
ประชาไท Prachatai.com
7 hours ago
·
3 พ.ย. 2568 ที่ จิม ทอมป์สัน อาร์ท เซ็นเตอร์ องค์กร Front Line Defenders จัดงานมอบรางวัล Front Line Defenders Award for Human Rights Defenders at Risk ประจำปี 2025 ให้ อานนท์ นำภา ในฐานะทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนที่มีบทบาทส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน แม้ต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงอันตรายในชีวิต
บรรยากาศวันนี้ มีครอบครัวของอานนท์ นำภา องค์กรสิทธิมนุษยชน ตัวแทนสถานทูต และประชาชนมาร่วมงาน โดยเริ่มจาก อลัน กลาสโกว์ (Alan Glasgow) ผู้อำนวยการของ Front Line Defenders เดินทางมาจากไอร์แลนด์เข้าร่วมด้วย แม้ว่าอานนท์ไม่สามารถเดินทางมารับรางวัลด้วยตัวเองได้ เพราะยังถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
อลันกล่าวปาฐกถา ถึงการคัดเลือกผู้ได้รับปีนี้ว่า การตัดสินใจในแต่ละปีไม่เคยง่ายเลย เพราะในยุคสมัยที่มืดมนนี้ ยังมีผู้คนมากมายที่กล้าลุกขึ้นพูด ออกมาเรียกร้อง และต่อสู้เพื่อสร้างสังคมที่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นทนายความ นักข่าว เกษตรกร นักกิจกรรม ชุมชนชนพื้นเมือง เยาวชน หรือครู พวกเขาทั้งหมดต่างต่อสู้กับอุปสรรคอันใหญ่หลวง การเลือกปฏิบัติที่หยั่งรากลึก และการปราบปรามอย่างรุนแรง เพื่อรักษาความหวังแห่งสิทธิมนุษยชนของทุกคน
อลันยังกล่าวต่อว่าทุกปีผู้ได้รับรางวัลคือผู้ที่ยึดมั่นต่อมาตรฐานสิทธิมนุษยชนและช่วยเหลือผู้อื่น เชื่อมั่นในความเท่าเทียม แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายรูปแบบจนถึงการจับกุมและควบคุมตัวโดยพลการ คุกคามถึงชีวิต และการดำเนินคดี เฉพาะปีที่ผ่านมามีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างน้อย 324 คน ใน 32 ประเทศถูกสังหารแม้ว่าพวกเขาจะทำหน้าที่ด้วยสันติก็ตาม
อลันยังกล่าวแสดงความเสียใจที่อานนท์ไม่สามารถมารับรางวัลได้ด้วยตัวเองเนื่องจากถูกคุมขังจากการทำงานด้านสิทธิมนุษยชน แต่การเฉลิมฉลองยกย่องถึงความกล้าหาญของเขาครั้งนี้ยังเป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากปรากฏแนวโน้มที่ชัดเจนในไทยว่านับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา มีประชาชนเกือบ 2,000 คน รวมถึงเยาวชนมากกว่า 280 คน ถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการชุมนุมโดยสงบ ภายใต้กฎหมายหลายฉบับที่ส่งผลให้เกิด “ความเยือกเย็น” ต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมทางสังคมสถานการณ์นี้สะท้อนถึง การปราบปรามผู้เห็นต่าง และยังมีนักปกป้องสิทธิชาวไทยอีกมากที่ต้องทำงานภายใต้สภาพกดดันจากการใช้กฎหมายดำเนินคดีทางการเมืองทั้งมาตรา 112 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
จากนั้น ปฐมพร แก้วหนู ครอบครัวของ อานนท์ นำภา เป็นตัวแทนขึ้นกล่าวพูดขอบคุณและรับรางวัลแทน ต่อด้วยพูนสุข พูนสุขเจริญ ตัวแทนจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษชน กล่าวถึงอานนท์ปิดท้ายพิธีรับรางวัล
ด้าน ปฐมพร แก้วหนู ได้อ่านจดหมายที่อานนท์ นำภา ฝากข้อความออกมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวขอบคุณสำหรับรางวัลนี้ว่า
“เป็นเกียรติและซาบซึ้งใจอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ มากไปกว่านั้น ผมรู้สึกได้รับพลังอย่างมหาศาลสำหรับการต่อสู้บนเส้นทางข้างหน้า เส้นทางที่มืดมิดกึกก้องไปด้วยเสียงคำรามของปีศาจในนามของสังคมเก่า
ผมและเพื่อนๆ ของผมเกิดและเติบโตในสังคมเก่า ประหนึ่งนกที่เกิดและเติบโตในกรง บรรพบุรุษของเราถูกกดขี่และถูกหลอกลวงด้วยความคิดที่ล้าหลังและไร้เหตุผล อำนาจของสังคมเก่าสร้างโฆษณาชวนเชื่อกล่อมเกลา และหลายครั้งก็บังคับให้เราเชื่อว่ามนุษย์มิได้เกิดมาเท่าเทียมกันหากแต่มีมนุษย์กลุ่มหนึ่งเกิดมาเพื่อเป็นผู้ปกครอง และอีกกลุ่มเป็นผู้ถูกปกครอง
บรรพบุรุษของเราพยายามลุกขึ้นท้าทายและเปลี่ยนแปลงความคิดความเชื่อนั้น พยายามถากถางทาง สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่า ล้มบ้างลุกบ้าง แต่ความพยายามนั้นไม่เคยหยุด ไม่เคยขาดสาย การต่อสู้กับสังคมเก่าได้ถูกส่งไม้ต่อมาจนถึง “รุ่นเรา”
วันนี้ ความพยายามในการเปลี่ยนแปลงสังคมเก่าได้เกิดขึ้นทุกมุมโลก ในยุคที่การกดขี่ย่ามใจ พยายามขยายพื้นที่กินขอบเขตของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กินพื้นที่ในการแสดงออกและการต่อต้านในวิธีอื่น ๆ ด้วยความหวังจะหวนคืนสู่สังคมเก่าและกำจัดสังคมใหม่มิให้ก่อเกิด
ในประเทศผมก็เช่นกัน เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างเด็ดขาด การปราบปรามถูกนำมาใช้ การเข่นฆ่าเอาชีวิต การยัดเยียดข้อหาจับขัง การตัดสิทธิทางการเมืองและการกดให้หมอบกราบต่อสังคมเก่า กลายเป็นภาพที่เห็นเป็นปกติ ทว่าพวกเรา มิได้สยบยอม
เมื่อปี 2563 พวกเราลุกขึ้นสู้ในนาม “ราษฎร 2563″ เพื่อสานต่อการต่อสู้ของบรรพบุรุษ การชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกบนโลกออนไลน์เกิดขึ้นโดยกว้างขวางและแหลมคม ด้วยความเชื่อว่าเสรีภาพและความเสมอภาคจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยการต่อสู้ และด้วยการลุกขึ้นสู้ในครั้งนั้น ผลคือผู้คนในสังคมของผมได้ตื่นจากภาพลวงตาที่สังคมเก่าสร้างขึ้นและใช้กดขี่พวกเรา ระหว่างการต่อสู้ บาดแผลทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น การล้มลงในทุกครั้งทำให้เราทนทานต่อความเจ็บปวดและยืนได้อย่างมั่นคง
รางวัลนี้ไม่ใช่เหรียญตราที่ประดับบนปีกของนก หากแต่เป็นสายลมใต้ปีก เป็นพลังที่หนุนเสริมให้พวกเราโบยบินไปคว้าชัยในที่สุด เข้ามา! เข้ามา! อุปสรรคทั้งหลาย เสียงขู่คำรามทั้งหลาย จงดาหน้าเข้ามา พวกเราจะสู้เพื่อให้มันจบในรุ่นเรา! ด้วยความขอบคุณ เชื่อมั่น และศรัทธา
อานนท์ นำภา เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 8 พฤษภาคม 2568“
อย่างไรก็ตาม อานนท์ นำภา นับเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล Front Line Defenders สำหรับนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ตกอยู่ในความเสี่ยงนี้ ก่อนหน้านี้มีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในทวีปเอเชียหลายคนเคยได้รับรางวัลนี้ ทั้งจากจีน กัมพูชา ศรีลังกา อัฟกานิสถาน ฟิลิปปินส์ เป็นต้น แต่ไม่เคยมีคนไทยได้รางวัลนี้มาก่อน
รางวัลนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักในระดับชาติและนานาชาติต่องานของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งเผชิญกับความเสี่ยงภัยจากการคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ อันเนื่องมาจากการทำงานหรือเคลื่อนไหวของตน และยังเปิดโอกาสให้นักปกป้องสิทธิมนุษยชน ได้สื่อสารประเด็นสิทธิมนุษยชนที่กำลังดำเนินการอยู่
ในปีนี้ รางวัล Front Line Defenders ได้ถูกมอบให้กับนักปกป้องสิทธิมนุษยชนจาก 5 ทวีป ได้แก่ Luc Expedite Zinsou Agblakou จากประเทศเบนิน, Sharifakhon Madrakhimova จากประเทศอุซเบกิสถาน, องค์กร “Mondha” (The Movement for Human Rights, Peace, and Global Justice) จากประเทศโดมินิกันและเฮติ, Mhamed Hali จากเวสเทิร์นซาฮาร่า และอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จากประเทศไทย โดยมีพิธีรับรางวัลที่กรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ไปแล้วเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีพิธีรับรางวัลที่ประเทศไทยอีกครั้งในวันนี้
แมวส้ม ภาพ/รายงาน
อ่านทั้งหมดที่ลิงก์
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1267294422111529&set=a.643704854470492