วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 29, 2568

“ที่เขาด่ากันเพราะมันย้อนแย้ง” โหวตรับเปลี่ยนชื่อ สนง.ทรัพย์สินกษัตริย์ เป็น พระคลังข้างที่ แม้ “แค่ เป็น symbolic ทรัพย์สินโอนไปตั้งแต่ปี ๖๑ โน่นแล้ว”

ต่อการที่พรรคประชาชนโหวตเห็นชอบเต็มสูบกับร่าง พรบ.ทรัพย์สินกษัตริย์ ที่ให้เปลี่ยนชื่อ สำนักงาน ทรัพย์สินฯ เป็นพระคลังข้างที่ มีเสียงด่าส้มขรมไปหมด แม้มีบ้างที่ยัง น้ำจิตน้ำใจ ให้อยู่ ประมาณว่าถ้ามันไม่กระทบมากมายใหญ่โต ก็เออออไป

ก่อนอื่นขอเริ่มที่แบบติเพื่อก่อ Piyawat Sattayaphanit บอก “อันนี้ส้มถอยเอง ยอมเอง ทำตัวเอง ก็คงต้องว่าตามตรงว่าห่วยแตก และถ้ายังมีอะไรแบบนี้ตามมาอีกเรื่อยๆ ก็ยอมรับว่าอาจส่งผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนเลือกตั้งครั้งหน้า”

ข้อสำคัญ “ส่วนถ้าใครจะแย้งว่ามันก็แค่ชื่อโอเคครับ งั้นต่อไปถ้ามีใครเสนอเปลี่ยนโลโก้พรรคเป็นสีน้ำเงิน ก็ช่วยอนุมัติให้ด้วยแล้วกัน มันก็แค่สี” เป็นข้อความฝากถึงผู้บริหารพรรคและ ส.ส. ที่ว่าโหวตให้ท่วมท้น จนเสียงหนึ่งของ ลูกเกดไม่ได้หือ

“ที่เขาด่ากันเพราะมันย้อนแย้ง” ดังที่ มายด์Patsaravalee Tanakitvibulpon สรุป แต่ก็มาลงที่ว่า “เขาตัดสินใจอย่างไรก็ให้รับแรงกระแทกไป รับคำวิจารณ์ รับเสียงด่า” ตามที่ Atukkit Sawangsuk รวบรัด อ้างแอบรู้มาแล้วว่าเขาจะเอากันอย่างนั้น

“เพราะเห็นว่าสาระสำคัญของกฎหมายเป็นแค่การเปลี่ยนชื่อ เป็น symbolic ทรัพย์สินโอนไปตั้งแต่ปี ๖๑ โน่นแล้ว” แต่ว่าเพียงการเปลี่ยนชื่อก็มีผลกระทบนะ ดูจากที่ เกษียร เตชะพีระ เขียนถึงว่า “ร่าง พ.ร.บ.นี้ กระทบต่อการเมืองวัฒนธรรมไทย อย่างมีนัยยะสำคัญ”

ศ.ดร.เกษียรใช้ศัพท์วิชาการ เรียกว่า “สัญลักษณ์แห่งจินตนากรรมสภาวะยกเว้นย้อนยุคในนิติรัฐ” หรือก็คือเป็นเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง ไปในทิศทางของ สมบูรณาญาสิทธิราชแบบเดียวกับที่ Pavin Chachavalpongpun บริภาษณ์

อย่างต่ำๆ นี่คือความพยายามครั้งล่าสุดในการลบมรดกของคณะราษฏร์” เธอว์เลยกระทุ้งต่อด้วยว่า “ถ้าการเปลี่ยนโครงสร้างการเมืองไทยคืออเจนด้าที่สำคัญของพรรคประชาชน...ถ้าอีพรรคนี้ต้องการสร้างสังคมที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง

พรรคมึงต้องตั้งคำถามกับการเปลี่ยนชื่อ ไม่ใช่เห็นชอบแบบง่ายๆ” มันจึงไปลงที่หลายๆ คนชี้แนะว่าถ้าจะให้รับได้ อย่างน้อยๆ ต้องงดออกเสียง ทั้งที่ลึกๆ หลายคนนึกอยู่ในใจเช่นเดียวกับ สมศักดิ์ เจียมฯ โฑสต์จะแจ้ง “แม้แต่ชื่อที่คงอยู่ #ก็ผิด

จะต้องเปลี่ยนกลับไปยัง สำนักงานทรัพย์สิน #ส่วน พระมหากษัตริย์ และเปลี่ยนสถานะให้กลับมาเป็น ทรัพย์สมบัติของชาติ ไม่ใช่ ทรัพย์สินของกษัตริย์ดังที่เป็นอยู่”

(https://www.facebook.com/somsakjeam/posts/ck3tuns4WV, https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/BZamCHtoz, https://www.facebook.com/pun.satt/posts/D9kpHLtbX และ https://www.facebook.com/baitongpost/posts/qSzuAwGys)