
การกระทำทางการเมืองของ "อีลอน มัสก์" ส่งผลต่อธุรกิจเทสลารุนแรงกว่าต่อตัวเขาอย่างไร
ธีโอ เลกเกตต์
Role,ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
20 มีนาคม 2025
"นี่คือรถครอบครัว ที่พวกเราใช้มาแล้ว 3 ปี และมันยอดเยี่ยมอย่างที่ฝันไว้เลย" เบน คิลบีย์ กล่าวขณะพาผู้สื่อข่าวชมเทสลา โมเดล Y สีขาวมุกสุดเงางามของเขา
เบนเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าตัวยง เขาเป็นเจ้าของบริษัทด้านการสื่อสารที่สนับสนุนธุรกิจที่ยั่งยืนในสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม เขากำลังจะขายรถคันนี้ เพราะเขาไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงกับการกระทำของอีลอน มัสก์ โดยเฉพาะการปลดพนักงานของรัฐบาลสหรัฐฯ
"ผมไม่ชอบการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย หรือการทำอะไรโดยปราศจากความเมตตา" เขากล่าว "มีวิธีจัดการที่ไม่จำเป็นต้องทำให้ใครถูกกีดกันหรือถูกดูถูก ผมไม่ชอบการเหยียดหยามผู้อื่น"
เบนเป็นส่วนหนึ่งของกระแสต่อต้านมัสก์ที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่มัสก์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากรมประสิทธิภาพการใช้จ่ายภาครัฐ (Department for Government Efficiency - DOGE) ซึ่งมีหน้าที่ตัดลดงบประมาณรัฐบาลกลาง

เบน คิลบีย์ ยืนอยู่ข้าง ๆ รถเทสลาของเขา พร้อมกล่าวว่า ต้อง "ปล่อย" รถยนต์คันนี้ "ไปแล้ว" เพราะเขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของมัสก์
มัสก์ยังมีพฤติกรรมในเชิงแทรกแซงเกี่ยวกับการเมืองในต่างประเทศด้วย เขาปรากฏตัวผ่านวิดีโอที่การชุมนุมของพรรคฝ่ายขวาจัดอย่าง "Alternative für Deutschland" [อาจแปลเป็นภาษาไทยว่า พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี] หรือ AfD ก่อนการเลือกตั้งรัฐสภาเยอรมนี และยังโจมตีนักการเมืองอังกฤษ รวมถึงนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ด้วย
สำหรับบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับมุมมองของเขา การกระทำทั้งหมดนี้ถือเป็น "สิ่งที่มากเกินไป"
มีการประท้วงหน้าศูนย์จำหน่ายรถยนต์เทสลากว่าสิบแห่ง ทั้งในสหรัฐฯ แคนาดา สหราชอาณาจักร เยอรมนี และโปรตุเกส
แม้ว่าการประท้วงส่วนใหญ่จะเป็นไปอย่างสงบ แต่ก็มีกรณีที่ศูนย์บริการ สถานีชาร์จ และรถยนต์เทสลาถูกทำให้เสียหาย ในฝรั่งเศสและเยอรมนี มีเหตุการณ์เผารถยนต์เทสลาหลายคัน
ส่วนในสหรัฐฯ รถยนต์ไซเบอร์ทรัค (Cybertruck) ซึ่งเป็นรถกระบะโลหะดีไซน์มุมเหลี่ยมของเทสลา กลายเป็นเป้าหมายของกระแสต่อต้านมัสก์ โดยมีการเผยแพร่วิดีโอบนโซเชียลมีเดียที่แสดงให้เห็นว่า รถถูกพ่นสัญลักษณ์นาซี ถูกทิ้งขยะใส่ หรือแม้กระทั่งถูกใช้เป็นแท่นเล่นสเก็ตบอร์ด

ภาพประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนอยู่ข้าง ๆ รถเทสลาบริเวณด้านหน้าทำเนียบขาว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาปกป้องเทสลาอย่างรวดเร็ว โดยอนุญาตให้บริษัทนำรถไปโชว์ที่ทำเนียบขาว และเขายังให้คำมั่นว่าจะซื้อรถยนต์ของเทสลา พร้อมทั้งระบุว่าการใช้ความรุนแรงต่อศูนย์บริการเทสลาเทียบเท่ากับ "การก่อการร้ายในประเทศ"
มัสก์ยังตอบโต้เรื่องนี้อย่างชัดเจน โดยกล่าวในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับสถานีโทรทัศน์ Fox News ว่า "ระดับของความรุนแรงนี้บ้าคลั่งและผิดอย่างร้ายแรง เทสลาเป็นเพียงบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่สมควรถูกโจมตีอย่างโหดร้ายเช่นนี้"
สิ่งที่ยากจะวัดได้คือ ผลกระทบทั้งหมดนี้ส่งผลต่อธุรกิจของเทสลามากเพียงใด และแนวคิดทางการเมืองของมัสก์ รวมถึงบทบาทของเขาในรัฐบาลของทรัมป์ มีผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์และทำให้กลุ่มผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าแบบดั้งเดิมหันหลังให้กับบริษัทหรือไม่
หากเป็นเช่นนั้น เทสลาจะสามารถต่อยอดความสำเร็จในอดีตได้หรือไม่ ในขณะที่มัสก์ยังคงเป็นผู้นำของบริษัท
ผู้นำที่มีบุคลิกโดดเด่นเกินไป
เมื่อราวสองทศวรรษก่อน เทสลาเป็นเพียงสตาร์ทอัพเล็ก ๆ ในซิลิคอนวัลเลย์ มีพนักงานไม่กี่คน กับความฝันอันยิ่งใหญ่ที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมยานยนต์ ปัจจุบัน เทสลากลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงสุดในตลาดโลกที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมด้วยโรงงานขนาดใหญ่ในหลายประเทศ อีกทั้งยังได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นบริษัทที่พิสูจน์ให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้าสามารถมีสมรรถนะสูง ทรงพลัง สนุก และใช้งานได้จริง
มัสก์ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของบริษัท ได้ช่วยผลักดันเทสลาให้ก้าวไปข้างหน้าตลอดมา นับตั้งแต่ที่เขาเข้าร่วมบริษัทในปี 2004 ในฐานะประธานกรรมการและผู้ลงทุนหลัก สี่ปีให้หลัง เขาได้ดำรงตำแหน่งซีอีโอ และนำบริษัทเติบโตสู่ความโดดเด่นจนถึงปัจจุบัน
"เทสลาเป็นผู้บุกเบิก" สเตฟานี วาลเดซ สตรีตี ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์อุตสาหกรรมของบริษัทการตลาดและซอฟต์แวร์ยานยนต์ค็อกซ์ ออโตโมทีฟ (Cox Automotive) กล่าว "พวกเขาทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถยนต์กระแสหลักได้ กระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นลงทุนในตลาดนี้ และสร้างการรับรู้ที่กว้างขวาง"
ครั้งหนึ่ง รถยนต์ไฟฟ้าเคยถูกมองว่าเป็นเพียงยานพาหนะที่เชื่องช้า ไม่น่าตื่นเต้น และไม่มีประสิทธิภาพ โดยมีระยะทางขับขี่ต่อการชาร์จที่จำกัด แต่รถยนต์ Tesla Model S ซึ่งเปิดตัวในปี 2012 กลับมาพร้อมกับสมรรถนะระดับรถสปอร์ต และสามารถวิ่งได้มากกว่า 400 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นี่ช่วยเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์ไฟฟ้า และเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทสลา
ปัจจุบัน เทสลาไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังลงทุนมหาศาลในระบบขับขี่อัตโนมัติ โดยมีเป้าหมายสร้างกองทัพรถแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxis) นอกจากนี้ บริษัทยังขยายธุรกิจด้านการจัดเก็บพลังงานอย่างรวดเร็ว และกำลังพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์อเนกประสงค์ชื่อ Optimus
มัสก์กลายเป็นตัวแทนของแบรนด์ที่เขาสร้างขึ้น เช่นเดียวกับสตีฟ จ็อบส์ ผู้ล่วงลับแห่งแอปเปิล เขาปรากฏตัวอย่างต่อเนื่องในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์และอีเวนต์สำคัญของบริษัท พร้อมกับฐานแฟนคลับที่ภักดีจากกลุ่มผู้ที่หลงใหลในรถยนต์ไฟฟ้า
ทว่าในช่วงหลังมานี้ บุคคลที่เคยเป็นไอคอนด้านเทคโนโลยีที่ยั่งยืน กลับเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากมุมมองทางการเมืองของเขา ในขณะที่เขากำลังขยายอิทธิพลผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเองอย่าง X เทสลาเองก็กำลังเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
"การกระทำของมัสก์ส่งผลร้ายต่อเทสลาอย่างแน่นอน"
แม้ว่า Model Y จะเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกเมื่อปีที่แล้ว แต่ยอดขายโดยรวมของเทสลากลับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ โดยลดลงจาก 1.81 ล้านคัน เหลือ 1.79 ล้านคัน
แม้ตัวเลขนี้จะถือว่าเล็กน้อย และเทสลายังคงรักษาตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงสุดในโลกไว้ได้ แต่สำหรับธุรกิจที่เน้นการเติบโตเป็นหลัก สัญญาณดังกล่าวถือว่าน่ากังวล นอกจากนี้ กำไรของบริษัทในปีที่ผ่านมาก็ลดลงเช่นกัน
ปี 2025 นี้ บริษัทก็เริ่มต้นได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะในตลาดยุโรป ซึ่งยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในเดือน ม.ค. ลดลง 45% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2024
แนวโน้มขาลงยังคงดำเนินต่อไปในตลาดหลักอื่น ๆ ของยุโรปและออสเตรเลียในเดือน ก.พ. เว้นเพียงแต่สหราชอาณาจักรที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 21%
ขณะเดียวกัน การส่งออกรถยนต์เทสลาที่ผลิตในจีน ซึ่งมุ่งเป้าสู่ทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ก็ลดลงมากกว่า 49% ในเดือนเดียวกัน

รถยนต์เทสลา Model Y เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในโลกเมื่อปีที่แล้ว
เมื่อต้นเดือน มี.ค. โจเซฟ สแปก นักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีทของธนาคารสวิส USB ได้เผยแพร่รายงานการวิเคราะห์ โดยคาดการณ์ว่ายอดขายทั่วโลกของเทสลาในปีนี้จะลดลง 5% ซึ่งขัดแย้งกับการคาดการณ์ของตลาดที่มองว่ายอดขายจะเติบโต 10% การคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นของเทสลาร่วงลง 15% ในวันเดียว และเมื่อนับรวมตั้งแต่ต้นปี ราคาหุ้นได้ลดลงไปแล้ว 40%
ยอดขายสามารถลดลงได้จากหลายปัจจัย แต่การวิจัยของบริษัทติดตามภาพลักษณ์แบรนด์ Morning Consult Intelligence ชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมของมัสก์ส่งผลกระทบต่อเทสลาโดยตรง โดยเฉพาะในสหภาพยุโรปและแคนาดา แม้ว่าจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดใหญ่ที่สุดของบริษัท จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
ในสหรัฐฯ สถานการณ์ซับซ้อนกว่ามาก เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากสนับสนุนการลดงบประมาณภาครัฐที่ดำเนินการโดย DOGE อย่างไรก็ตาม รายงานยังระบุว่า "มัสก์อาจกำลังทำให้กลุ่มผู้บริโภคชาวอเมริกันที่มีแนวโน้มจะซื้อรถเทสลาเปลี่ยนใจไปเลือกแบรนด์อื่น" โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูง ซึ่งเคยพิจารณาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ปัจจุบันเทสลาถูกจัดอันดับต่ำกว่าคู่แข่งเมื่อเทียบกับปีก่อน
เทสลาไม่ได้ตอบคำถามของบีบีซีเกี่ยวกับยอดขายที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าปัญหาของเทสลาไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องภาพลักษณ์ของซีอีโอเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ลึกกว่านั้น
รถยนต์รุ่นใหม่ที่ดูล้าสมัย ขณะที่มีการแข่งขันจากต่างประเทศเพิ่ม
ก่อนอื่นต้องพูดถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของเทสลา ซึ่งเคยเป็นนวัตกรรมล้ำสมัย แต่ตอนนี้กลับดูไม่น่าตื่นเต้นอีกต่อไป Model S ที่เคยปฏิวัติวงการ ถูกวางขายมาตั้งแต่ปี 2012 ขณะที่ Model X เปิดตัวมาแล้วตั้งแต่ปี 2015 แม้แต่ Model 3 และ Model Y ซึ่งเปิดตัวในภายหลังและเป็นรุ่นที่มีราคาจับต้องได้มากขึ้น ก็เริ่มดูล้าสมัยเมื่อเทียบกับตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ
"ถ้าดูจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ของพวกเขา เทสลายังไม่มีโมเดลใหม่ที่น่าตื่นเต้นเลย ยกเว้น Cybertruck ซึ่งเป็นรถเฉพาะกลุ่ม" สเตฟานี วาลเดซ สตรีตี กล่าว "พวกเขาปรับปรุง Model Y บ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ และตอนนี้มีการแข่งขันในตลาดเยอะมาก"
ศาสตราจารย์ปีเตอร์ เวลส์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ เห็นด้วยกับมุมมองนี้ "เรายังไม่เห็นนวัตกรรมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเทสลาในระดับที่อีลอน มัสก์ควรให้ความสำคัญ และผมคิดว่านี่เป็นปัญหาใหญ่ของพวกเขา"
ตอนนี้มีการแข่งขันที่รุนแรงจากหลายทิศทาง เพราะผู้ผลิตรถยนต์ค่ายเดิม ๆ เริ่มลงทุนมหาศาลในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เช่น เกีย (Kia) และฮุนได (Hyundai) จากเกาหลีใต้ ซึ่งกำลังสร้างชื่อในด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูง
ขณะเดียวกัน แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ารายใหม่จากจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว BYD เป็นหนึ่งในบริษัทที่ขยายตลาดอย่างรวดเร็ว ด้วยรถยนต์ที่มีสมรรถนะดีในราคาต่ำ ขณะที่ Xpeng และ Nio มุ่งเน้นไปที่ตลาดรถหรูและเทคโนโลยีล้ำสมัย
"จีนมีแรงจูงใจและเงินอุดหนุนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ยอดเยี่ยมมาก" วาลเดซ สตรีตี กล่าว "เราจะเห็นได้ว่าแบรนด์จีน โดยเฉพาะ BYD เติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่ในจีน แต่ยังขยายไปยังตลาดโลกด้วย ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามสำคัญ ไม่ใช่แค่กับเทสลา แต่รวมถึงผู้ผลิตรายอื่นด้วย"
ความรุนแรงของการแข่งขันนี้เห็นได้ชัดในช่วงกลางเดือน มี.ค. เมื่อ BYD ประกาศว่าพวกเขาได้พัฒนาระบบชาร์จแบตเตอรีเร็วพิเศษ ซึ่งสามารถชาร์จพลังงานสำหรับระยะทาง ประมาณ 400 กิโลเมตร ภายในเวลาเพียง 5 นาที ซึ่งเร็วกว่าระบบ Supercharger ของเทสลาอย่างมาก
คำถามต่อรถแท็กซี่ไร้คนขับ
ความคิดเห็นของมัสก์ระหว่างการประชุมรายงานผลประกอบการของเทสลาชี้ให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับประเด็นอื่นมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องยานยนต์ไร้คนขับ
ในเดือน ม.ค. เขาอ้างว่าเทสลาจะให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxi) ในรัฐเท็กซัสภายในเดือน มิ.ย. อย่างไรก็ตาม คำกล่าวนี้ถูกตั้งข้อสงสัยจากนักวิเคราะห์หลายคน เนื่องจากมัสก์เคยให้คำมั่นสัญญาในลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้ว
ตัวอย่างเช่น ในปี 2019 มัสก์เคยประกาศว่า ภายในหนึ่งปี จะมีรถเทสลาจำนวนหนึ่งล้านคันที่สามารถทำหน้าที่เป็น robotaxis ได้ อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบัน ระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ หรือ Full Self-Driving (FSD) ของเทสลาที่ยังจำหน่ายอยู่ยังคงเป็นระบบที่ต้องให้ผู้ขับขี่จับพวงมาลัยและให้ความสนใจตลอดเวลา
"ทุก ๆ ปี เราจะได้รับคำสัญญาใหม่จากอีลอน มัสก์เกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับของเขาว่าจะเปิดตัวในไม่ช้า ปัญหาก็คือ พวกมันดูเหมือนจะไม่สามารถหา 'มุมถนน' ที่จะเลี้ยวออกมาได้เลย" เจย์ แนกลีย์ จากบริษัทที่ปรึกษาด้านยานยนต์ Redspy กล่าว
มัสก์กำลังทำงานหลายอย่างมากเกินไปหรือไม่ ?
อาจกล่าวได้ว่า เทสลากำลังต้องการผู้นำที่แข็งแกร่งในเวลานี้ เพราะไม่ว่ามัสก์จะมีแนวคิดทางการเมืองเช่นไร เขากำลังรับผิดชอบงานหลายอย่างพร้อม ๆ กัน
นอกจากดำรงตำแหน่งซีอีโอของเทสลาแล้ว เขายังเป็นเจ้าของหรือผู้บริหารธุรกิจอื่น ๆ อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X บริษัทปัญญาประดิษฐ์ xAI และ บริษัทเอกชนทางด้านธุรกิจการขนส่งทางอวกาศ SpaceX ซึ่งเพิ่งประสบความล้มเหลวจากการปล่อยจรวด Starship ครั้งล่าสุดถึงสองครั้งติดต่อกัน
เมื่อถูกถามในการสัมภาษณ์ล่าสุดกับรายการ Fox Business ว่า เขาสามารถจัดการงานทั้งหมดนี้ควบคู่ไปกับตำแหน่งใหม่ในรัฐบาลได้อย่างไร มัสก์ตอบว่า "ด้วยความยากลำบากอย่างมาก"

มัสก์เปิดตัวรถ Cybertruck ในปี 2019
"เป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าในปัจจุบัน มัสก์ยังคงบริหารเทสลาอย่างใกล้ชิดแค่ไหน" ศ.ปีเตอร์ เวลส์ กล่าว
"ถ้าเขายังคงเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องสำคัญ เช่น การกำหนดตำแหน่งผลิตภัณฑ์และสถานที่ตั้งโรงงาน นั่นหมายความว่าการตัดสินใจเหล่านั้นจะต้องถูกต้อง และผมคิดว่าเทสลาต้องการคนที่ทุ่มเทเต็มร้อยให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์จริง ๆ เพื่อทำให้แน่ใจว่าการตัดสินใจเหล่านั้นเป็นไปอย่างถูกต้อง"
ตั้งแต่มัสก์เข้าร่วมเทสลาในปี 2004 ตำแหน่งของเขายังคงแข็งแกร่งและไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในขณะนี้ เขายังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท ด้วยสัดส่วนหุ้น 13% ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 95,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สัดส่วนการถือหุ้นของมัสก์ใกล้เคียงกับการถือหุ้นรวมกันของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนอย่าง แวนการด์ (Vanguard) และ แบล็กร๊อค (BlackRock) ขณะที่สถาบันการเงินอื่น ๆ เช่น สเตท สตีท แบงก์ (State Street Bank) และ มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ถือหุ้นในปริมาณที่น้อยกว่า
สำหรับนักลงทุนเหล่านั้น การร่วงลงของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นข่าวร้ายแต่ราคาหุ้นของเทสลายังคงสูงกว่าปีที่แล้วเกือบ 30% ในความเป็นจริง การลดลงครั้งล่าสุดเพียงแค่ลบล้างการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาหุ้นที่เกิดขึ้นทันทีหลังการเลือกตั้ง ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดของเทสลาเกือบ เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
เสียงเรียกร้องให้มีผู้นำคนใหม่
ปัจจุบัน เทสลายังคงมีมูลค่าบริษัทสูงกว่ารายได้ถึง 100 เท่า ซึ่งมากกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่าง ฟอร์ด, เจเนอรัล มอเตอร์ส และโตโยต้า อย่างมหาศาล สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงตั้งความหวังไว้กับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัท
"เทสลากำลังถูกประเมินมูลค่าในฐานะบริษัทที่อาจจะครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งชัดเจนว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากการแข่งขันที่แข็งแกร่งจากผู้ผลิตจีน หรืออาจถูกคาดหวังให้เป็นผู้นำในตลาดรถแท็กซี่ไร้คนขับและระบบขับขี่อัตโนมัติ" เจย์ แนกลีย์ กล่าว
ขณะนี้ ยังไม่มีนักลงทุนรายใหญ่รายใดออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเปลี่ยนแปลงผู้นำบริษัท แม้ว่าในสัปดาห์นี้ รอสส์ เกอร์เบอร์ นักลงทุนระยะยาวที่กลายมาเป็นนักวิจารณ์เสียงดัง จะออกมาเรียกร้องให้มัสก์ลงจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การเปลี่ยนผู้นำอาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเทสลาในตอนนี้
"การมีซีอีโอคนใหม่จะช่วยลดผลกระทบด้านลบที่เกิดจากมัสก์ ขจัดปัญหาความขัดแย้งทางผลประโยชน์เกี่ยวกับตำแหน่งของเขาใน DOGE และเปิดโอกาสให้ซีอีโอที่ทุ่มเทสามารถโฟกัสกับการบริหารบริษัทได้อย่างเต็มที่" มัทเธียส ชมิดท์ จาก Schmidt Automotive Research กล่าว
ศ.ปีเตอร์ เวลส์ เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยระบุว่า "นี่คือทิศทางที่ชัดเจนที่สุดในขณะนี้ เทสลาต้องการผู้นำที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ คนที่รู้วิธีบริหารธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ และนำพาบริษัทไปในทิศทางที่ถูกต้อง เทสลาจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว"
https://www.bbc.com/thai/articles/czx7qwl6qqgo
·
การประท้วงต่ออีลอน มัสก์ ซึ่งกำลังมีบทบาทสำคัญในรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้ประท้วงต่างใช้ศูนย์จำหน่ายรถยนต์ของบริษัทเทสลา รวมถึงโรงงาน เป็นสถานที่ที่พวกเขาไปยืนถือป้ายข้อความแสดงความไม่พอใจ
.
การประท้วงเกิดขึ้นผ่านการรณรงค์ในชื่อว่า Tesla Takedown หรือแปลได้ว่า ”ล้มเทสลา“ ซึ่งมีบ่อยครั้งขึ้นในช่วงต้นเดือน มี.ค. ทั้งในสหรัฐฯ แคนาดา สหราชอาณาจักร เยอรมนี และโปรตุเกส แม้ว่าการประท้วงส่วนใหญ่จะเป็นไปอย่างสงบ แต่ก็มีกรณีที่ศูนย์บริการ สถานีชาร์จ และรถยนต์เทสลาถูกทำให้เสียหาย ในฝรั่งเศสและเยอรมนี มีเหตุการณ์เผารถยนต์เทสลาหลายคันด้วย
.
นี่คือผลพวงการกระทำทางการเมืองของอีลอน มัสก์ ย้อนอ่านบทวิเคราะห์ว่ามันส่งผลต่อธุรกิจเทสลารุนแรงกว่าต่อตัวเขาอย่างไรได้ที่นี่: https://bbc.in/41N25V2
https://www.bbc.com/thai/articles/czx7qwl6qqgo
การประท้วงต่ออีลอน มัสก์ ซึ่งกำลังมีบทบาทสำคัญในรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้ประท้วงต่างใช้ศูนย์จำหน่ายรถยนต์ของบริษัทเทสลา รวมถึงโรงงาน เป็นสถานที่ที่พวกเขาไปยืนถือป้ายข้อความแสดงความไม่พอใจ
.
การประท้วงเกิดขึ้นผ่านการรณรงค์ในชื่อว่า Tesla Takedown หรือแปลได้ว่า ”ล้มเทสลา“ ซึ่งมีบ่อยครั้งขึ้นในช่วงต้นเดือน มี.ค. ทั้งในสหรัฐฯ แคนาดา สหราชอาณาจักร เยอรมนี และโปรตุเกส แม้ว่าการประท้วงส่วนใหญ่จะเป็นไปอย่างสงบ แต่ก็มีกรณีที่ศูนย์บริการ สถานีชาร์จ และรถยนต์เทสลาถูกทำให้เสียหาย ในฝรั่งเศสและเยอรมนี มีเหตุการณ์เผารถยนต์เทสลาหลายคันด้วย
.
นี่คือผลพวงการกระทำทางการเมืองของอีลอน มัสก์ ย้อนอ่านบทวิเคราะห์ว่ามันส่งผลต่อธุรกิจเทสลารุนแรงกว่าต่อตัวเขาอย่างไรได้ที่นี่: https://bbc.in/41N25V2
https://www.bbc.com/thai/articles/czx7qwl6qqgo