วันจันทร์, มกราคม 24, 2565

ประยุทธืแพ้เหมืองทองอัคราแล้ว คิงส์เกตเผยรัฐบาลอนุมัติประทานบัตรเหมืองแร่ 4 แปลง ปูทางสู่การเปิดเหมืองชาตรีอีกครั้ง นี่เป็นการใช้ทรัพยากรร่วมของประชาชนทั้งประเทศ ไปแลกกับการพ้นผิด ไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่ไปใช้ ม.44 ปิดเหมืองแล้วถูกฟ้อง



อัครา : คิงส์เกตระบุรัฐบาลอนุมัติประทานบัตรเหมืองแร่ 4 แปลง ปูทางสู่การเปิดเหมืองชาตรีอีกครั้ง

23 มกราคม 2022
บีบีซีไทย

บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด บริษัทแม่ของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียเมื่อ 19 ม.ค. ว่า รัฐบาลไทยอนุมัติประทานบัตรเหมืองแร่ 4 แปลงแล้ว เป็นการเปิดทางให้ทางบริษัทกลับมาเปิดเหมืองแร่ชาตรีที่ยุติการดำเนินงานไปตั้งแต่ปี 2560 ได้อีกครั้ง

การประกาศดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลไทยและคิงส์เกต กำลังเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศ จนนำไปสู่การตั้งอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศที่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย 25,000 ล้านบาท และกำลังจะมีการอ่านคำพิพากษาในวันที่ 31 มกราคม นี้

คิงส์เกต เผยแพร่ประกาศดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์เมื่อ 19 ม.ค. ว่า "รู้สึกยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้รัฐบาลไทยได้อนุมัติประทานบัตรเหมืองแร่ (mining lease) ที่ยอดเยี่ยม 4 แปลงที่จำเป็นในการเปิดดำเนินการเหมืองแร่ทองคำชาตรีอีกครั้งแล้ว"

โดยในข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่า ประทานบัตรทั้ง 4 แปลงดังกล่าวประกอบด้วย ประทานบัตรเหมืองชาตรีใต้ 3 แปลงและเหมืองแร่ควอตซ์ 1 แปลง ซึ่งเฉพาะเหมืองแร่ควอตซ์รอการอนุมัติมาตั้งแต่ปี 2554 และจำเป็นในการใช้งานบ่อเอ (A Pit) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ยังได้ระบุหมายเลขอ้างอิงของประทานบัตรทั้ง 4 แปลง ดังนี้คือ แปลง (1) 26910/15365 แปลง (2) 26911/15366 แปลง (3) 26912/15367 และแปลง (4) 25528/14714

โดยแต่ละแปลงมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 10 ปี นับจากวันที่ 31 ธ.ค. ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ คิงส์เกต ยังระบุด้วยว่า ขั้นตอนต่าง ๆ ในการขอต่อใบอนุญาตแปรรูปโลหกรรม (Metallurgical Processing Licence--MPL) ได้เสร็จสมบูรณ์และได้รับการอนุมัติแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทอัคราฯ จะไปรับใบรับรองดังกล่าวจากรัฐบาลไทยในอีกไม่นานนี้


ข่าวประชาสัมพันธ์จากเว็บไซต์ของคิงส์เกตฯ

คิงส์เกต ระบุว่า การอนุมัติเหล่านี้เป็นการทำให้เหมืองแร่ทองคำชาตรีจะกลับมาเปิดได้อีกครั้งตามที่ทางบริษัทได้ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2564 ขณะนี้ทางบริษัทกำลังดำเนินการต่าง ๆ ที่จำเป็นในกลับมาเปิดเหมืองรวมถึง การปรับปรุงโรงงานทั้ง 2 แห่ง ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตต่อปีมากกว่า 5 ล้านตัน นอกจากนี้ยังมีการตั้งสำนักงานจัดหาผู้เชี่ยวชาญขึ้นเพื่อสรรหาเจ้าหน้าที่เทคนิคที่มีความสำคัญในการปฏิบัติงานเหมืองแร่

"คิงส์เกตตระหนักถึงความร่วมมือและมิตรไมตรีของรัฐบาลไทยผ่านการอนุมัติใบอนุญาตที่สำคัญเหล่านี้และการกลับมาเปิดเหมืองแร่ทองชาตรีที่ได้รับการปรับปรุง จะมอบโอกาสในการเติบโตแก่บริษัท, ชุมชนท้องถิ่น, ธุรกิจต่าง ๆ และเศรษฐกิจของไทย" คิงส์เกต ระบุในประกาศ

ทั้งนี้ในข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ปีที่แล้วของคิงส์เกต ระบุว่า ทางบริษัทและรัฐบาลไทยได้ร่วมกันร้องขอให้อนุญาโตตุลาการเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 31 ม.ค. นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายขยายเวลาในการหาข้อสรุปการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

เหมืองทองอัครา : "คิงส์เกต" ระบุ เป็นท่าทีเชิงบวกที่รัฐบาลไทยอนุญาตเอากากแร่ทองและเงินออกขายได้
ทองคำ : ราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ไม่นานมานี้ เพราะโควิด-19 หรือว่าทองกำลังจะหมดโลก
คนงานเหมืองจีนเคาะท่อส่งสัญญาณ จนได้รับการช่วยชีวิตหลังติดอยู่ใต้ดินนาน 2 สัปดาห์

ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 25,000 ล้านบาท

ความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2548 เปิดตลาดให้ออสเตรเลียถือหุ้นในธุรกิจเหมืองแร่ได้ถึง 60% และความตกลงนี้ยังกำหนดว่าหากมีข้อพิพาทที่ตกลงกันไม่ได้ก็สามารถร้องขอให้ตั้งอนุญาโตตุลาการมาตัดสินชี้ขาดได้ โดยในระหว่างที่กระบวนการอนุญาโตตุลาการดำเนินไป คู่พิพาทก็ยังสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกันต่อไปได้ด้วย

3 เมษายน 2560 คิงส์เกต ส่งหนังสือแจ้งรัฐบาลไทยว่า รัฐบาลไทยได้ละเมิดความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย และขอใช้สิทธิ์ปรึกษาหารือ หากไม่สามารถหาข้อยุติได้ในเวลา 3 เดือน บริษัท จะขอเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเพื่อระงับข้อพิพาท

จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน 2560 คิงส์เกต ได้ยื่นเรื่องต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยชดใช้ค่าเสียหายกว่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 25,000 ล้านบาท

คิงส์เกต คือใคร



บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด เป็นบริษัทผลิตทองคำที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2531 เว็บไซต์ของบริษัทให้ข้อมูลไว้ว่าเชี่ยวชาญในการสำรวจทองคำ พัฒนาและทำเหมืองแร่

คิงส์เกต มีบริษัทลูกในไทยชื่อว่าบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) โดย ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2556 ถือหุ้นอยู่ 48.2% ส่วนบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีชื่อเดิมว่า อัครา ไมนิ่ง จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งในไทยในปี 2536 บริษัทอัคราฯ ประกอบธุรกิจเหมืองแร่ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้รับใบอนุญาตประทานบัตร 20 ปี ให้ดำเนินกิจการเหมืองแร่ชาตรี ในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์

นับตั้งแต่ปี 2544 เหมืองแร่ชาตรีผลิตทองคำแล้วประมาณ 1.8 ล้านออนซ์ และเงินเกือบ 8 ล้านออนซ์

คำสั่งที่ 72/2559 ตามมาตรา 44

เหมืองแร่ชาตรีดำเนินงานเรื่อยมาจนถึง 13 ธันวาคม 2559 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของ รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 ลงนามในคำสั่งที่ 72/2559 เรื่องการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ โดยอ้างว่าได้มีการร้องเรียนและคัดค้านการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำเนื่องจากการประกอบกิจการดังกล่าวได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน


พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 ลงนามในคำสั่งที่ 72/2559 เรื่องการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ ส่งผลให้เหมืองแร่ชาตรีต้องยุติการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2560

ในคำสั่งนี้ได้มีการสั่งการหลายอย่างรวมถึงระงับการทำเหมือง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2560 เนื้อความส่วนหนึ่งระบุว่า

"ให้ผู้มีอํานาจในการออกอาชญาบัตร ประทานบัตร และใบอนุญาตประกอบโลหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยแร่ ระงับการอนุญาตให้สํารวจและทําเหมืองแร่ทองคํา รวมถึงการต่ออายุประทานบัตรเหมืองแร่ทองคําและการต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมแร่ทองคําไว้"

และ "ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับประทานบัตรและใบอนุญาตต่าง ๆ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคํา ระงับการประกอบกิจการไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2560 เป็นต้นไป"

นอกจากคำสั่งนี้ เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ของคิงส์เกตฯ ยังอ้างว่า รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2559 ว่าจะต่อใบอนุญาตแปรรูปโลหกรรมของบริษัทอัคราฯ ในการทำโรงงานแปรรูปของเหมืองแร่ชาตรี จนถึงสิ้นปี 2559 เท่านั้น แทนที่จะเป็นการต่ออายุ 3 หรือ 5 ปีตามที่เคยทำก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้บริษัทอัคราฯ "ปิดเหมืองแร่ชาตรี" ซึ่งคิงส์เกตฯ เห็นว่า เหมือง "ถูกเวนคืนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย"

คิงส์เกตระบุว่าคำสั่งของรัฐบาลไทยละเมิดความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย และทำให้เกิดข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศขึ้น



เจรจาไกล่เกลี่ย

ในช่วงที่ทั้งสองฝ่ายเจรจากันนั้น ปรากฏว่า เมื่อเดือน พ.ย. 2563 ทางคิงส์เกต ได้เปิดเผยว่า บริษัทอัคราฯ ได้รับอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำครอบคลุมพื้นที่ 397,226 ไร่ในเขตอำเภอชนแดนและอำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ มีอายุ 5 ปี ฝ่ายค้านจึงได้นำเรื่องนี้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในช่วงเดือน ก.พ. ปีที่แล้ว โดย น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเผยเอกสารลับที่ชี้ให้เห็นว่า มีการให้สิทธิกับบริษัท คิงส์เกต ให้สำรวจแร่ทองคำเพิ่มเติม 4 แสนไร่เพื่อแลกกับการถอนฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการยกเลิกสัมปทานครั้งแรก เพราะที่ปรึกษาด้านกฎหมายของไทยระบุว่า ไทยอาจจะแพ้คดี

ในตอนนั้น นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ระบุว่าไม่ได้เอาทรัพยากรประเทศไปให้คิงส์เกตเพื่อแลกกับการถอนฟ้องคดี

นายวิษณุกล่าวว่า "การอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษ เป็นการอนุญาตให้สำรวจแร่ รัฐไม่มีข้อผูกพันว่าจะต้องอนุญาตให้ทำเหมืองแร่ การยื่นคำขออนุญาตเป็นสิทธิของผู้ประกอบการ กรมได้พิจารณาอนุญาตภายใต้กฎหมาย ที่คำนึงถึงการปกป้องคุ้มครองผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ได้นำทรัพยากรของประเทศให้แก่คิงส์เกต เพื่อแลกกับการถอนฟ้องคดี"

ข้อต่อสู้ของไทย

รัฐบาลไทยได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการระงับข้อพิพาทนี้ขึ้น โดยมีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน

กรุงเทพธุรกิจได้รายงานช่วงเดือน ก.ย. 2563 ว่า รัฐบาลไทยได้ยืนยันต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศว่า ไม่เคยออกคำสั่งระงับการดำเนินกิจการของบริษัทอัคราฯ หรือสั่งปิดเหมืองเลย เพียงแต่ไม่ต่อใบอนุญาตประกอบโลหกรรม หรือโรงแต่งแร่ทองคำ และประทานบัตรบางแปลงที่หมดอายุลง เพราะมีข้อร้องเรียนจากชาวบ้านถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง จึงชะลอการต่ออายุจนกว่าจะได้ข้อยุติเรื่องสิ่งแวดล้อม หากมีผลกระทบเกิดขึ้นจริงก็จะให้คิงส์เกตปรับปรุงแก้ไขการประกอบกิจการเหมืองให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2560 เพื่อจะได้มาขออนุญาตประกอบการอีกครั้ง แต่คิงส์เกตยังไม่ดำเนินการขออนุญาตในขณะนั้น


Thuethan Prasobchoke
27m ·
บริษัท Kingsgate ออกจดหมายข่าวฉบับล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมาว่า ได้รับใบอนุญาตสัมปทานเหมืองทองแห่งใหม่จากรัฐบาลไทยจำนวน 4 แปลงสัมปทาน
นี่อาจจะเป็นการใช้ทรัพยากรร่วมของประชาชนทั้งประเทศ ไปแลกกับการพ้นผิด ไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่ไปใช้ ม.44 ปิดเหมืองแล้วถูกฟ้อง
จนต้องเอาผลประโยชน์ชาติไปแลกประโยชน์ส่วนตัวแค่ให้ตัวเองพ้นผิด รักประเทศแบบปลวกรักเสาไม้คือ รักประเทศแบบประยุทธ์
https://www.kingsgate.com.au/approved-for-restart/