจะบอกอะไรกับคนไทยที่รู้สึกเกลียดชังคนกัมพูชาจากปัญหาความขัดแย้งชายแดนครั้งนี้ เธอกล่าวทันทีว่า “อยากให้หยุดด่ากัน หยุดเกลียดพวกเรา ถ้ายังเกลียด เราก็ไม่สามารถห้ามได้ แต่ขอขอบคุณคนไทยส่วนใหญ่ ที่รักเรา เราก็รักเขาเหมือนพี่น้อง”

“ฉันอยู่เมืองไทย 10 กว่าปี ไม่มีใจจะกลับกัมพูชาเลย แม้นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต สัญญาว่าจะรับรองทุกอย่าง หางานให้ทำ แถมสัญญาด้วยว่าจะให้เงินเดือนไม่แพ้นายจ้างคนไทย แต่เราไม่อยากให้มีขัดแย้งกันเลย เชื่อว่าปัญหาคงจบยาก ต่างฝ่ายต่างจะเอาชนะกัน แล้วเราจะอยู่กับปัญหานี้ตลอดไปหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วฉันจะคิดอย่างไรต่อไป” เธอค่อนข้างสับสน และรู้สึกกังวลในสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

“อย่าเกลียดเราเลย”เธอย้ำขอความเห็นใจ “ตั้งแต่เรื่องนี้เกิดขึ้นมา ฉันเสียใจมาก ฉันรักและผูกพันกับคนไทยและประเทศไทยจริงๆ วันนั้นก็มีคนมาว่า ทำไมฉันไม่กลับประเทศไป แต่ฉันคิดว่าเราต้องสู้ ถ้าอยากอยู่ต่อ เดี๋ยวเรื่องมันก็เงียบ” หญิงสาวชาวกัมพูชาพูดอย่างมีความหวัง

ไม่ว่าการเผชิญหน้าเรื่องเขตแดนจะลุกลามหรือหาทางออกได้หรือไม่ เสียงเล็กๆที่ออกจากหัวใจของหญิงแรงงานชาวกัมพูชาในประเทศไทยรายหนึ่งก็อยากตะโกนบอกสังคมไทยว่า “อย่าเกลียดพวกเราเลย”


https://transbordernews.in.th/home/?p=43014