มันสะท้อนการเมืองหลังการยุบสภา ที่รัฐบาลรักษาการได้รับแสงไปเต็มๆ จากการที่ อนุทิน ชาญวีรกูล ส่งผ่านอำนาจบริหารจัดการด้านความมั่นคงให้กับกองทัพ สื่อมวลชนหลายสำนักประโคมข่าวยุทธการต่างๆ โจ๋งครึ่มขนาดแม่ทัพบางคนยืนยันว่า
การรบไม่กระทบการเมือง อารมณ์ของประชาชนทั่วไปและความใส่ใจ จึงยังอยู่ที่การเลือกตั้งที่จะมีมาในราวต้นเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมไปกับการเตรียมตัวของพรรคการเมืองต่างๆ ที่น่าจะจัดเรียงลำดับหลักๆ ได้ว่า ภูมิใจไทย ประชาชน เพื่อไทย และประชาธิปัตย์
สรยุทธ สุทัศนะจินดา เผยว่าได้คุยกับแหล่งข่าวของพรรคสีน้ำเงิน “หากภูมิใจไทยชนะเลือกตั้ง อยากจับมือพรรคประชาชน มากกว่าพรรคเพื่อไทย แต่หากพรรคประชาชนชนะเป็นอันดับ ๑ ภูมิใจไทยจะไม่เข้าร่วมรัฐบาล และอาจจะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยแข่งตั้งรัฐบาลแทน”
เช่นนี้น่าจะตีความได้ว่า ภูมิใจไทยเห็นพรรคประชาชน จากที่ร่วมเอ็มโอเอกันมาสองสามเดือน แล้วว่าเที่ยงตรงและซื่อสัตย์ หรือนัยหนึ่ง “ว่านอนสอนง่าย” หากทำงานด้วยกันอีกจะราบรื่นและสะดวกโยธินกว่า ไปดีลกับเพื่อไทยหรือประชาธิปัตย์
ข้อแม้อยู่ที่ว่าพรรคประชาชนจะเล่นด้วยอีกไหม ที่ผ่านมา ภท.แสดงชัดแล้วว่า “ไว้ใจไม่ได้” ส่วนเพื่อไทยหากยังคงทำตัวเป็นพี่เอื้อย ทั้งๆ ที่คาดหมายกันว่าเที่ยวนี้ยังน่าสงสัยจะเอาชนะ ปชป.ได้หรือเปล่า ปชน.อาจตัดสินใจไปเป็นฝ่ายค้านอีกครั้งก็ได้
ในกรณีที่พรรคประชาชนมาเป็นอันดับ ๑ แต่จำนวน สส.ไม่มากถึงขนาดท่วมท้น แน่ละภูมิใจไทยไม่อยากร่วมรัฐบาลด้วย เพราะคราวนี้ ปชน.จะต้องเรียกร้องให้ ภท.อยู่ในกรอบประชาธิปไตยและจริยธรรมเสียจน ภท.รับไม่ได้
สำหรับเพื่อไทยนั้นพร้อมที่จะไปร่วมรัฐบาลกับภูมิใจไทยได้อยู่แล้ว เป็นคู่ดีลที่สมบัติแบ่งกันชม ขนม (เค้ก) แบ่งกันกินสบายมาก แบบนี้ ปชน.คงจะรับเป็นฝ่ายค้านด้วยความเต็มใจ ได้สร้างผลงานการตรวจสอบเป็นสองเท่าทวีคูณ เลือกตั้งครั้งต่อไป ‘แลนด์สไล้ด์’ แน่นอน
(https://x.com/MorningNewsTV3/status/1999346833588683209, https://x.com/MatichonOnline/status/1999682979791274430 และ https://x.com/thestandardth/status/1999711343902097597)
