นายกฯ ใหม่ประกาศนับหนึ่งรัฐบาล ๑๒๐ วัน เริ่ม ๑ ตุลานี้ ส่วนฝ่ายคุ้ยไม่ฟังเสียงค่อนแคะของฝ่ายแค้น ทำงานตรวจสอบต่อจากที่ทำมาแล้วกว่าสองปี ไม่มีสะอึกหรือสะดุด โดยเฉพาะ สส.ไอ๊ซ์ ลงพื้นที่ไปถึงตรังสำรวจตึกร้าง ผู้รับเหมาทิ้งงานถึง ๒๓ โครงการ
ไม่วายนายแบกรายหนึ่ง @OneUpOnSometime สาดใส่ทันที “สส.บางบอนไปตรัง นี้นอกพื้นที่ไหม ไอ้ฟาย” ก็เลยโดนสวนกลับ “เขาไปตรวจงาน กมธ.โง่ชิบหาย” @decha58972 ให้ความกระจ่างว่า รักชนก ศรีนอก นั้นเป็นโฆษก กมธ.ศึกษาและติดตามการบริหารงบประมาณ
ยิ่งเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบกับความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง ซึ่งไอ๊ซ์เป็นผู้ริเริ่มนำปัญหามาเปิดต่อสาธารณะ เข้าหูเข้าตาประชาชนผู้ประกันตนมากกว่าครั้งใดๆ ก็คือตรวจสอบการบริหารงบประมาณของสำนักงานประกันสังคม
คราวนี้เธอจี้ สปส.เรื่องการจัดสรรงบประมาณด้านไอทีเกือบพันล้านบาท “ได้แก่ โครงการระบบพัฒนาการให้บริการทางการแพทย์ จำนวน ๕๔๘ ล้านบาท” ว่า “ส่อถึง” การใช้เงินประกันสังคมอย่างไม่โปร่งใส รวมไปถึงระบบบันทึกข้อมูลการรักษา
“ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ สปส.ยังไม่ยอมเปิดใช้งาน โดยอ้างว่าติดเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ไม่เป็นความจริง” แล้วยังมี “กรณีระบบดับเพลิง Water mist จำนวน ๗๙ ล้านบาท
สปส.อ้างว่าระบบเดิมที่ใช้มา ๑๐ ปี เก่าแล้วจึงต้องเปลี่ยนใหม่ ทั้งที่ระบบดังกล่าวมีอายุการใช้งานได้ถึง ๒๐-๓๐ ปี” แล้วยัง “ระบบดับเพลิง Water mist จำนวน ๗๙ ล้านบาท สปส.อ้างว่าระบบเดิมที่ใช้มา ๑๐ ปีเก่าแล้ว จึงต้องเปลี่ยนใหม่”
อีกทั้งอ้างว่าบริษัทคู่ค้าไม่ขายสารเคมี NOVEC 1230 แล้ว แต่จากการตรวจสอบของฝ่ายผู้ประกันตน พบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังมีขายอยู่ในท้องตลาด” หรืออย่างกรณีระบบป้องกันความปลอดภัยของ Data Center ของสำนักงานกว่า ๒๐๐ ล้านบาท
“ที่สำคัญคือ ประธานคณะทำงานที่กำหนดเรื่องนี้เป็นอดีตพนักงานขายของบริษัทที่เคยเป็นคู่ค้ากับสำนักงานมาก่อน ยิ่งทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความโปร่งใส” รักชนกเรียกร้องให้ สปส.เปิดเผยรายงานให้ผู้ประกันตนและสาธารณะทราบ
และ “ขอให้ยับยั้งโครงการที่ใช้งบประมาณอย่างไร้เหตุผลในด้าน IT” ไม่เช่นนั้น “หากไม่มีความคืบหน้าจะดำเนินการตามมาตรา ๑๕๗ กับผู้ที่เกี่ยวข้อง”