https://www.facebook.com/watch/?v=1641202196609739&t=0
.....
The Reporters
5 hours ago
·
JUSTICE:"ท่านเป็นเจ้าของประเทศนี้ทั้งประเทศ เหมือนทุกคน เป็นสิทธิของท่านที่ฟ้องได้ มีกฏหมายให้ทำได้ ท่านไม่ใช่พลเมืองชั้น 2 ท่านเป็นพลเมืองไทย เหมือนทุกคนในประเทศนี้"
นายทรงพล พันธุ์วิชาติกุล ผู้พิพากษาศาลจ.นราธิวาส กล่าวกับญาติคดีตากใบ ในห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดนราธิวาส
วันที่ 28 ตุลาคม 2567 ศาลจังหวัดนราธิวาส โดยนายทรงพล พันธุ์วิชาติกุล ผู้พากษาศาลจังหวัดนราธิวาส และองค์คณะผู้พิพากษาที่มี นายธนธร ผดุงธิติฐ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 9 ได้อ่านคำสั่งคดีหมายเลขแดงที่ อ 1516/2567 ระหว่าง น.ส.ฟาตีฮะ ปะจูกูเล็ง กับพวกรวม 48 คน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี จำเลยที่ 1 กับ พวกรวม 9 คน
ศาลจังหวัดนราธิวาส ระบุว่า คดีนี้มีการกระทำผิดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ศาลได้ประทับรับฟ้องจำเลย 7 คน ในฐานความผิดข้อหาฆ่าผู้อื่น,พยายามฆ่า และกักขังห่วงเหนี่ยว ตามประมวลกฏหมายอาญา มีอัตราโทษ ประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต และ จำคุก 20 ปี แม้ศาลประทับรับฟ้องอยู่ในกำหนดอายุความ 20 ปี และศาลได้ออกหมายจับไปแล้ว จำเลยหลบหนี ไม่สามารถจับตัวได้ จนครบกำหนดอายุความ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 สิทธิการฟ้องคดีจึงไม่สามารถทำได้อีก จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
ผู้พิพากษา ศาลจังหวัดนราธิวาส ย้ำว่า คดีนี้ศาลไม่ได้ยกฟ้อง เพราะได้ไต่สวนพยานแล้ว มีคำสั่งประทับรับฟ้องว่าว่าคดีมีมูล มีข้อเท็จจริงปรากฏแล้วว่า จำเลยอาจจะกระทำความผิดได้ แต่กระบวนการไม่พอให้ลงโทษได้
"เมื่อจำเลยไม่มาศาล ก็ต้องจำหน่ายคดี จำเลยจึงไม่ใช่ "ผู้บริสุทธิ์ 100 % จึงน่าเสียดายที่ตัวจำเลยไม่ได้มาแก้ต่างในศาล ถ้าจะกลบมาพูดอะไรหลังจากที่คดีหมดอายุความผ่านไปแล้ว ก็ทำไม่ได้แล้ว และการที่จำเลยไม่มาศาล ศาลก็ไม่ทราบได้ เพราะได้มีการออกหมายจับไปแล้ว"
ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนราธิวาส กล่าวด้วยว่า แม้จะจำหน่ายคดีไปแล้ว โจทก์สามารถค้นหาความจริง ตามกระบวนการสันติภาพ และตามช่องทางอื่น ตามที่จะมีช่องทางได้ เพราะการเยียวยาในรูปแบบที่ไม่ใช่ตัวเงิน คือการเยียวยาความทรงจำ ก็สามารถทำได้
"คดีนี้เป็นบทเรียนที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคมได้ จากที่ไม่ค่อยมีผู้สื่อข่าวมาทำข่าว แต่ตอนนี้ไม่มีสำนักข่าวไหนที่ไม่พูดถึงคดีนี้ จึงได้สร้างคุณูปการในทางกฏหมายหลายเรื่อง เช่น ความคุ้มกันของ สส.ที่สภาผู้แทนราษฏร ตอบมาแล้วว่า สส.ไม่มีความคุ้มกันตามรัฐธรรมนูญ ในสมัยประชุม จึงได้สร้างความเปลี่ยนแปลง รวมถึงอาจจะมีการแก้ไขกฏหมายที่เกี่ยวข้อง"
ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนราธิวาส กล่าวระหว่างการมีคำสั่ง ซึ่งเปิดให้ญาติที่เป็นโจทก์ ผู้สังเกตการณ์ และสื่อวลชน เข้ารับฟังการพิจารณาคดี โดยได้เปิดห้องอีก 2 ห้อง ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ทุกครั้งที่มีการพิจารณาคดี รวมถึงในวันนี้ได้เปิดให้ญาติฝ่ายโจทก์ได้ถามคำถามให้คลายสงสัย และญาติได้ถามในหลายคำถาม เช่น สามารถฟ้องศาลโลกได้หรือไม่ ซึ่งศาลบอกว่า คำถามนี้ศาลตอบไม่ได้ เพราะเป็นความเห็น ให้ญาติสอบถามทนายความที่มีความรู้
"คดีนี้ศาลปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่ได้อำนวยความสะดวกเพื่อเอาใจท่าน ไม่ได้เข้าข้างเป็นพิเศษ ไม่ให้เสียความเป็นกลาง ถ้าฝั่งจำเลยมาศาลก็จะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกัน จึงขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในคดีที่มีคนจำนวนมาก ศาลอาจไม่มีเจ้าหน้าที่เพียงพอในการอำนวยความสะดวกที่อาจมีผู้ไม่หวังดีมาก่อความวุ่นวายได้ และจนถึงตอนนี้การพิจารณาคดีก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย"
นายมูฮัมหมัด ซอฮารี อูเซ็ง ตัวแทนญาติ ได้กล่าวความรู้สึกในห้องพิจารณาคดีว่า ความรู้สึกวันนี้ยอมรับว่าผิดหวัง หมดศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม ที่หาผู้กระทำผิดไม่ได้ ไม่กล้ามาแสดงความบริสุทธ์ใจ จึงอยากถามว่าจำเลยถ้ายังมีความบริสุทธ์จริง ทำไมหนีคดี ถ้าคดีนี้จบไปโดยไม่มีคนรับผิดชอบ ความรู้สึกของญาติไม่มีอายุความ ความเจ็บปวด 20 ปี ยังรอคอยความยุติธรรม ในขณะที่ตำรวจ และอัยการที่มีหน้าที่ทำคดีกลับละเลยการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยคดีไว้ถึง 19 ปี จนญาติรู้ว่ายังไม่มีใครฟ้อง จนต้องมาฟ้องเอง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ทำ
"ยิ่งมีคนมาพูดว่า จะมายึดเงินเยียวยาคืน ที่ญาติมาฟ้องคดีใหม่ และจะฟ้องกลับ ก็เชิญครับ ญาติไม่มีเงินจะคืนแล้ว และยอมติดคุก"
ญาติ ย้ำว่าแม้นายกรัฐมนตรีจะขอโทษ แต่ไม่รู้สึกถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหา อย่าออกมาปัดความรับผิดชอบ จำเลยมีถึง 14 คน แต่ตามจับไม่ได้สักคน เป็นไปได้หรือครับ ในประเทศนี้ถ้าตำรวจไทยเก่ง ต้องตามจับได้แล้ว
"แต่สำหรับญาติซาบซึ้งในการให้ความยุติธรรมของศาลจังหวัดนราธิวาสที่ให้ความยุติธรรมพวกเราจนถึงที่สุดแล้ว" นายซอฮารี กล่าวย้ำ
ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนราธิวาส กล่าวด้วยว่า ที่ญาติบอกว่าจะไม่ศรัทธากระบวนการยุติธรรม ก็ไม่อยากให้หมดหวัง เพราะการที่ญาติยื่นฟ้องก็แสดงว่ายังเชื่อมั่นตั้งแต่แรก ดังนั้นการค้นหาความจริงยังไม่จบ ยังใช้กลไกอีกมาภายในประเทศ ไม่ต้องไปถึงต่างประเทศแต่ต้องผลักดันปลายทางความยุติธรรม ให้ไปถึงจุดหมายปลายทาง ยังมีทนายความเป็นยานพาหนะ พาพวกท่านไปยังจุดหมายปลายทาง
"ศาลเป็นถนนเส้นหนึ่ง ที่ทำให้ถนนเรียบเดินไปได้ เมื่อสะดุดก็เปลี่ยนเส้นทางใหม่ ท่านไม่ใช่ผู้โดยสาร แต่เปรียบเสมือนพลังงานที่ทำให้รถวิ่งไปได้ ถ้าต้องการการเปลี่ยนแปลง"
นายทรงพล พันธุ์พิชาติกุล ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนราธิวาส กล่าวกับญาติคดีตากใบ ด้วยว่า
"ท่านเป็นเจ้าของประเทศนี้ทั้งประเทศ เหมือนทุกคน ท่านฟ้องได้ เป็นสิทธิของท่านที่ฟ้องได้ ท่านทำได้ มีกลไกของรัฐ มีกฏหมายให้ทำได้ ท่านไม่ใช่พลเมืองชั้น 2 ท่านเป็นพลเมืองไทย เหมือนทุกคนในประเทศนี้"
หลังคำกล่าวของผู้พิพากษาองค์คณะที่มีรวม 3 ท่านได้สร้างความซาบซึ้งให้กับญาติผู้เสียชีวิต และได้กล่าวขอบคุณศาลที่อำนวยความยุติธรรมให้จนถึงที่สุด
รายงาน : ฐปณีย์ เอียดศรีไชย
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #ศาลจังหวัดนราธิวาส #คดีตากใบ
.....
The Reporters
5 hours ago
·
JUSTICE:"ท่านเป็นเจ้าของประเทศนี้ทั้งประเทศ เหมือนทุกคน เป็นสิทธิของท่านที่ฟ้องได้ มีกฏหมายให้ทำได้ ท่านไม่ใช่พลเมืองชั้น 2 ท่านเป็นพลเมืองไทย เหมือนทุกคนในประเทศนี้"
นายทรงพล พันธุ์วิชาติกุล ผู้พิพากษาศาลจ.นราธิวาส กล่าวกับญาติคดีตากใบ ในห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดนราธิวาส
วันที่ 28 ตุลาคม 2567 ศาลจังหวัดนราธิวาส โดยนายทรงพล พันธุ์วิชาติกุล ผู้พากษาศาลจังหวัดนราธิวาส และองค์คณะผู้พิพากษาที่มี นายธนธร ผดุงธิติฐ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 9 ได้อ่านคำสั่งคดีหมายเลขแดงที่ อ 1516/2567 ระหว่าง น.ส.ฟาตีฮะ ปะจูกูเล็ง กับพวกรวม 48 คน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี จำเลยที่ 1 กับ พวกรวม 9 คน
ศาลจังหวัดนราธิวาส ระบุว่า คดีนี้มีการกระทำผิดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ศาลได้ประทับรับฟ้องจำเลย 7 คน ในฐานความผิดข้อหาฆ่าผู้อื่น,พยายามฆ่า และกักขังห่วงเหนี่ยว ตามประมวลกฏหมายอาญา มีอัตราโทษ ประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต และ จำคุก 20 ปี แม้ศาลประทับรับฟ้องอยู่ในกำหนดอายุความ 20 ปี และศาลได้ออกหมายจับไปแล้ว จำเลยหลบหนี ไม่สามารถจับตัวได้ จนครบกำหนดอายุความ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 สิทธิการฟ้องคดีจึงไม่สามารถทำได้อีก จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
ผู้พิพากษา ศาลจังหวัดนราธิวาส ย้ำว่า คดีนี้ศาลไม่ได้ยกฟ้อง เพราะได้ไต่สวนพยานแล้ว มีคำสั่งประทับรับฟ้องว่าว่าคดีมีมูล มีข้อเท็จจริงปรากฏแล้วว่า จำเลยอาจจะกระทำความผิดได้ แต่กระบวนการไม่พอให้ลงโทษได้
"เมื่อจำเลยไม่มาศาล ก็ต้องจำหน่ายคดี จำเลยจึงไม่ใช่ "ผู้บริสุทธิ์ 100 % จึงน่าเสียดายที่ตัวจำเลยไม่ได้มาแก้ต่างในศาล ถ้าจะกลบมาพูดอะไรหลังจากที่คดีหมดอายุความผ่านไปแล้ว ก็ทำไม่ได้แล้ว และการที่จำเลยไม่มาศาล ศาลก็ไม่ทราบได้ เพราะได้มีการออกหมายจับไปแล้ว"
ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนราธิวาส กล่าวด้วยว่า แม้จะจำหน่ายคดีไปแล้ว โจทก์สามารถค้นหาความจริง ตามกระบวนการสันติภาพ และตามช่องทางอื่น ตามที่จะมีช่องทางได้ เพราะการเยียวยาในรูปแบบที่ไม่ใช่ตัวเงิน คือการเยียวยาความทรงจำ ก็สามารถทำได้
"คดีนี้เป็นบทเรียนที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคมได้ จากที่ไม่ค่อยมีผู้สื่อข่าวมาทำข่าว แต่ตอนนี้ไม่มีสำนักข่าวไหนที่ไม่พูดถึงคดีนี้ จึงได้สร้างคุณูปการในทางกฏหมายหลายเรื่อง เช่น ความคุ้มกันของ สส.ที่สภาผู้แทนราษฏร ตอบมาแล้วว่า สส.ไม่มีความคุ้มกันตามรัฐธรรมนูญ ในสมัยประชุม จึงได้สร้างความเปลี่ยนแปลง รวมถึงอาจจะมีการแก้ไขกฏหมายที่เกี่ยวข้อง"
ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนราธิวาส กล่าวระหว่างการมีคำสั่ง ซึ่งเปิดให้ญาติที่เป็นโจทก์ ผู้สังเกตการณ์ และสื่อวลชน เข้ารับฟังการพิจารณาคดี โดยได้เปิดห้องอีก 2 ห้อง ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ทุกครั้งที่มีการพิจารณาคดี รวมถึงในวันนี้ได้เปิดให้ญาติฝ่ายโจทก์ได้ถามคำถามให้คลายสงสัย และญาติได้ถามในหลายคำถาม เช่น สามารถฟ้องศาลโลกได้หรือไม่ ซึ่งศาลบอกว่า คำถามนี้ศาลตอบไม่ได้ เพราะเป็นความเห็น ให้ญาติสอบถามทนายความที่มีความรู้
"คดีนี้ศาลปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่ได้อำนวยความสะดวกเพื่อเอาใจท่าน ไม่ได้เข้าข้างเป็นพิเศษ ไม่ให้เสียความเป็นกลาง ถ้าฝั่งจำเลยมาศาลก็จะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกัน จึงขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในคดีที่มีคนจำนวนมาก ศาลอาจไม่มีเจ้าหน้าที่เพียงพอในการอำนวยความสะดวกที่อาจมีผู้ไม่หวังดีมาก่อความวุ่นวายได้ และจนถึงตอนนี้การพิจารณาคดีก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย"
นายมูฮัมหมัด ซอฮารี อูเซ็ง ตัวแทนญาติ ได้กล่าวความรู้สึกในห้องพิจารณาคดีว่า ความรู้สึกวันนี้ยอมรับว่าผิดหวัง หมดศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม ที่หาผู้กระทำผิดไม่ได้ ไม่กล้ามาแสดงความบริสุทธ์ใจ จึงอยากถามว่าจำเลยถ้ายังมีความบริสุทธ์จริง ทำไมหนีคดี ถ้าคดีนี้จบไปโดยไม่มีคนรับผิดชอบ ความรู้สึกของญาติไม่มีอายุความ ความเจ็บปวด 20 ปี ยังรอคอยความยุติธรรม ในขณะที่ตำรวจ และอัยการที่มีหน้าที่ทำคดีกลับละเลยการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยคดีไว้ถึง 19 ปี จนญาติรู้ว่ายังไม่มีใครฟ้อง จนต้องมาฟ้องเอง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ทำ
"ยิ่งมีคนมาพูดว่า จะมายึดเงินเยียวยาคืน ที่ญาติมาฟ้องคดีใหม่ และจะฟ้องกลับ ก็เชิญครับ ญาติไม่มีเงินจะคืนแล้ว และยอมติดคุก"
ญาติ ย้ำว่าแม้นายกรัฐมนตรีจะขอโทษ แต่ไม่รู้สึกถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหา อย่าออกมาปัดความรับผิดชอบ จำเลยมีถึง 14 คน แต่ตามจับไม่ได้สักคน เป็นไปได้หรือครับ ในประเทศนี้ถ้าตำรวจไทยเก่ง ต้องตามจับได้แล้ว
"แต่สำหรับญาติซาบซึ้งในการให้ความยุติธรรมของศาลจังหวัดนราธิวาสที่ให้ความยุติธรรมพวกเราจนถึงที่สุดแล้ว" นายซอฮารี กล่าวย้ำ
ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนราธิวาส กล่าวด้วยว่า ที่ญาติบอกว่าจะไม่ศรัทธากระบวนการยุติธรรม ก็ไม่อยากให้หมดหวัง เพราะการที่ญาติยื่นฟ้องก็แสดงว่ายังเชื่อมั่นตั้งแต่แรก ดังนั้นการค้นหาความจริงยังไม่จบ ยังใช้กลไกอีกมาภายในประเทศ ไม่ต้องไปถึงต่างประเทศแต่ต้องผลักดันปลายทางความยุติธรรม ให้ไปถึงจุดหมายปลายทาง ยังมีทนายความเป็นยานพาหนะ พาพวกท่านไปยังจุดหมายปลายทาง
"ศาลเป็นถนนเส้นหนึ่ง ที่ทำให้ถนนเรียบเดินไปได้ เมื่อสะดุดก็เปลี่ยนเส้นทางใหม่ ท่านไม่ใช่ผู้โดยสาร แต่เปรียบเสมือนพลังงานที่ทำให้รถวิ่งไปได้ ถ้าต้องการการเปลี่ยนแปลง"
นายทรงพล พันธุ์พิชาติกุล ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนราธิวาส กล่าวกับญาติคดีตากใบ ด้วยว่า
"ท่านเป็นเจ้าของประเทศนี้ทั้งประเทศ เหมือนทุกคน ท่านฟ้องได้ เป็นสิทธิของท่านที่ฟ้องได้ ท่านทำได้ มีกลไกของรัฐ มีกฏหมายให้ทำได้ ท่านไม่ใช่พลเมืองชั้น 2 ท่านเป็นพลเมืองไทย เหมือนทุกคนในประเทศนี้"
หลังคำกล่าวของผู้พิพากษาองค์คณะที่มีรวม 3 ท่านได้สร้างความซาบซึ้งให้กับญาติผู้เสียชีวิต และได้กล่าวขอบคุณศาลที่อำนวยความยุติธรรมให้จนถึงที่สุด
รายงาน : ฐปณีย์ เอียดศรีไชย
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #ศาลจังหวัดนราธิวาส #คดีตากใบ
.....
=