ว่าไปแล้ว กรณีมีคนจับประเด็นการโพสต์ข้อความคุกคามทางเพศต่อ สส.รักชนก ศรีนอก น่าจะเป็นปัญหาผู้ใช้สื่อสังคมเหล่านั้นจริยธรรมตกต่ำ และมาตรฐานสังคมไม่สามารถยกระดับคุณธรรมพวกเขาได้ พูดอีกทีเหมือนว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากกว่า
แต่ถ้าสาวกันไปให้สุด มันมีขอบข่ายของความชั่วร้ายกว้างกว่านั้นมากๆ พวกที่แสดงออกอย่างต่ำช้า ล้วนคลั่ง กัน จอมพลัง อย่างไม่ลืมหูลืมตาอย่างหนึ่ง และหลงตัวเองอย่างผิดๆ ว่าความคิดเห็นแบบพวกตน เป็นความถูกต้องในสังคมไทยๆ นี้
แม้จะมีโพลออนไลน์แห่งหนึ่ง (ของค่ายเนชั่น) ที่ถามว่าใครบ้างเชื่อในสิ่งต่างๆ ที่กันตอบสาธารณะ จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเงินของมูลนิธิในชื่อตนเอง ความสัมพันธ์กับ ธรรมนัส พรหมเผ่า และแม้แต่ที่เขาบอกว่าทหารชายแดนขาดแคลนอาหารและยุทโธปกรณ์
๖๐ กว่าเปอร์เซ็นต์บอกว่า ‘เชื่อ’ มีเพียงยี่สิบกว่าเท่านั้นไม่เชื่อ ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับกันไปทั้งหมด เพราะอะไร เพราะธรรมชาติ หรืออาจเรียกว่าวัฒนธรรมของคนไทยยึดมั่นกับการ “นิ่งเสียตำลึงทอง” แม้จะไม่เห็นด้วย
ซึ่งเป็นความเสียหายอย่างยิ่ง เพราะให้เห็นว่าสังคมไทยโดยรวมยอมให้พวกบ้าคลั่งชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประพฤติปฏิบัติในสิ่งเลวร้าย อย่างเช่นก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคลของ ‘ไอ๊ซ์’ ถึงขนาดข่มเหงน้ำใจในทางสาธารณะด้วยข้อความสถุลๆ
“ไอซ์ เลิกยุ่งการเมืองแล้วมาเป็นเมียกู จะได้พูดน้อยๆ อมอย่างเดียว” แล้วมี “ผู้คนจำนวนมากมาแสดงออกในทำนอง ‘เห็นด้วย’” บ้างว่า “ชอบๆ พี่เด็ดว่ะ” หรือ “สะใจ อมตลอดเลย” และ “พี่ นี่เมียผมนะ” สนุกสนาน ‘สะใจ’ ดังเขาว่านั่นละ
ทั้งๆ ที่มันประจานตนเอง เป็นพวกพึงพอใจในความรุนแรงของวัฒนธรรมข่มขืน ดังที่ ‘Young Pride Club’ เขียนไว้ในบทความของเขาว่า “ยังมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ขาดความรู้ และความเข้าใจ...ในเรื่องสิทธิเนื้อตัวร่างกาย”
แต่ความจริงมันเป็นเรื่องของนิสัย ‘ignorant’ ไม่สนไม่แคร์ ไม่ชอบใช้ปัญญา อันเป็นลักษณะที่ Thicha Nanakorn จัดให้เป็น “มิติด้านมืดของวัฒนธรรม ในสังคมที่ไร้อารยะ” และเป็น “มรดกบาป” ที่ขนบประเพณีอย่างไทยๆ สั่งสมให้มาละมัง
(https://www.facebook.com/thicha.nanakorn.2025/posts/GN9ndBqq, https://www.facebook.com/YoungPrideClub/posts/yCA1SrfF9 และ https://x.com/jjookklong3/status/1981220379718013027?t=MgRP11K)
