นั่นมาจาก ลินธิภรณ์ วรินวัชรโรจน์ รองเลขาฯ เพื่อไทย แถมด้วย ขัตติยา สวัสดิผล บอกการอภิปรายไม่ไว้วางใจควรใช้เพื่อ ‘ตัดไฟแต่ต้นลม’ ไม่ใช่ปล่อยให้ลุกลามแล้วค่อยตามแก้ นั้นก็มีคนไปเม้นต์จนได้ (Kang Kiet) ว่า
“เอ้า งั้นพรรคเธอก็ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยสิ รออะไรอ่ะ” ซึ่งพอดีมีกูรู Thanapol Eawsakul อธิบายเสริมว่า “วีธีที่พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งง่ายมากเลยครับ คือยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอนุทิน ด้วย ๒ หัวข้อก็ได้ เขากระโดง (กับ) ฮั้ว สว.” ไง
“เอาข้อมูลเก่าก็ได้ ไม้ต้องหาเพิ่มเติม แล้วให้พรรคประชาชนโหวตสนับสนุนรัฐบาลอนุทิน (ถึงแม้ว่าเหตุผลพรรคประชาชนจะให้รัฐธรรมนูญเสร็จภายใน MOA คนก็ไม่รับฟังหรอกนอกจาก (ยันว่า) พรรคประชาชนอุ้มรัฐบาลทุจริต)”
ถ้าอย่างนั้น ต่อไปเสียงหนุนพรรคประชาชนก็ไม่เหมือนเดิม “คำถามคือว่า แล้วพรรคเพื่อไทยมีเสียงในมือมากกว่า ๑๐๐ เสียง รออะไรอยู่ ถึงไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบายอนุทินเสียที” เออ ใช่สิ หรือว่ารอให้วิกฤตเสียก่อน ค่อยเล่น (งาน)
คราวนี้ลองไปฟังฟาก ปชน.บ้างว่าวิกฤตที่ใครๆ ว่า จนทำให้ต้องเปิดอภิปรายเองคืออย่างไร จากปากของพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรค เขาย้อนข้อมูลเดิม “เหตุผลที่เราตัดสินใจทำข้อตกลง MOA ให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ก็เพื่อให้เราในฐานะฝ่ายค้าน มีกลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ” เพื่อให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ไม่บิดพริ้วได้ สองเรื่อง “๑.ยุบสภาภายในสี่เดือน และ ๒.แก้ไข รธน.หมวด ๑๕/๑ เพื่อเปิดทางสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่”
ดังนั้น สส.ไอติมว่า “ในขั้นต่ำ” ถ้านายกฯ อนุทิน ไม่ยุบสภาเมื่อครบสี่เดือน วันที่ ๓๑ มกรา ๖๙ และ/หรือ “ หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด ๑๕/๑ ไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาภายในสิ้นปี 2568...เราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที”
แม้กระนั้น เงื่อนไขข้างต้นก็ไม่ใช่การตีเช็คเปล่าให้รัฐบาลอนุทินบริหารประเทศตามอำเภอใจ “ในห้วงเวลาระหว่างทางจากวันนี้จนถึงสิ้นปี - หากรัฐบาลดำเนินนโยบาย ใช้อำนาจรัฐ หรือแสดงออกให้เห็นถึงพฤติกรรม
ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนและประเทศอย่างหนัก...พรรคประชาชนก็พร้อมจะใช้ทุกกลไก (รวมถึงกลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ) ในการตรวจสอบรัฐบาลอนุทิน” เช่นกัน
(https://www.facebook.com/thai.udd.news/posts/6cTDqdc9m, https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/VZWNNCra1G และ https://www.facebook.com/photo/?fbid=25344512795188887&set=pcb.25344513641855469)
