
Pipob Udomittipong
15 hours ago
·
"โดยแท้จริงแล้ว เขมร ลาว และมลายู ไม่ใช่แขนขาอะไรของสยาม เป็นเพียงอิสริยาภรณ์ประดับพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์ อันเป็นประเพณีนิยมในอดีตเท่านั้นเอง ดังนั้นการที่สยามแพ้เกมต้องเสียเมืองขึ้นให้ฝรั่งเศสและอังกฤษ ก็น่าจะเป็นเรื่องธรรมดา ใกล้ๆ กัน เราก็เคยเสียมอญให้พม่ามาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเจ็บแค้น อับอาย หรืออาฆาตกันชั่วลูกชั่วหลาน"
ไม่มีหรอก วาทกรรมเรื่อง “เสียดินแดน” สติมาหน่อย
Akkharaphong Khamkhun
17 hours ago
·
จดหมาย พลเรือเอกถนอม เจริญลาภ
เขียนด้วยลายมือ
ส่งถึง ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
21 มกราคม 2554
กราบเรียนท่านอาจารย์ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
"ขอบคุณท่านอาจารย์ที่กรุณาให้เกียรติเชิญผมไปบรรยายที่จุฬาฯ ในงานสัมมนาวิชาการเรื่องเขตแดนฯ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2554
การไปบรรยายครั้งนี้ ผมเองมีส่วนได้ประโยชน์จากท่านผู้อื่นอยู่มาก แต่ที่ประทับใจคือท่านผู้หนึ่งซึ่งผมไม่ทราบชื่อ ท่านแย้งผมว่าประเทศไทยไม่ได้เสียดินแดนไทย 500,000 ตารางกิโลเมตรให้ฝรั่งเศสและอังกฤษสมัยล่าเมืองนั้น ตามที่ผมว่า แต่เราเสียเมืองขึ้นคือเขมร ลาว และมลายู ต่างหาก
ใช่เลย!
ในสงครามล่าเมืองขึ้นซึ่งเราทำมาก่อนฝรั่ง เพื่อนบ้านโดยรอบเป็นเมืองขึ้นสยามทั้งสิ้นยกเว้นพม่า คำแย้งนี้แทงทะลุมิจฉาทิฐิที่ผมเคยเชื่อยึดถือ เจ็บปวด และอาฆาตว่าเราต้องเสียแขนเสียขาเพื่อรักษาชีวิตในยุคล่าอาณานิคมตามที่สอนกันมาในตำราประวัติศาสตร์
โดยแท้จริงแล้ว เขมร ลาว และมลายู ไม่ใช่แขนขาอะไรของสยาม เป็นเพียงอิสริยาภรณ์ประดับพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์ อันเป็นประเพณีนิยมในอดีตเท่านั้นเอง ดังนั้นการที่สยามแพ้เกมต้องเสียเมืองขึ้นให้ฝรั่งเศสและอังกฤษ ก็น่าจะเป็นเรื่องธรรมดา ใกล้ๆ กัน เราก็เคยเสียมอญให้พม่ามาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเจ็บแค้น อับอาย หรืออาฆาตกันชั่วลูกชั่วหลาน
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝรั่งเศสและอังกฤษก็เสียเมืองขึ้นไป แต่เขาก็พยายามรักษาความสัมพันธ์และมิตรภาพกับประเทศเมืองขึ้นของเขาไว้ ฝรั่งเศสก็ยังช่วยเขมร เมื่อเกิดฟ้องร้องกรณีปราสาทพระวิหารเป็นต้น ผมเปิดดูหนังสือประมวลสนธิสัญญาฯ ของอาจารย์หน้า 264 เป็นแผนที่เซอร์จอนเบาว์ริ่ง เขียนคำอธิบายว่า "แผนที่สยามและประเทศเมืองขึ้น" ผมยังนึกว่าผมน่าจะคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ว่าฝรั่งเขาเขียนว่า ลาว กัมพูชา และมลายู ไม่ใช่เมืองไทย แต่เป็นเมืองขึ้นซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น ต้้องขอบคุณคนที่ลุกขึ้นมาแย้ง
และอีกครั้งขอขอบคุณท่านอาจารย์ที่กรุณาให้เกียรติ หวังว่าในวันหลังจะได้มีโอกาสร่วมงานกับท่านอาจารย์อีก และขอขอบคุณสำหรับเอกสารมากมายหลายฉบับที่อาจารย์กรุณารวบรวมให้"
ด้วยความนับถืออย่างสูง
พลเรือเอกถนอม เจริญลาภ
https://www.facebook.com/pipob.udomittipong/posts/10162634657241649
....
·
จดหมาย พลเรือเอกถนอม เจริญลาภ
เขียนด้วยลายมือ
ส่งถึง ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
21 มกราคม 2554
กราบเรียนท่านอาจารย์ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
"ขอบคุณท่านอาจารย์ที่กรุณาให้เกียรติเชิญผมไปบรรยายที่จุฬาฯ ในงานสัมมนาวิชาการเรื่องเขตแดนฯ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2554
การไปบรรยายครั้งนี้ ผมเองมีส่วนได้ประโยชน์จากท่านผู้อื่นอยู่มาก แต่ที่ประทับใจคือท่านผู้หนึ่งซึ่งผมไม่ทราบชื่อ ท่านแย้งผมว่าประเทศไทยไม่ได้เสียดินแดนไทย 500,000 ตารางกิโลเมตรให้ฝรั่งเศสและอังกฤษสมัยล่าเมืองนั้น ตามที่ผมว่า แต่เราเสียเมืองขึ้นคือเขมร ลาว และมลายู ต่างหาก
ใช่เลย!
ในสงครามล่าเมืองขึ้นซึ่งเราทำมาก่อนฝรั่ง เพื่อนบ้านโดยรอบเป็นเมืองขึ้นสยามทั้งสิ้นยกเว้นพม่า คำแย้งนี้แทงทะลุมิจฉาทิฐิที่ผมเคยเชื่อยึดถือ เจ็บปวด และอาฆาตว่าเราต้องเสียแขนเสียขาเพื่อรักษาชีวิตในยุคล่าอาณานิคมตามที่สอนกันมาในตำราประวัติศาสตร์
โดยแท้จริงแล้ว เขมร ลาว และมลายู ไม่ใช่แขนขาอะไรของสยาม เป็นเพียงอิสริยาภรณ์ประดับพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์ อันเป็นประเพณีนิยมในอดีตเท่านั้นเอง ดังนั้นการที่สยามแพ้เกมต้องเสียเมืองขึ้นให้ฝรั่งเศสและอังกฤษ ก็น่าจะเป็นเรื่องธรรมดา ใกล้ๆ กัน เราก็เคยเสียมอญให้พม่ามาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเจ็บแค้น อับอาย หรืออาฆาตกันชั่วลูกชั่วหลาน
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝรั่งเศสและอังกฤษก็เสียเมืองขึ้นไป แต่เขาก็พยายามรักษาความสัมพันธ์และมิตรภาพกับประเทศเมืองขึ้นของเขาไว้ ฝรั่งเศสก็ยังช่วยเขมร เมื่อเกิดฟ้องร้องกรณีปราสาทพระวิหารเป็นต้น ผมเปิดดูหนังสือประมวลสนธิสัญญาฯ ของอาจารย์หน้า 264 เป็นแผนที่เซอร์จอนเบาว์ริ่ง เขียนคำอธิบายว่า "แผนที่สยามและประเทศเมืองขึ้น" ผมยังนึกว่าผมน่าจะคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ว่าฝรั่งเขาเขียนว่า ลาว กัมพูชา และมลายู ไม่ใช่เมืองไทย แต่เป็นเมืองขึ้นซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น ต้้องขอบคุณคนที่ลุกขึ้นมาแย้ง
และอีกครั้งขอขอบคุณท่านอาจารย์ที่กรุณาให้เกียรติ หวังว่าในวันหลังจะได้มีโอกาสร่วมงานกับท่านอาจารย์อีก และขอขอบคุณสำหรับเอกสารมากมายหลายฉบับที่อาจารย์กรุณารวบรวมให้"
ด้วยความนับถืออย่างสูง
พลเรือเอกถนอม เจริญลาภ
https://www.facebook.com/pipob.udomittipong/posts/10162634657241649
....
Akkharaphong Khamkhun
June 11
·
พระราชดำรัส รัชกาลที่ 5 ทรงในที่ประชุมเสนาบดี
เรื่องทำหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีกับอังกฤษ ร.ศ.128
ของ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ
(จาก ศิลปากร, กันยายน 2519 ปีที่ 20 เล่มที่ 3 หน้า 67-70)
+++++++++++++++++++++++++
ขออัญเชิญพระราชดำรัสโดยคัดมาบางตอน ดังนี้
"...ชั้นต้นต้องเข้าใจว่า พระราชอาณาเขตของกรุงสยามมีสองชั้นคือหัวเมืองชั้นในกับชั้นนอกฤาประเทศราช ส่วนการปกครองแต่ก่อนๆ มาด้วยเหตุที่ทางไปมาลำบาก จึงได้ปล่อยให้หัวเมืองชั้นนอกเปนประเทศราชปกครองตัวเอง เปนแต่ส่งเครื่องบรรณาการ เพราะชนั้นกรุงเทพฯ ไม่ได้ผลประโยชน์อันใดจากหัวเมืองประเทศราชนอกจากบรรณาการเหล่านั้น...." (หน้า 68)
"...ตั้งแต่นี้ไปเปนอันเราไม่มีเมืองประเทศราชอีก เลิกได้หมดทีเดียว ถ้าข้อสัญญาของเราไม่เปนผลแก่การปกครองได้ทั่วพระราชอาณาจักรดังนี้มีอยู่ตราบใดแล้ว เราก็รักษาหัวเมืองไว้ไม่ได้ตราบนั้น คงได้รับความร้อนใจร่ำไป
เขตรแดนทางเมืองนครเสียมราฐที่ต้องปล่อยไป ก็มีเหตุผลคล้ายกันกับที่ได้กล่าวมานี้..." (หน้า 70)
"ไม่มีราชการอันใดจะปฤกษาแล้ว เสด็จขึ้นเวลา 2 ยาม เป็นงดการชุมนุม" (หน้า 70)
++++++++++++++++++++++++++++
โปรดอ่านพระราชดำรัสนี้อีกหลายๆ รอบ ก่อนจะปลุกเรื่องไปบุกกัมพูชาเพื่อยึดเอาดินแดนคืน....