วันอังคาร, ตุลาคม 20, 2563

อีกมิติ #ม็อบปลดแอกรายวัน ก้าวล้ำ ‘ฟื้นฟูเศรษฐกิจรากหญ้า’


โฮ้ย #ม็อบปลดแอกรายวัน เนี่ย นวัตกรรมล้ำหน้าตามไม่ใคร่จะทัน ๑๙ ตุลามีมิติใหม่ ฟื้นฟูเศรษฐกิจรากหญ้า ด้วยอะ จะเรียกเล่นๆ ว่าเป็นช่วงขุดทองของ เบทาโกร ธุรกิจรถเข็นก็ได้นะ เป็นกิจการชาวบ้าน “ล้วนๆ ไม่มีซีพี” เจือปน

ห้าโมงเย็น แยกเกษตรฯ ไม่เพียงเด็กเล็ก เด็กโต เด็กโค่ง แห่กันเข้ายึดพื้นที่ “ทีมงานขายของกินก็มาประจำจุดนี้แล้วเช่นกัน” เดอะแม้ทเท่อร์รายงาน ชิ้นปิ้ง ซาลาเปา เฉาก๊วยอินโด ฯลฯ ทะยอยไปกันเป็นทิวแถว แม้กระทั่งหน้าเรือนจำ รถขายผลไม้ไปรอคนเยี่ยมแกนนำม็อบ

ก็ โอเคร มีบวกย่อมมีลบ ข่าวช่องวันรายงาน “ป้าขายลูกชิ้นหน้าตึกแกรมมี่ โอด เตรียมไว้อย่างเยอะ เพราะคิดว่าม็อบจะมาแยกอโศกอีกในวันนี้ เพราะเห็นคนในตลาดลือกันว่ารถไฟฟ้าจะปิดตอนบ่าย สุดท้ายเหลือบาน” เบอะ

แต่ว่า บ่องตง เศรษฐกิจแกะสะเก็ดอย่างนี้มีอนาคตนะ อย่างน้อยๆ จนกว่าจะไม่มี #ให้มันจบที่รุ่นเรา ในเมื่อวันธรรมดา จันทร์ถึงศุกรทุกเย็น เด็กๆ เขามีนัดกินข้าวกันเป็นพันเป็นหมื่นคน แล้วถ้าเกิด ไอ้ตัวใหญ่ดันออกลายพิเรนทร์อีก อาจเป็นแสน

เห็น แมว อ้วน @NakoooNaru แจ้งว่า #FreeYOUTH เยาวชนปลดแอกไม่เอารัฐประหาร เดี๋ยวนี้สมาชิก ๒ แสน แล้วพวกน้องๆ เค้าไม่ใช่เอาชื่อไปใส่ไว้เฉยๆ แบบผู้ใหญ่เล่นไลน์ น้าค้า เขานัดกัน ‘real time’ รายวินาฑี บอกเมื่อไหร่เมื่อนั้น พลิกผันตลบหลังครบเครื่อง


หนังสือพิมพ์ เมกัน วอชิงตันโพสต์ ถึงได้บอก “ตำรวจไทยวัย ๒๐ ปีคนหนึ่งที่ถูกส่งไปควบคุมม็อบเยาวชน เล่าว่า ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย พวกชุมนุมหายตัวกันไปหมดก่อนเรามาถึง เราจะปราบพวกประท้วงรุ่นนี้โดยใช้กรรมวิธีเดิมๆ ไม่ได้แล้ว”

ยิ่ง ‘I hear too.’ “เจอคนชูสามนิ้วใส่ที่โคราช สวนกลับ ลูกหลานมันอยู่ยังไงไอ้คนชูเนี่ย ลูกหลานมันอยู่ไม่ได้ วันหน้าก็โทษพ่อมันนั่นแหละ” เอ๊า แล้วพ่องเมริง คนที่เป็นต้นตำรับคอยเซ็นรับรัฐประหารล่ะ ตอนนี้ลูกๆ แห่งชาติ มันโดนหลานๆ อารยะขัดขืนกันอานไหม

แล้วยังมีหน้ามาบอก “เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน (ต้อง) ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” อะพิโธ่ ถังซัมจั๋ง พระองค์ท่านทรงมีกองกำลังหลายกองพัน ฝึกอย่างเด็ด อาวุธครบทั้งหนักและเบา ซ้ำทรัพย์สินส่วนพระองค์อีก ๓.๕ พันล้านดอลลาร์

ไม่นับงบประมาณสนับสนุนปีละเป็นแสนล้านบาท เฮียตูบยังจะให้ประชากรหญ้าแห้งไปช่วยกันปกป้องอีกเรอะ แค่พยายามจะทำมาหาแดรกกันก็ยากเร้น บักโกรกบักอานกันจะถ้วนหน้าแล้วหละ มิน่า ถึงได้มีการลำดับความ

เรื่อง ๔๗ “สาเหตุทำให้บ้านเมืองฟอนเฟะ” เกิด “Flash Mob (นักเรียน) นักศึกษาออกมาไล่เผด็จการ” กันจ้าละหวั่น ข้อแรก “ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองประพฤติตัวไม่เหมาะสม ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ สร้างภาพ มือถือสากปากถือศีล พูดอย่างทำอย่าง”


อีกข้อ “บริหารระบบเศรษฐกิจให้ความมั่งคั่งรวมศูนย์ที่เศรษฐีไม่กี่ตระกูล สภาพทางเศรษฐกิจก็ปรากฎชัดว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง” ขณะที่ “มีการกระชับอำนาจฯ เพื่อถอยหลังเข้าสู่ยุคดึกดำบรรพ์ ให้เคร่งครัดเรื่องการหมอบคลาน...แต่ปากบอกว่าเมืองไทย ๔.๐”

ข้อ ๓๑. “ประยุทธ์กล่าวถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนตามประโยคในรัฐธรรมนูญ ซึ่งประโยคนี้มีสาระสำคัญว่าจะไม่ล้มล้างรัฐธรรมนูญ อันเป็นการจงใจไม่กล่าวประโยคนี้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะในอนาคตอาจมีการรัฐประหารอีก”

ข้อ ๔๐. “ใครไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล จะถูกสวนกลับด้วยถ้อยคำที่ว่า ชังชาติ ล้มเจ้า และตะเพิดประชาชนว่า ถ้ามรึงอยู่ประเทศนี้ไม่ได้ก็ให้มรึงไปอยู่ประเทศอื่น” แม้นว่า “ทั้งสามอำนาจของบ้านเมือง...บริหาร...นิติบัญญัติ และ...ตุลาการ เสื่อม หมดความน่าเชื่อถือ”

สุดท้าย ๔๗. “ม็อบ กปปส. ของสุเทพประท้วงได้นาน ๖-๗ เดือน ม็อบพันธมิตรฯ ของสนธิลิ้ม ประท้วงนาน ๕-๖ เดือน ทั้งสองม็อบเชิญชวนให้มีรัฐประหาร เป็นม็อบมีเส้น แต่ม็อบคณะราษฎร ประทั้วง ๑-๒วันถูกสลายการชุมนุม”

(https://m.facebook.com/groups/225550657843210/permalink/1135424576855809/, https://www.facebook.com/Prachatai/posts/10157847102646699, https://www.matichon.co.th/politics/news_2403674 และ https://twitter.com/markscogan/status/1318355700154736642)