วันเสาร์, มกราคม 29, 2565

"ถ้าแกมีลูกจะให้ลูกเข้า รร.แบบไหน" มิตรสหายท่านหนึ่ง กำลังเก็บข้อมูลทำวิทยานิพนธ์ด้านการศึกษา มีข้อสังเกตน่าสนใจเกี่ยวกับการศึกษาในอนาคตมาฝาก อ่านแล้วแอบหดหู่


Dave Brooks
12h ·

มิตรสหายท่านหนึ่ง กำลังเก็บข้อมูลทำวิทยานิพนธ์ด้านการศึกษา มีข้อสังเกตน่าสนใจเกี่ยวกับการศึกษาในอนาคตมาฝาก อ่านแล้วแอบหดหู่
.
จากการสัมภาษณ์ครูและผู้บริหาร รร.ทางเลือก
คุยกับเด็ก และผู้ใหญ่ที่จบ รร.ทางเลือก
คุยกับผู้ปกครองที่ทำโฮมสคูล
ฟังประสบการณ์ผู้ปกครองที่มีลูกจบ รร.อินเตอร์
ฟังบรรดา Edtech startup และคนทำงานเพื่อแก้ปัญหาการศึกษาประเทศนี้คุยกัน
พอได้ข้อมูลมาเยอะๆ ละเจอคำถามดอกเด็ดเข้าไป
"ถ้าแกมีลูกจะให้ลูกเข้า รร.แบบไหน"
คำตอบ ณ ตอนนี้คือ...
ถ้ายังต้องใช้ชีวิตในประเทศนี้ อย่ามีลูกเลยเถอะ สงสารเด็ก
//ไม่ว่าจะระบบไหน ขนาดที่ๆ คิดว่าเป็นทางออกที่ดีแล้ว แต่มันก็ยังทั้งโหดทั้งหดหู่ไปซะทุกทาง
-----------------------------
แต่ถ้ามีลูกแล้ว ตอนนี้คงแนะนำงี้
- ถ้ารวย มีเงินทุนพอ เลือกอินเตอร์ดีๆ (ย้ำ ดีๆ ไม่ใช่ทุกที่ที่มีคุณภาพ ดูคร่าวๆ จากเด็กที่จบไปแล้วว่าสอบเข้ามหาลัย ranking ระดับไหน บางมหาลัยใน ตปท.ชื่อหรูแต่แรงค์ต่ำกว่าเอกชนบ้านเราก็เยอะ) เรียนพิเศษติวจะมีมาช่วงมัธยมหรือเข้ามหาลัย ระหว่างนั้นยังชิวได้ทั้งผู้ปกครองและเด็ก
***แต่*** คุณต้องยอมรับว่าตอนลูกโตขึ้น ลูกจะมีความคิดความเชื่อแบบเด็กอินเตอร์นะ (หลายคนคิดว่าเรื่องเพศน่ะเหรอ เรื่องแค่นั้นมันเอาท์หลุดยุคนานละแม่ ยุคนี้ทุกประเด็นที่ concerned PC, CA, Identity, social awareness และอีกหลายประเด็นทางสังคมที่จะตามมาในอีกสิบยี่สิบปีนี้ แนวคิดมันจะพัฒนาไปไกลจนคุณเป็นผู้ใหญ่หลงยุคถ้าไม่ตามแนวคิดพวกนี้ตั้งแต่ตอนนี้ เพราะค่านิยมทางสังคมมันเปลี่ยนไวขึ้นเป็นกราฟเอ็กซ์โพเนนเชียล อีกยี่สิบปีค่านิยมที่คนรุ่นใหม่ยึดถืออาจจะกลับตาลปัตรจากตอนนี้ก็ได้) หลายครอบครัวพ่อแม่ไม่ทันตั้งรับจุดนี้ ยิ่งถ้าแม่ปรับตัวตามความคิด ค่านิยมของลูกไม่ทัน รับไม่ได้ เกิดปัญหาในครอบครัวตามมาหนักหน่วงตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น บางครอบครัวเลี้ยงลูกตามขนบค่านิยม GenX, GenY แต่ลูกคุณ GenAlpha นะ ถึงเวลาที่โตขึ้น เค้าจะมองโลกตรงข้ามกับที่คุณมองแน่ๆ (เอาแค่เด็ก GenZ ตอนนี้ก็เจอวิกฤตความเครียดหนักกับความสัมพันธ์ในครอบครัวที่พ่อแม่ ignorant กับประเด็นพวกนี้ละ)
ละเตรียมเงินสำหรับต่อมหาลัย ตปท.ไว้ด้วย ปลายทางของเด็กอินเตอร์ในประเทศนี้ยังจำกัดอยู่ และคุณภาพยังสู้ ตปท.ไม่ได้ ตอนนี้เด็กหลักสูตรปกติมาแย่งกันต่อสายอินเตอร์เยอะขึ้นจนแทบจะยึดพื้นที่ละ อินเตอร์ตัวจริงเลยต้องหาทางอื่นที่บียอนด์กว่าคณะอินเตอร์ในประเทศ
- ลดงบลงมา เข้าทางเลือก อนุบาล-ประถม ละดูแนวว่าลูกไปเวย์ไหน ถ้าเป้าหมายลูกไม่ใช่คณะแนววิชาการ ก็ต่อทางเลือกในช่วงมัธยมได้ แต่ถ้าลูกอยากเข้าคณะที่ต้องแข่งกันโหด มีสองทางคือย้ายกลับเข้า รร.วิชาการเน้นๆ หรือเรียนทางเลือกต่อไปแล้วไปติวพิเศษเอา (เลือกทางไหนก็เรียนพิเศษอยู่ดีนั่นแหละ ไม่งั้นไม่รอด)
- มีเวลา แม่บ้านฟูลไทม์ โฮมสคูลเถอะแม่ ละมาคิดอีกทีช่วงจะเข้ามหาลัยเช่นกัน แต่!! รบ.นี้ทำให้การทำโฮมสคูลไม่ง่ายใน ปท.นี้ (ถ้าจิตพ่อแม่ไม่แข็งพอ) ล่าสุดออกกฎหมายบีบ ผปค.ให้ยอมแพ้ละเอาลูกเข้ารร.ซะ
- เข้า รร.รัฐ เอกชน ก็เข้าได้ แต่เตรียมรับความเครียดทั้งแม่ทั้งลูก เพราะหลักสูตรกระทรวงในสิบยี่สิบปีนี้ไม่ตอบโจทย์อนาคตแน่ๆ (ในขณะที่หลักสูตรอื่นเค้าเตรียม 21st Century Skills กันมานานแล้ว) นอกจากจะต้องเรียนพิเศษหนักหน่วงเพื่อให้รอดแล้ว มันต้องมีสกิลเสริมที่จะโผล่มาตอนโตเพื่อให้แข่งกับเด็กจากรร.แนวอื่นได้ เตรียมค่าเรียนพิเศษไว้เยอะๆๆๆๆๆๆ (ถ้าเป้าสูง สถาบันดีๆ ตอนนี้ ม.ปลายบางครอบครัวคือหลักแสนต่อเดือนต่อคน) *คำแนะนำสำหรับพ่อแม่ที่ลูกเรียน รร.เหล่านี้* อย่าเข้าไลน์กรุ๊ปผปค.!!
- ไม่มีเวลา ไม่มีเงิน .......... อยู่ยากละ บ่องตง
หมายเหตุ: ตั้งแต่ช่วงนี้ไป ติวเตอร์สอนพิเศษคุณภาพต่ำจะเกร่อมากถึงมากที่สุด เพราะ demand มันเยอะ ใครๆ ก็ต้องหาที่เรียน เลยปล่อยสอนราคาถูกหรือเป็นแพคเกจ เรียนไปก็แข่งกับเด็กที่จะสอบเข้าสถาบันที่การแข่งขันสูงยากอยู่ดี และถ้าคิดแพงจะสู้กลุ่มที่คุณภาพจริงไม่ได้ เพราะเทรนด์ตอนนี้คือติวเตอร์จบเฉพาะทางสาขานั้นๆ โดยตรง ป.โท-เอก + คนสอนดีกรีจบอินเตอร์หรือ ตปท.เยอะขึ้น (ค่าเรียนก็คูณๆ ไปตามวุฒิแหละ)”
Credit: มิตรสหายท่านหนึ่ง