
Supara Janchitfah
April 30
·
ไปเข้าประชุมมาในฐานะประชาชน
สงสัยว่าจะเป็นการลงทุนศูนย์เหรียญหรือเปล่า เพราะเขามีสิทธิ์ใช้เงินตราของเขา(คนมาลงทุน)ในเขตการลงทุน
ตอนเข้าไปก็ลงชื่อ และในรายเซ็นก็ไม่ลืมคำว่า"ไม่เห็นด้วย" กับ พรบ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ Southern Economic Corridor Act เพราะมีนักกฏหมาย download ตัวพรบ ให้อ่านก่อนไป Supaporn Malailoy
แต่พอไปถึงได้อ่าน พรบ ที่เขาแจกก็มีความแตกต่าง ขอยกตัวอย่าง หมวด5 เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ มาตรา 47 ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษได้รับสิทธิประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามหมวดนี้ตามที่คณะกรรมการกำหนด
1.สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินเพื่อประกอบกิจการหรือห้องชุดเพื่อประกอบกิจการหรือที่อยู่อาศัยตามมาตรา 48
2. สิทธิในการนำคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร
3. สิทธิในการที่จะได้รับการยกเว้นหรือการลดหย่อนภาษีอากร
4.สิทธิในการทำธุรกรรมทางการเงิน
5. สิทธิในการพำนักระยะยาว
6. สิทธิประโยชน์อื่นตามมาตรา 58
มาตรา48 ให้ผู้ประกอบการกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษซึ่งเป็นนิติบุคคลและเป็นคนต่างด้าวตามประมวลกฎหมายที่ดินมีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาตโดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน
ลองคิดดูเถอะท่านผู้ชมที่เขาจะมีสิทธิ์โดยไม่ต้องคิดตามกับกฎหมายไทยเรื่องประมวลกฎหมายที่ดินมันคือ การเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขตหรือเปล่า? แค่ถามค่ะ
มาตรา 52 ในกรณีที่คณะกรรมการนโยบายมีมติให้นำที่ราชพัสดุใช้เพื่อประโยชน์ในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษรวมทั้งนำไปให้เช่าหรือเช่าช่วงถืออำนาจทั้งปวงของกรมธนารักษ์ที่เกี่ยวกับราชพัสดุนั้นอาจเป็นอำนาจของสำนักงาน(เข้าใจว่าสำนักงานของเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้)
มาตรา 53 ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองให้ผู้ประกอบการกิจการส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษได้รับสิทธิตามมาตรา 47 วรรค 2 มีสิทธินำคนต่างด้าวต่อไปนี้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรได้ตามจำนวนและระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตจากเลขาธิการแม้ว่าจะเกินกำหนดจำนวนหรือระยะเวลาที่อยู่ได้ในราชอาณาจักรตามกฎหมายคนเข้าเมือง (น่าสนใจไหมละค่ะ)
มาตรา 54 ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองในฐานะผู้ได้รับอนุญาตเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรตามมาตรา 53 วรรค 1 และ 2 มีสิทธิทำงานตำแหน่งหน้าที่คณะกรรมการนโยบายกำกับโดยไม่ต้องได้รับใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารการจัดการการทำงานของคนต่างด้าวแต่ต้องได้รับอนุญาตจากเลขาธิการทั้งนี้ให้ถือว่าหนังสืออนุญาตของเลขาธิการมีสถานะเป็นใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว( อำนาจเลขาธิการมีมากเหลือเกิน)
มาตรา 55 ให้ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากรตามมาตรา 47 วรรค 3
มาตรา 57 ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษได้รับสิทธิตามมาตรา 47 วรรค 4 มีสิทธิดังต่อไปนี้
1 ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมแลกเปลี่ยนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนตามกฎเกณฑ์เงื่อนไขตามที่คณะกรรมการกำหนด
2 สามารถใช้เงินตราต่างประเทศเพื่อชำระสินค้าหรือบริการผู้ประกอบกิจการในเขตเศรษฐกิจพิเศษตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
ผ่านมาถึงตรงนี้ดิฉันคิดว่ามันเป็นการใช้สิทธิสภาพนอกอาณาเขตใช้เงินตราต่างประเทศในโครงการได้แต่เขามีย่อหน้าหนึ่งนะที่บอกว่า
การกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามวรรค 1 และ 2 ให้คณะกรรมการนโยบายพิจารณาตกลงกับธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน
ถ้าใครอยากอ่าน พระราชบัญญัติฉบับเต็มก็สอบถามสำนักงานนโยบายแผนการขนส่งและการจราจรกระทรวงคมนาคม (สนข)ได้เข้าใจว่าอย่างนั้นนะ
พรบ นี้เบื้องต้นกำหนดไว้ 4 จังหวัดคือ ระนอง ชุมพรสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช
แต่เขามีแผนจะขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆในภาคใต้ถึง 10 จังหวัด
นอกจากความข้องใจเรื่องพระราชบัญญัติแล้วยังมีสิ่งที่อยากถาม สนข
ดิฉันคิดว่ามันเป็นโอกาสที่จะเข้าไปตั้งคำถามสิ่งที่สงสัยแต่ก็ไม่ได้คำตอบว่า สนข ได้คำนวณหรือยังว่าจะมีใครหมายถึงบริษัทเดินเรือมาใช้บริการเท่าไหร่และใครจะใช้บริการกันในการขนขึ้นและลง และการเดินทางจากท่าเรือระนองไปท่าเรือชุมพรนั้นไม่ใช่ฟรีค่ะคุณจะต้องเสียค่าระวางเพิ่มและเวลาเพิ่มด้วยในการขนขึ้นและลง ซึ่งไม่ได้ประหยัดเวลาในการเดินเรือเลยเพราะการขนขึ้นและลงมันเป็นการเสียเวลาเพิ่มมากกว่าความเสียหายกับสินค้ามีมากกว่าด้วย
ท่าเรือระนองเป็นท่าเรือไม่ใช่น้ำลึกแต่เขาจะขุดให้ลึกได้นั่นแหละแต่ปัญหาก็คือระนองเป็นจังหวัดพี่ฝนตก 8 เดือนใน 1 ปีการไหลของน้ำจากภูเขามันก็พัดพาดินและตะกอนลงมาเรื่อยๆการขุดร่องน้ำย่อมมีผลกระทบต่อชาวประมง
การสร้างท่าเรือทั้งอ่าวไทยและทะเลอันดามันล้วนมีผลกระทบกับประมงชายฝั่ง และประมงขนาดกลาง
ในเดือนมีนาคม(ถ้าจำไม่ผิด)มีเรือสินค้าขนาดกลางของพม่ามาจอดทอดสมอที่ปากน้ำกระบุรี จำนวนไม่กี่ลำก็ทำให้ชาวประมงจำนวนหนึ่งไปร้องเรียนต่อหน่วยงายที่เกี่ยวข้อง แต่หน่วยงายนี้ ไม่ take action ชาวประมงกลุ่มนี้(ซึ่งดิฉันก็ไม่รู้จักเขาหรอกนะคะ)ไปร้องเรียนหน่วยทหารเรือ
ลองคิดดูสิว่าถ้ามีเรือสินค้าขนาดใหญ่เข้ามาตอนนี้มันจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ขนาด 40 ล้าน TEU เพราะตอนนี้เขาไม่สร้างเล็ก เขาจะถมทะเลเป็นประมาณ 7,000 ไร่ ชาวประมงจะเดือดร้อนขนาดไหน
ความเสียหายอาจเกิดขึ้นกับเกาะพยามและเกาะเล็กเกาะน้อยอื่นๆที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของระนองที่มีการสำรวจโดยองค์กรภาคประชาสังคมที่ลงไปทำงานที่เกาะพยาม บัณฑิตา อย่างดี พบว่าเฉพาะเกาะพยามนั้นสร้างรายได้ให้การท่องเที่ยวและประชาชนที่เกี่ยวเนื่องทั้งคนจับปลาเจ้าของรีสอร์ท คนเดินเรือเล็กๆที่ส่งนักท่องเที่ยวและภาคบริการอื่นๆในเกาะพยามมันมีมูลค่าถึง 1,200 ล้านต่อปีเพราะนักท่องเที่ยวหนีหนาวมาเที่ยวที่นี่บางคนอยู่ถึง 6 เดือน
Aree Chaisatien ที่ไปเป็นเพื่อน ส่วนWonphen Phetdang ที่เดินมาจากชุมพรเพื่อมางานนี้ เธอบอกไม่เซ็นชื่อ เดี๋ยวเขาไปอ้างว่าเธอเห็นด้วย

https://www.facebook.com/sjanchitfah/posts/23893748143550691
·
ไปเข้าประชุมมาในฐานะประชาชน
สงสัยว่าจะเป็นการลงทุนศูนย์เหรียญหรือเปล่า เพราะเขามีสิทธิ์ใช้เงินตราของเขา(คนมาลงทุน)ในเขตการลงทุน
ตอนเข้าไปก็ลงชื่อ และในรายเซ็นก็ไม่ลืมคำว่า"ไม่เห็นด้วย" กับ พรบ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ Southern Economic Corridor Act เพราะมีนักกฏหมาย download ตัวพรบ ให้อ่านก่อนไป Supaporn Malailoy
แต่พอไปถึงได้อ่าน พรบ ที่เขาแจกก็มีความแตกต่าง ขอยกตัวอย่าง หมวด5 เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ มาตรา 47 ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษได้รับสิทธิประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามหมวดนี้ตามที่คณะกรรมการกำหนด
1.สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินเพื่อประกอบกิจการหรือห้องชุดเพื่อประกอบกิจการหรือที่อยู่อาศัยตามมาตรา 48
2. สิทธิในการนำคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร
3. สิทธิในการที่จะได้รับการยกเว้นหรือการลดหย่อนภาษีอากร
4.สิทธิในการทำธุรกรรมทางการเงิน
5. สิทธิในการพำนักระยะยาว
6. สิทธิประโยชน์อื่นตามมาตรา 58
มาตรา48 ให้ผู้ประกอบการกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษซึ่งเป็นนิติบุคคลและเป็นคนต่างด้าวตามประมวลกฎหมายที่ดินมีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาตโดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน
ลองคิดดูเถอะท่านผู้ชมที่เขาจะมีสิทธิ์โดยไม่ต้องคิดตามกับกฎหมายไทยเรื่องประมวลกฎหมายที่ดินมันคือ การเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขตหรือเปล่า? แค่ถามค่ะ
มาตรา 52 ในกรณีที่คณะกรรมการนโยบายมีมติให้นำที่ราชพัสดุใช้เพื่อประโยชน์ในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษรวมทั้งนำไปให้เช่าหรือเช่าช่วงถืออำนาจทั้งปวงของกรมธนารักษ์ที่เกี่ยวกับราชพัสดุนั้นอาจเป็นอำนาจของสำนักงาน(เข้าใจว่าสำนักงานของเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้)
มาตรา 53 ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองให้ผู้ประกอบการกิจการส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษได้รับสิทธิตามมาตรา 47 วรรค 2 มีสิทธินำคนต่างด้าวต่อไปนี้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรได้ตามจำนวนและระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตจากเลขาธิการแม้ว่าจะเกินกำหนดจำนวนหรือระยะเวลาที่อยู่ได้ในราชอาณาจักรตามกฎหมายคนเข้าเมือง (น่าสนใจไหมละค่ะ)
มาตรา 54 ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองในฐานะผู้ได้รับอนุญาตเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรตามมาตรา 53 วรรค 1 และ 2 มีสิทธิทำงานตำแหน่งหน้าที่คณะกรรมการนโยบายกำกับโดยไม่ต้องได้รับใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารการจัดการการทำงานของคนต่างด้าวแต่ต้องได้รับอนุญาตจากเลขาธิการทั้งนี้ให้ถือว่าหนังสืออนุญาตของเลขาธิการมีสถานะเป็นใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว( อำนาจเลขาธิการมีมากเหลือเกิน)
มาตรา 55 ให้ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากรตามมาตรา 47 วรรค 3
มาตรา 57 ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษได้รับสิทธิตามมาตรา 47 วรรค 4 มีสิทธิดังต่อไปนี้
1 ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมแลกเปลี่ยนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนตามกฎเกณฑ์เงื่อนไขตามที่คณะกรรมการกำหนด
2 สามารถใช้เงินตราต่างประเทศเพื่อชำระสินค้าหรือบริการผู้ประกอบกิจการในเขตเศรษฐกิจพิเศษตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
ผ่านมาถึงตรงนี้ดิฉันคิดว่ามันเป็นการใช้สิทธิสภาพนอกอาณาเขตใช้เงินตราต่างประเทศในโครงการได้แต่เขามีย่อหน้าหนึ่งนะที่บอกว่า
การกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามวรรค 1 และ 2 ให้คณะกรรมการนโยบายพิจารณาตกลงกับธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน
ถ้าใครอยากอ่าน พระราชบัญญัติฉบับเต็มก็สอบถามสำนักงานนโยบายแผนการขนส่งและการจราจรกระทรวงคมนาคม (สนข)ได้เข้าใจว่าอย่างนั้นนะ
พรบ นี้เบื้องต้นกำหนดไว้ 4 จังหวัดคือ ระนอง ชุมพรสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช
แต่เขามีแผนจะขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆในภาคใต้ถึง 10 จังหวัด
นอกจากความข้องใจเรื่องพระราชบัญญัติแล้วยังมีสิ่งที่อยากถาม สนข
ดิฉันคิดว่ามันเป็นโอกาสที่จะเข้าไปตั้งคำถามสิ่งที่สงสัยแต่ก็ไม่ได้คำตอบว่า สนข ได้คำนวณหรือยังว่าจะมีใครหมายถึงบริษัทเดินเรือมาใช้บริการเท่าไหร่และใครจะใช้บริการกันในการขนขึ้นและลง และการเดินทางจากท่าเรือระนองไปท่าเรือชุมพรนั้นไม่ใช่ฟรีค่ะคุณจะต้องเสียค่าระวางเพิ่มและเวลาเพิ่มด้วยในการขนขึ้นและลง ซึ่งไม่ได้ประหยัดเวลาในการเดินเรือเลยเพราะการขนขึ้นและลงมันเป็นการเสียเวลาเพิ่มมากกว่าความเสียหายกับสินค้ามีมากกว่าด้วย
ท่าเรือระนองเป็นท่าเรือไม่ใช่น้ำลึกแต่เขาจะขุดให้ลึกได้นั่นแหละแต่ปัญหาก็คือระนองเป็นจังหวัดพี่ฝนตก 8 เดือนใน 1 ปีการไหลของน้ำจากภูเขามันก็พัดพาดินและตะกอนลงมาเรื่อยๆการขุดร่องน้ำย่อมมีผลกระทบต่อชาวประมง
การสร้างท่าเรือทั้งอ่าวไทยและทะเลอันดามันล้วนมีผลกระทบกับประมงชายฝั่ง และประมงขนาดกลาง
ในเดือนมีนาคม(ถ้าจำไม่ผิด)มีเรือสินค้าขนาดกลางของพม่ามาจอดทอดสมอที่ปากน้ำกระบุรี จำนวนไม่กี่ลำก็ทำให้ชาวประมงจำนวนหนึ่งไปร้องเรียนต่อหน่วยงายที่เกี่ยวข้อง แต่หน่วยงายนี้ ไม่ take action ชาวประมงกลุ่มนี้(ซึ่งดิฉันก็ไม่รู้จักเขาหรอกนะคะ)ไปร้องเรียนหน่วยทหารเรือ
ลองคิดดูสิว่าถ้ามีเรือสินค้าขนาดใหญ่เข้ามาตอนนี้มันจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ขนาด 40 ล้าน TEU เพราะตอนนี้เขาไม่สร้างเล็ก เขาจะถมทะเลเป็นประมาณ 7,000 ไร่ ชาวประมงจะเดือดร้อนขนาดไหน
ความเสียหายอาจเกิดขึ้นกับเกาะพยามและเกาะเล็กเกาะน้อยอื่นๆที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของระนองที่มีการสำรวจโดยองค์กรภาคประชาสังคมที่ลงไปทำงานที่เกาะพยาม บัณฑิตา อย่างดี พบว่าเฉพาะเกาะพยามนั้นสร้างรายได้ให้การท่องเที่ยวและประชาชนที่เกี่ยวเนื่องทั้งคนจับปลาเจ้าของรีสอร์ท คนเดินเรือเล็กๆที่ส่งนักท่องเที่ยวและภาคบริการอื่นๆในเกาะพยามมันมีมูลค่าถึง 1,200 ล้านต่อปีเพราะนักท่องเที่ยวหนีหนาวมาเที่ยวที่นี่บางคนอยู่ถึง 6 เดือน
Aree Chaisatien ที่ไปเป็นเพื่อน ส่วนWonphen Phetdang ที่เดินมาจากชุมพรเพื่อมางานนี้ เธอบอกไม่เซ็นชื่อ เดี๋ยวเขาไปอ้างว่าเธอเห็นด้วย

https://www.facebook.com/sjanchitfah/posts/23893748143550691