วันศุกร์, มกราคม 03, 2568

ฝุ่น พีเอ็ม ๒.๕ มาแล้วนะ ‘แผนฉุกเฉิน’ แก้ปัญหาฝุ่น อันเป็นวาระแห่งชาติจะออกได้กี่โมง พ้นเส้นตายที่ศาลปกครองให้ไว้ มาแล้ว ๒๐ วัน

เข้าปีใหม่เต็มตัว ก็เจอฝุ่น พีเอ็ม ๒.๕ กันละนะ กรุงเทพฯ เริ่มแล้ว เชียงใหม่กำลังตามมา รัฐบาล แม้วอิ๊งประกาศว่าแผนกำจัดฝุ่นจิ๋วเป็นวาระแห่งชาติ แต่ แผนฉุกเฉินแก้ปัญหาฝุ่นยังไม่ออกมา แม้นว่าคำสั่งศาลปกครองให้ต้องเสร็จตั้งแต่ ๑๒ ธันวานั่นแล้ว

เมื่อ ๑๒ กันยา ๖๗ “ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น โดยไม่ต้องรอจนกว่าคดีจะถึงที่สุด” ตามคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นเมื่อ ๑๙ มกรา ๖๗

นั่นเป็นคดี ฝุ่นภาคเหนือ ที่ศาลฯ มีคำสั่งให้ “นายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จัดทำ แผนฉุกเฉินเพื่อป้องกัน ควบคุม แก้ไข บรรเทา หรือระงับภยันตรายอันเกิดจากฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเกินกว่าค่ามาตรฐานในภาคเหนืออย่างเร่งด่วน”

ซึ่งให้เวลาดำเนินการ ๙๐ วัน แต่ผ่านเส้นตายมาแล้ว ๒๐ วัน ไม่มีทีท่าว่ามาตรการฉุกเฉินดังกล่าวจะออกได้เมื่อไร เนื่องจาก “ปัจจุบันเรื่องอยู่ในระหว่างการรอลงนาม ของผู้บังคับบัญชากรมควบคุมมลพิษ” และมิอาจทราบว่ากี่โมงการเซ็นชื่อจะมีได้

ในขณะที่ แผนฝุ่นระดับชาติที่ประกาศใช้กันมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๒ ก็สิ้นสุดไปแล้วพร้อมกับวันสิ้นปี ๒๕๖๗ ปัญหาขณะนี้คือ “ภาครัฐไม่ได้ทำให้ประชาชนเห็นว่าสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในระดับใดที่รัฐจะเรียกว่าฉุกเฉิน” และแผนการรับมือจริงๆ เป็นเช่นไร

กรีนพีซ ประเทศไทย ระบุว่า การยื่นอุทธรณ์ของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานนั้น แสดงถึงความไม่จริงใจต่อการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ที่คุกคามสุขภาพของคนเหนืออย่างรุนแรง”

วัชลาวลี คำบุญเรือง ทนายความจากมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) ผู้รับผิดชอบคดีภาคเหนือ ปริวิตกว่า “เวลาที่ฝุ่นภาคเหนือมา มันไม่ได้มาในระดับสีแดงหรือสีส้ม แต่มาระดับสีม่วง แล้วก็ฝุ่นข้ามแดน” อีก เขาต่างตั้งตารอมาตรการของรัฐบาลอยู่

แผนรับมือฝุ่นในปี ๖๘ ของรัฐบาล “มุ่งเป้าไปที่การลดการเกิดไฟในป่า มาตรการทางสาธารณสุขรองรับคนป่วยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการรับมือในเชิงป้องกันมากกว่ามาตรการในภาวะฉุกเฉิน” แล้วมาตรการนี้ก็ไม่มีการรับฟังความคิดเห็นจากคนในท้องที่

โดยเฉพาะในเรื่องระบบแจ้งเตือนไม่แข็งขันพอ ทนายคดีฝุ่นภาคเหนือแนะว่า “รัฐบาลควรจะมีการแจ้งเตือนที่เข้มข้นมากขึ้น ทำให้คนตะหนักได้ว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินจริงๆ” เหล่านี้จะอ้างว่ามีแผนแล้ว แต่มันจะออกมาไม่ทันฝุ่นละสิ

เนื่องเพราะผู้บังคับบัญชาหน่วยงานรับผิดชอบไม่เซ็นประกาศใช้เสียที

(ภาพประกอบจากการชุมนุมลงชื่อร่วมยื่นฟ้องคดีฝุ่นภาคเหนือเมื่อปี ๖๖ ซึ่งมีผู้ลงชื่อ ๗๒๗ คน  https://prachatai.com/journal/2025/01/111895)