วันอังคาร, มกราคม 25, 2565

ตำรวจฟอกขาวให้คนของตัว เหมารวมว่าคนไทยไม่มีวินัยจราจร ไม่ยักพูดประเด็นปัญหา “ตำรวจไม่เคยจับเพราะมันก็ขับแบบเดียวกัน”

ความพยายามฟอกขาวให้คนของตัวไม่ต้องรับโทษฐานฆ่าคนตาย ทำให้วงการตำรวจไทยถลำลึกลงไปใกล้อเวจี ทั้งที่หนีอาญาด้วยการพากันไปบวช (พร้อมกับพ่อ) แม้นว่าพระวินัยบัญญัติไว้แจ่มแจ้ง “คนที่ถูกอาชญาหลวง” ไม่ให้บรรพชา

แต่ผู้บังคับการ อคฝ.รู้ดีกว่า “เผยการตัดสินใจบวช ทำได้ ไม่ได้ผิดอะไร ที่ห้ามคือฆ่าบุพการี หนีหมายจับ แต่นี่ไม่ผิดอะไร เป็นการกระทำโดยประมาท” พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญงานสงฆ์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้

แต่ความชั่วร้ายในการซ่อนความผิดกลับมีมากกว่านั้นเยอะ ไหนจะกรณีเก็บเอกสารส่วนตัวของผู้ตายจากที่เกิดเหตุเอาไปเก็บกักไว้ที่สถานี โรงพยาบาลไม่สามารถแสดงตัวผู้ตายได้ มารู้เอาเมื่อสองชั่วโมงให้หลังเมื่อญาติ พ.ญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล ตามจนเจอ

เนื่องเพราะสิบตรีนรวิช์ บัวดก ชนเสร็จก็บึ่งต่อไปโรงพยาบาลตำรวจทันที ขอรับการตรวจตาแต่ปรากฏว่าหมอเจ้าของไข้ของเขาคือ ‘หมอกระต่าย’ คนที่ตนเองเพิ่งชนตายไปหมาดๆ ทางโรงพยาบาลตามหาตัวให้ไปเข้าเวรจึงรู้ว่าคุณหมอเสียชีวิตแล้ว

ทางโฆษกโรงพยาบาลตำรวจยอมรับชื่นมื่นว่าหมอต่ายปฏิบัติงานที่นั่น กำลังรอการบรรจุเป็นข้าราชการในสังกัด ซ้ำยังได้นัด ส.ต.ต.นรวิชญ์ กลับไปตรวจตากับหมอต่ายในวันจันทร์ ๒๔ มกรา (วานนี้) ที่กลายเป็นวันสวดอภิธรรมศพ อันตรงกับวันเกิดคุณหมอเสียด้วย

ระหว่างการสวดพระอภิธรรม ข่าวโซเชียลบอกว่าครอบครัวทำการจุดเทียนเค้กวันเกิดไปตั้งบูชาศพคุณหมอ แต่เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน ครอบครัวหมอต่ายนี่เขานับถือศาสนาคริสต์ มีกำหนดพิธีไว้อาลัย ที่คริสตจักรนิมิตใหม่ วันเดียวกันเวลา ๖ โมงเย็นนี่

แสดงว่าโรงพยาบาลตำรวจที่เป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรม ก็ไปบังคับครอบงำครอบครัวคุณหมอให้ต้องไปร่วมพิธีพุทธเพื่อเอาหน้าราชการตำรวจอีกหรือนี่ แล้วยังมีคำถามเรื่องการบวชของผู้ที่ฆ่าคนตายและบิดา ว่าพระอุปัชฌาย์จะต้องอาบัติไหม

อจ.Ponson Liengboonlertchai ตั้งข้อสังเกตุไว้ให้คิด ว่าบรรทัดฐานในการบวชนี้เป็นอย่างไรแน่ ในส่วนของ ผบก.อคฝ. ผู้บังคับบัญชาของคนทำผิด ต้องยกไว้ก่อน นอกจากไม่มีวุฒิภาวะทางพระธรรมวินัยพอ แล้วยังเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนอีกต่างหาก

อันดับต่อไปเป็นเรื่องของพยานหลักฐาน มีการพยายามลบล้างข้อเท็จจริงขณะเกิดเหตุ ที่ว่ารถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ดูคาสติซึ่งเป็นชนิดแรงสูง ‘Power bike’ (เมืองไทยเรียกบิ๊กไบ๊ค์) อันเป็นวัสดุที่ใช้กระทำผิดนี้ไม่มีทะเบียน ไม่มีกระจกมองหลัง

เป็นรถที่ทางสถานีตำรวจยึดมาจากเจ้าของ ในข้อหาไม่ได้ต่อทะเบียน เรื่องนี้มีความซับซ้อนอยู่หน่อย ว่าหลังเกิดเหตุทางตำรวจได้ไปทำการจับกุมผู้เป็นเจ้าของรถที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แล้วติดต่อผู้ขายให้จัดหาใบเสร็จการซื้อขายให้

ข่าวเม้าท์ออนไลน์อีกกระแสว่ามีการส่งข้อความโซเชียล ว่าสิบตรีมือบิดมหาภัยซื้อรถบิ๊กไบ้ค์ดูคาสติคันนี้มาแล้ว #ข่าวช่องวัน ระบุ “คนโพสต์ภาพสัญญาซื้อขายที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ทำไว้เมื่อวันที่ ๑๔ ธ.ค. ๖๔ ที่ผ่านมา โดยซื้อรถคันดังกล่าวมาในราคา ๑๑๓,๐๐๐ บาท”

รูปการณ์ประมาณว่า ผู้กระทำผิดประมาทเลินเล่อ ไม่เจตนา หลังสำนึกผิดไปบ่งไปบวชแล้ว อาจถูกศาลตัดสินจำคุกสักสองปี ดูตัวอย่างคดีบิดาของผู้ใช้นาม Nutt Praphanthongchai ซึ่งโพสต์เล่าการเสียชีวิตของบิดาซึ่งเป็นหมอ เมื่อสี่ปีก่อน

“คนชนเป็นทหารเกณฑ์ไม่มีใบขับขี่ ยืมรถ (บิ๊กไบ๊ค์) เพื่อนมา” แซงซ้ายป่ายขวาหลบรถบรรทุกแล้วชน นพ.สุรพล ประพันธ์ทองชัย อย่างแรงขณะข้ามถนนไปซื้ออาหารกลับบ้าน ผู้เคราะห์ร้ายเจ็บหนักอยู่หลายวันก่อนเสียชีวิต ลูกชายเล่าว่าได้ค่าทำขวัญราวสามแสน

ทางการเอาคนทำผิดไปขึ้นศาลทหาร จำเลยรับสารภาพ ศาลตัดสินจำคุก ๒ ปี เห็นว่าได้สำนึกผิดแล้วและไม่เคยต้องคดีมาก่อน ศาลจึงกรุณาให้รอลงอาญา ไม่ต้องติดคุก เลยเป็นมาตรฐานให้คิดกันว่า ชะตาบุญของสิบตรีดูคาสติคงลงเอยประมาณนั้น

อจ.Panat Tasneeyanond ย้อนไปถึงก้นบึ้งของปัญหา “ก็คือไม่มีใครสนใจจะหยุดรถรอให้คนเดินข้ามทางม้าลายผ่านไปก่อนหรอก ส่วนใหญ่จะรู้สึกรำคาญด้วยซ้ำไป...ก็เลยกลายเป็นว่าถึงแม้จะข้ามทางม้าลายก็ต้องรอให้รถวิ่งพ้นไปจนถนนว่างจริงๆ แล้วจึงจะเดินข้ามถึงจะปลอดภัย”

ดูจากคลิป หมอต่ายเธอก็ทำอย่างนั้น เดินเกือบถึงฝั่งแล้ว ไอ้ตำหวดนักบิดที่บอกว่าตามัว เร่งเครื่องไม่บันยะบันยัง Pakawadee Napa ถึงว่า “ไม่อยากจะด่าเหมารวม แต่ ๙๙% mc เป็นงี้จริงๆ...ไม่มีกฏจราจรสำหรับ mc กทม.

แต่รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค ๖ ซึ่งเป็นคณะทำงานแก้ปัญหาจราจร เหมารวมว่า “คนไทยไม่มีวินัยจราจร เราพยายามปรับกฎหมายให้คนมีวินัยมากขึ้น” วิธีแก้ของทั่น ให้แยกใบขับขี่จักรยานยนต์เป็นสองประเภท เล็กกับใหญ่

ค่าธรรมเนียมต่างกัน ค่าปรับต่างกัน แถมเพิ่ม “มาตรการตัดคะแนนความประพฤติ ถ้าคะแนนหมดจะห้ามขับรถ ๙๐ วัน” แต่แหม ไม่ยักพูดถึงประเด็นที่ Pakawadee เธอว่า ไอ้มอไซค์ กทม.เนี่ย ตำรวจไม่เคยจับเพราะ “มันก็ขับแบบเดียวกัน”

(https://www.facebook.com/workpointTODAY/posts/1827034440999159, https://twitter.com/topazine/status/1485647426556145669 และ https://www.facebook.com/sorrayuth9115/posts/499259004894377)