.....
iLaw
3 days ago
·


.
3 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ #conforall จัดกิจกรรม “1 ปี รัฐธรรมนูญใหม่? : Move On เร่งเดินหน้า ทำสัญญาให้เป็นจริง” ยื่นหนังสือถึงแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกร้องคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ เร่งดำเนินการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภา เพื่อเปิดทางให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
.
หลังจากรวบรวมรายชื่อประชาชน 211,904 รายชื่อ และยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 เพื่อให้ส่งเรื่องต่อไปยัง ครม. เป็นเวลา 1 ปีเต็มแล้ว ที่ประชาชนแสดงเจตจำนงชัดเจนว่ามีความต้องการที่จะให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ โดยสสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด
.
อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาของคณะกรรมการศึกษาประชามติ ที่ครม. ตั้งขึ้นมา และมติ ครม. เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ที่เห็นว่าควรมีการทำประชามติสู่รัฐธรรมนูญใหม่ทั้งสิ้น 3 ครั้ง ทางเครือข่าย conforall เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ตอบรับหรือกล่าวถึงความคืบหน้าของคำถามประชามติที่ประชาชนได้เข้าชื่อเสนอไปแต่อย่างใด นำมาสู่ความกังวลว่าเจตจำนงของประชาชนที่ร่วมเข้าชื่อไปนั้นอาจไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาล การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ถูกลดทอนความสำคัญลง และกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ โดย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนไม่อาจเกิดขึ้นได้ หรือหากเกิดขึ้นก็อาจไม่ทันในระยะเวลา 4 ปีอันเป็นวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน
.
เพื่อให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เกิดขึ้นและมาจากประชาชนอย่างแท้จริง เครือข่ายภาคประชาชนจึงขอให้ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี นำข้อเสนอของภาคประชาชนไปเสนอแก่แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ครม. เมื่อ ครม. ชุดใหม่ได้ปฏิญาณตนและแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ ครม. เร่งเดินหน้าสู่กระบวนการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภาภายใน 15 วัน เพื่อเปิดทางให้มี สสร. จากการเลือกตั้งมาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่
.
เวลา 10.30 น. ธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาธิการรองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรัฐบาลมารับหนังสือจากเครือข่ายภาคประชาชน ธิติวัฐชี้แจงว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัจจุบันได้ผลักดันการแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาเสียงข้างมากสองชั้น (double majority) ซึ่งในขณะนี้ได้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเข้าไปสู่การพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว คาดว่าภายหลังจากแก้ไขกฎหมายประชามตินี้แล้วเสร็จ รัฐบาลจะจัดให้มีการทำประชามติ พร้อมกับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าทันในกำหนดวาระของรัฐบาล
.
ในส่วนของรายละเอียด สสร. รัฐบาลเชื่อว่ารัฐสภาเป็นสถานที่ที่สะท้อนเสียงและการแสดงออกของประชาชนในหลักการและหลักเกณฑ์ของประชาธิปไตยได้อย่างแท้จริงเราจึงมอบหมายให้รัฐสภาเป็นผู้พิจารณาในเรื่องนี้ ธิติวัฐระบุต่อไปว่า รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ และได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนหลายวาระหลายครั้ง จากนี้เราไม่ปฏิเสธที่จะรับฟังความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชน เราน้อมรับและยินดีความคิดเห็นของทุกกลุ่มทุกคนทุกความคิดเห็นที่ประชาชนจะสะท้อนขึ้นมาให้เราได้ยิน

