ดราม่าผู้ก่อตั้ง ‘สารสาสน์’ บอกอะไรถึงอาการ ‘สลิ่ม’ บางอย่างในสังคมไทย ที่กำลังดิ้นกระแด่วเป็นปลาถูกน้ำบากซัดขึ้นไปติดบนถนน หลังจากผู้เป็นพ่อพลั้งปาก “จะมาออมชอมหรือจะมาแบบพวกเดินขบวน...เอาสเปรย์ไปฉีดเหมือนกันเลย”
สาเหตุที่ทัวร์ลงสารสาสน์ ไม่ใช่เพราะเป็นกลุ่มคน “คิ้วไหม้ ขี้อิจฉาริษยา นิสัยไม่ดี” อย่างที่ปู่ พิบูลย์ ยงค์กมล กล่าวหา แต่เหตุหนึ่งเป็นเพราะความหลงใหลใน ‘คุณงามความดี’ ที่ตน “ทำมาทั้งหมด” เสียจนอวดวิเศษพูดสาดเสียใส่นักข่าว
“ใช้หัวแม่ตีนคิดได้ไงว่าควรต้องปิดโรงเรียน...ถ้าผมไม่ดีจริง สารสาสน์ไม่มีถึง ๔๙ สาขา มีนักเรียน ๙ หมื่นกว่าคน ในประเทศไทยมีใครทำได้เหมือนผมบ้าง” ทำได้แต่รักษาไว้ให้คงที่ไม่ได้นี่สิแย่ เวลานี้ปรากฏว่าถึง ๓๖ สาขามีปัญหา ‘คุณภาพเลว’
“นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ระบุ #สารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ผิดปกติตั้งแต่ 'ผอ.โรงเรียน' เพราะตั้งรักษาการไว้นานมาก ยังไม่มีตัวจริง” วีรนันท์ กัณหา รายงาน “รวมไปถึงการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ เพิ่มกว่าห้าหมื่นบาท”
“ครูที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพก็ทำเรื่องผ่อนผันเอา เพราะกระทรวงศึกษาธิการมีกฏให้ผ่อนผันได้ไง...แม้แต่ผมเองเป็นครูมาตั้งแต่อายุ ๑๘ จนป่านนี้ยังไม่มีเลย” ไปลงเอยที่ “เรียกร้องค่าเสียหาย ๒ ล้าน ผมไม่มีให้หรอก ควรรู้จักพอเพียงพอเหมาะพอดี อย่าเกินไป”
รัชกาลที่เก้าได้ยิน ทรงดิ้นแน่ เดี๋ยวนี้ ‘พอเพียง’ หมายถึงอย่าเรียกค่าเสียหายสูงนัก ต้องนับ “คุณงามความดีที่ผมทำมาทั้งหมด” เอาไปหักลบด้วย “พูดไปพูดมา ก็จะเอาเงินแค่นั้นเอง ผมยินดีจ่ายตามจริง รับผิดชอบ ไม่ใช่มาคิดค่าตัว”
จากการถอดเทปสัมภาษณ์รายการ ‘โหนกระแส’ โดย Vacharee Siriwechwiwat สรุปไว้เป็นข้อๆ และแค้ปชั่นย่อความของ Matichon Online - มติชนออนไลน์ แสดงธาตุแท้การเป็น ‘คนดี’ มีอายุเยอะ แต่ขาดจิตสำนึก ‘เสมอภาค’ จึงได้เหน็บ “ผมก็กลัวแล้ว” เห็นคนใส่เสื้อแดงๆ
มาได้ ‘ห้องสืบสวน’ ของสปริงนิวส์ ช่วยพูนช่วยเพิ่มภาพพจน์ให้ทั่นประธานอำนวยการเครือสารสาสน์ดู ‘เห็นคนเป็นคน’ กับเขาหน่อย ยอมรับเหตุร้ายที่เกิดในสาขาราชพฤกษ์ “มันบกพร่องมานาน ส่วนที่บกพร่องก็คือผู้บริหารของเรา มันไม่เอาไหน”
แล้วที่พี่เลี้ยงชายชาวฟิลิปปินส์ “จับเด็กไปขังห้องน้ำ มันทำได้ไง จริงๆ น่ะ เรียกร้องค่าเสียหายไปเลย โรงเรียนก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ ผมยินดีจ่าย ให้มันสมควรตามเนื้อผ้า ยินดีจ่ายครับ” แต่ต้องเอาใบเสร็จมาแสดง
“เมื่อเรียกร้องมาเราก็จะจ่ายเขาไปตามสมควร ไม่ใช่บางคนอยู่ๆ นิดเดียวเรียกสองล้าน โอ้โห มันไม่เกินไปเรอะ...มาอ้างกระทบจิตใจ...อะไรเนี่ย มันพิสูจน์ได้ไหมกระทบขนาดไหน มันไม่มีภูมิคุ้มกันอะไรบ้างเลยเหรอ”
หนักกว่านั้นดันว่าเขา “เกิดมาเป็นเทวดา ใครแตะต้องอะไรไม่ได้เลยเหรอ” แกหมายถึงพ่อแม่เด็กที่ลูกโดนครูพี่เลี้ยงตบหัว แล้วสอนเสียอีก “อันนี้ก็เป็นคิดในแง่บวก ว่าอันนี้นะให้เด็กมันรู้จักประสบการณ์ในแง่ไม่ดีบ้าง”
เออ เอาไว้ใช้กับลูกหลานของทั่นประธานก็แล้วกัน ที่จริงแกต้องการจะหมายความว่า “ไม่ใช่เราไม่รักษา ก็รักษา ในเมื่อมันเกิดมาแล้วจะไปแก้ยังไง ก็ต้องคิดในแง่บวกสิ มันเกิดมาแล้วไปรื้อฟื้นอะไรไม่ได้ มันย้อนหลังไม่ได้หรอก”
ทัวร์ลงไม่พอ มวลชนแห่กันประโคมถล่ม เสียจนลูกๆ ต้องออกมาแก้ต่างให้พ่อ พิสุทธิ์ ยงค์กมล ออกไทยรัฐทีวีขอโทษ ขออภัยขนานใหญ่ บอกพ่อให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ “เสียงไม่ชัด ทำเข้าใจผิด ยืนยันจริงๆ ไม่มีเจตนา”
“ล่าสุดผู้บริหารได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบแล้ว พร้อมรับปากจะแก้ไขทุกเรื่อง พร้อมตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน” แบงค็อคบิซ เครือเนชัว ช่วยโพนทะนาการใช้มธุรสวาจา “ดูคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนนั้นความรู้สึกเหมือนผู้ปกครองทุกคนที่รู้สึกเจ็บที่หัวใจ”
พิสุทธิ์นี่เป็นผู้อำนวยการสาขายาตรา ขณะที่พี่สาวเป็นผู้กำกับดูแลสาขาวิเทศราชพฤกษ์ ที่จนบัดนี้เล่นบทได้ดีไม่พูดอะไรเลย ไม่เช่นนั้นอาจหนักกว่านี้ ขณะที่ผู้เป็นพ่อยังไม่ปลด แต่เตรียมย้ายอย่างเงียบๆ “ให้ไปอยู่ที่อื่น ในเมื่อทำงานไม่เป็นก็อย่ามาเอา”
ดูเหมือนดราม่านี้จะเริ่มคลี่คลายเงียบหายไป เหลือไว้แต่ “ปัญหาของกระทรวงศึกษาฯ ในการดูแลตรวจสอบโรงเรียนเอกชนจนเปิดช่องให้การทำร้าย และละเมิดสิทธิเด็ก” Sunai @sunaibkk ช่วยสะกิด แต่ดูเหมือนเด็กๆ เยาวชนปลดแอกขยับก่อนแล้ว
เตรียมไปเยี่ยม รมว.ศึกษา ที่เก็บปากเงียบมาตลอดดราม่าเรื่องนี้ ปล่อยให้ รมช.ดังอยู่คนเดียว
(https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/900199?aoj= และ https://www.youtube.com/watch?v=BPTfQVh9nvk&feature=share)
