อาจารย์บอกว่ารูปเหล่านี้ถ่ายเมื่อเดือนกันยายน ๒๕๖๗ “เขาบอกว่าสร้างเสร็จแล้ว หลังคามีแค่นี้แหละ และมี ๒ หลัง...อห.” (อีกหน แหะ แหะ) ตั้งชื่อซะวิลิศมาหรา จน อจ. “ก็จินตนาการว่ามันต้องสวยมากกก...
เท่าที่รู้ ตั้งแต่เปิดสภามา ยังไม่เคยได้ใช้งานจริง เพราะมันร้อนมากๆ หลัง ๘ โมงเช้าอย่าได้คิดเดินเข้าไป ท่านอาจกลายเป็นปิ้งไก่หนังกรอบ”
คงไม่มีอะไรมากกว่า นิสัยที่ได้มาจากบรรพบุรุษ บรรพมารดา ของผู้ที่ได้เข้าไปอยู่ในวังวนของตำแหน่งและอาญาสิทธิ ต้องผลาญงบฯ แข่งกันว่าใครจะรสนิยมเลิศล้ำกว่าใคร
แล้วก็ไม่เพียงจับจ่ายเป็นว่าเล่น เงินเชลย ชาวบ้านเป็นคนควักกระเป๋าให้ผ่านระบบภาษีอากร ไอ้ที่สวมรอยผลงานก็มีให้เห็น เงินประกันสังคมชัดที่สุด เพราะมาจากผู้ประกันตนเป็นส่วนใหญ่ คณะกรรมการฯ เป็นผู้จัดการให้กลับไปสู่ประชาชน
เรื่องเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรจาก ๘๐๐ บาท เป็น ๑ พันนี้ ‘ทีมประกันสังคมก้าวหน้า’ รณรงค์กันมาเป็นปี จนผ่านมติบอร์ด แล้วในที่สุดก็ผ่านการอนุมัติของ ครม. แต่ก็ต้องรอกันเป็นเวลา ๙ เดือนเต็มๆ กว่าที่จะได้เริ่มจ่ายงวดแรก ๓๐ เมษา ๖๙
“ผมไม่ได้ติดใจหากรัฐบาลแพทองธารจะนำสิ่งนี้ไปประกาศเป็นผลงานของรัฐบาล แต่อยากให้ทบทวนถึงความเร่งด่วนของนโยบายต่าง ๆ ในอนาคต เพราะการรอคอย ๙ เดือนไม่ใช่สิ่งที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายนี้อย่างแท้จริง” ษัษรัมย์ ระบุ
“ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่ผ่านคณะกรรมการประกันสังคมไปแล้ว และกำลังรอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ” ไม่ว่าจะเป็นการขยายสิทธิประกันว่างงานเมื่อถูกเลิกจ้าง จาก ๗,๕๐๐ บาท เป็น ๙ พัน การชดเชยลาคลอดของแรงงานอิสระ หรือชดเชยทุพพลภาพ ขยายเป็นตลอดชีวิต
เมื่อเสร็จแล้ว “จะนำสิ่งนี้ไปหาเสียงโฆษณา เราไม่ติดอะไร...ผลงานใดที่เกิดขึ้นแล้วแต่จะนำไปสื่อสาร เป็นผลงานร่วมกัน” ไม่ว่าอะไร ขอเพียง “เราก็ขอตรวจสอบอย่างเต็มที่ทุกองคาพยพ” เหมือนเรื่องเงินเด็กที่ ก.แรงงานอืดอาด ล่าช้าเกือบปี
(https://www.facebook.com/sustarum.t/posts/369G6f2kx และ https://www.facebook.com/puangthong.r.pawakapan/posts/HfC6pzW)
