วันจันทร์, มกราคม 24, 2565

พฤติเวรอีกแล้ว สิ่งเลื้อยคลานที่เรียกว่า ‘ตำหวด’ ส่วนคนเลี้ยง โน่น ไปกู้หน้าให้ป้าบลูไดมอนด์

อัปรีย์กว่านี้ไม่มีแล้วละ ตำรวจไทยยุคที่มีปลอก คอแดงแบบว่าหลังชนหลังพฤติการณ์ก้าวร้าว คุกคาม ทำร้ายประชาชน หลัดๆ “สน.พญาไท แจ้งข้อหา ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ตร.อคฝ. ฐานขับรถประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย” แล้วปล่อยตัวไป

วานนี้ (๒๓ มกรา) ตำรวจคลองสาน มี “ปฏิบัติการ ปล้นอุกอาจ ห้องสมุดเยาวชน ปราศจากหมายค้นตามหลักกฏหมายสากล” นั่นคือ “เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ๕ นาย จาก สน.สมเด็จเจ้าพระยา ยึดหนังสือไปจำนวนหนึ่ง” สุดท้ายเอาไปคืน “อ้างว่าเอาไปเพราะลูกชอบ”

ห้องสมุดดังกล่าวเพิ่งทำพิธีเปิดกันวันก่อนหน้า เรียกชื่อว่า ห้องสมุด 1932 People Space library “ตั้งอยู่ภายในวัดทองนพคุณ เขตคลองสาน ก่อตั้งขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ และยืนยันในเสรีภาพทางวิชาการ” หนังสือชุดทียึดไป เป็น นิทานวาดหวัง

หนังสือสำหรับเด็กเล็กก้าวหน้าเล่มนี้เป็นที่นิยมมากจนต้องพิมพ์เพิ่ม จะว่าตำรวจชอบเลยยึดไปคงไม่ใช่ เพราะตอนที่บุกรุกเข้าไปทำให้บรรณารักษ์ ลัดดา วิวัฒนสุรเวช ตระหนกตกใจอย่างยิ่ง นอกจากเป็นนอกเครื่องแบบไม่มีหมายแล้ว

กิริยาอาการกเลวฬากมากที่สุด “ไอ้สัตว์ เมื่อวานจัดกิจกรรมทำไมตำรวจไม่รับรู้” หนึ่งในกลุ่มสารเลวนั้นตะคอกใส่บรรณารักษ์ แล้วจะมาบอกภายหลังว่า “เราไม่ได้ค้นครับ เราไปก็คุยกับเจ้าหน้าที่ อันนี้ผมไม่ได้เอาไปครับ” ดาบฯ ทองพูล ลือทองจักร์ บอกกับ Pravit Rojanaphruk

นัยว่าต้องเอาไปคืนเพราะนายเห็นข่าวทางโซเชียล จึงถามลูกน้องได้ความว่า “นอกเครื่องแบบไปโดยไม่มีหมายค้นและเอาของไปจริง” แล้วบอกว่าแค่ “เข้าใจผิดกันนิดหน่อย” แม้นว่าที่ทำไป ส. ศิวรักษ์ ซึ่งเป็นหัวแรงจัดตั้งห้องสมุดนี้บอก “ป่าเถื่อนมาก นี่วัดนะ”

แล้วยังเรื่องเก่าที่คาอยู่ สิบตรีหน่วย คฝ.ฆ่าคนตายที่ได้รับการปล่อยตัวไม่ต้องวางหลักประกันนั้น เพื่อนของคุณหมอกระต่ายผู้ตายเผยว่า หลังเกิดเหตุแล้วมีการนำศพไปยังโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถทำการอะไรได้ เป็นศพนิรนามแช่อยู่ถึงสองชั่วโมง

เพราะตำรวจเก็บเอกสารต่างๆ ของผู้ตายเอาไปไว้ที่ สน.อุบเงียบ หน่วยกู้ภัยนำศพไปส่งก็ไม่เห็นเอกสารใดทั้งสิ้น จนกระทั่งทางโรงพยาบาลของคุณหมอเที่ยวโทรตามให้ไปเข้าเวรไม่มีตอบรับ พอไล่เช็คกับหน่วยฉุกเฉินโรงพยาบาลต่างๆ จนไปเจอที่ราชวิถี

เลวไหมนี่ ตำหวด ที่แท้เป็น ตะกวดแล้วคนเลี้ยงสิ่งเลื้อยคลานพวกนี่ โน่น ไปเสนอหน้าแทนคนที่ขมายเพชรสีน้ำเงินเม็ดใหญ่ต้นตระกูลกษัตริย์ซาอุฯ เปิดสัมพันธ์อันดี (สำหรับเค้าละ) กันใหม่ ลืมสิ่งที่แล้วๆ ไป อันทำให้ต้องตัดมิตรกันมา ๓๒ ปี

“ข่าวดี ซาอุดีอาระเบียจะคืนความสัมพันธ์กับไทย...ด้วยการเชิญนายกรัฐมนตรีของไทยไปเยี่ยมกรุงริยาด” ไม่ยักรู้มาก่อนว่า Paisal Puechmongkol อ่านภาษาอาราบิคออก เขาโพสต์ว่า “จะมีการเจรจาดังต่อไปนี้” แรกเลยก็ ไทยจะให้ชาวซาอุฯ เข้าประเทศไม่ต้องวีซ่า

ข้อต่อไป ซาอุฯ ก็จะให้คนไทยกลับไปเป็นแรงงานที่นั่นได้ แต่ต้องผ่านกระบวนการขอวีซ่านะ และข้อที่สาม จะมีการแต่งตั้งเอกอัคราชทูตมาประจำในกรุงเทพฯ อีกครั้ง ส่วนตำแหน่ง อุปทูตซึ่งก่อนปิดสัมพันธ์เมื่อ ๓๐ กว่าปีที่แล้วถูกอุ้มหาย ไม่รู้คราวนี้มีข้อตกลงพิเศษไหม

เอาละ ถึงอย่างนั้นนับว่า ตู่ได้หน้าจากป้า (และลูกของป้า) ไปเยอะแหละ ถึงได้เล่นเพลง ไม่ยอมแพ้ประโคมไว้เมื่อใกล้ถึงวันเดินทางไง แต่ที่ยังไม่ได้ประโคมก็อีกผลงานการต่างประเทศอีกหนึ่งเด้ง ที่ทำไว้กับ ออสซี่โน โน ไม่ใช่การส่งออก แป้ง

จำเรื่องการใช้อำนาจรัฐประหารสั่งปิดเหมืองทองชาตรีของบริษัทอัคราเมื่อหลายปีมาแล้วได้นะ อันทำให้บริษัทแม่ของผู้ทำเหมือง คิงส์เกตในออสเตรเลีย ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ เรียกร้องค่าเสียหาย ๗๕๐ ล้านดอลลาร์

คำฟ้องเมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๐ อ้างว่าไทยมีความผิดตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับออสเตรเลีย ที่มีมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ รัฐบาลไทยภายใต้ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็พยายามเจรจาต่อรองเรื่อยมา บอกกับศาลอนุญาโตฯ ว่าที่จริงไม่ได้สั่งปิด แค่ไม่ต่อใบอนุญาต

ขณะเดียวกันแอบบอกกับคิงส์เกตว่า ไอให้สิทธิพิเศษยูมาสำรวจแร่ทองคำที่จังหวัดเพชรบูรณ์ สัมปทาน ๕ ปี ครอบคลุมพื้นที่เกือบสี่แสนไร่ ในเขตอำเภอชนแดนและอำเภอวังโป่ง แล้วยูถอนฟ้องไอนะ นะ เรื่องนี้ถูกจิราพร สินธุไพร ส.ส.เพื่อไทยปูดในสภาเมื่อต้นปีที่แล้ว

เมื่อวานนี้ อีกอาทิตย์เดียวจะถึงวันประกาศคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ บริษัทคิงส์เกตแถลงข่าวดี (ของเค้าอีกหละ) ว่าได้รับประทานบัตรจากรัฐบาลไทยให้คิงส์เกตประกอบการเหมืองทองชาตรี (ใต้) ๓ แปลง กับเหมืองแร่คว้อตซ์อีก ๑ แปลง

สัมปทานใหม่นี้มีอายุ ๑๐ ปี นับแต่ ๓๑ ธันวา ๖๔ โดยที่ขณะแถลงข่าวนี้ ขั้นตอนต่างๆ ในกระบวนการออกใบอนุญาตเสร็จสรรพเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว เรียกว่าลงมือขุดทองได้ทันที น้ำเสียงในแถลงการณ์คิงส์เกตแฮ้ปปี้มาก

ตั้งแต่ ๒๗ ตุลา ปีที่แล้ว คิงส์เกตกับรัฐบาลไทยนี่ซี้ปึก หนุงหนิงกันนัก ขนาดเกี่ยวก้อยกันไปบอกอนุญาโตตุลาการ ขอให้เลื่อนวันอ่านคำพิพากษาออกไปหน่อยจนถึง ๓๑ มกราที่จะถึงนี้ เพื่อทั้งสองฝ่ายรวบรัดข้อตกลงให้เสร็จทัน

รอดูอาทิตย์หน้า ตู่จะหน้าบานแถลงผลงานทั้งเรื่องกู้หน้าให้ป้าและยับยั้งค่าปรับ ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท (จากการที่นายกฯ โง่ สั่งระงับสัมปทานต่างชาติไม่ดูตาม้าตาเรือ เรื่องพันธะผูกพันกับต่างประเทศ) เอาไปคุยได้ว่าดำเนินรอยตามบุรพกษัตริย์

ยอมเฉือนบางอย่างให้ต่างชาติไป เพื่อจะไม่โดนคุกคามหนัก เอาตัวเองรอดได้ แต่ก็ต้องเจ็บร้อนในส่วนที่เป็นเนื้อนา

(https://www.bbc.com/thai/international-60102863B35s, https://www.matichon.co.th/local/crime/news_3146671, https://www.facebook.com/sanguan.khumrungroj/posts/4768634313221980 และ https://www.facebook.com/536126593072944/posts/5149943991691158/)