วันจันทร์, ตุลาคม 19, 2563

อีกวัน #ให้มันจบที่รุ่นเรา “จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ" ๑๘ ตุลา ชุมนุมทั่วประเทศกว่าล้าน


อีกวัน #ให้มันจบที่รุ่นเรา จะเรียกม็อบอะไรสุดแท้ แต่มัน #วันต่อวัน มาตลอดอาทิตย์โดยไม่ต้องกำหนดล่วงหน้า เสร็จจากคืนนี้แค่บอกเจอพรุ่งนี้ รุ่งขึ้นค่อยแจ้งสถานที่ อย่างน้อยสามสี่จุด ที่ไหนท่าไม่ดีเปลี่ยนใหม่หรือย้ายไปสมทบที่อื่น

บ้างเรียกว่า #ม็อบอารยะ เนื่องจากมีการจัดระเบียบอย่างอัตโนมัติ “หมวกกันน็อคกับร่มสาธารณะ ผลัดกันใช้ ใครสะดวกเอากลับบ้านก็เอากลับไปแล้วเอามาใหม่เวลามีม็อบ ถ้าไม่สะดวกทิ้งเอาไว้ จะมีคนเก็บไว้แจกครั้งหน้า”

ซ้ำยุติรวดเร็ว เก็บกวาดสะอาด ดัง Noppakow Kongsuwan โพสต์เมื่อวาน “โคตรไว! ม็อบ คณะราษฎร แยกอโศก ประกาศยุติชุมนุม ๑๙.๔๐ และสามารถใช้ถนน ๑๐๐% ได้ในเวลา ๑๙.๕๐ น.” ในบริเวณที่รู้กันดีว่าเป็น “แยกที่รถเคลื่อนตัวได้ทีละมิลลิเมตร”

พวกเขาใช้เวลาเคลียร์พื้นถนนทั้งสิ้น ๑๐ นาที ซ้ำ “ผู้สื่อข่าวพยายามมองหาขยะ พบว่ายังไม่เห็น” ทั้งที่เมื่อเวลา ๕.๕๖ เย็น ผู้ชุมนุมยึดพื้นที่ทั้งสองฝั่งถนนตรงแยกอโศกมนตรี ปิดสนิทการจราจร เช่นกันกับจุดหลัก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ


ซึ่งเพจเยาวชนปลดแอกแจ้งจุดนัดเมื่อก่อนสี่โมงเย็นเล็กน้อย ซึ่งการชุมนุมเป็นไปอย่างราบเรียบ ไม่มีแกนนำและผู้ปราศรัยหลัก แต่ผู้ชุมนุมผลัดกันขึ้นปราศรัยเวทีย่อยๆ กระจายทั่ว “ใช้โทรโข่งและการสื่อสารด้วยการตะโกนบอกกันต่อๆ ไป”

และหากจะนับรวมผู้ชุมนุมทั้งสิ้นตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ จะได้นับล้าน รวมทั้งบางใหญ่ (นนทบุรี) รังสิต (ปทุมธานี) สำโรง (สมุทรปราการ) ลานมังกร (ภูเก็ต) บ้านฉาง (ระยอง) อนุสาวรีย์ ปชต. (ขอนแก่น) ศาลากลางเก่า (ปราจีนบุรี) ศาลหลักเมือง (สิงห์บุรี) และบายพาส (สระบุรี)

เยาวชนปลดแอกFree YOUTH โพสต์ย้ำ “มันจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุด...เพราะไม่มีอำนาจใดยิ่งใหญ่ไปกว่าประชาชน นี่คือการเคลื่อนไหวของประชาชน ที่ไม่ว่าสิ่งใดก็ไม่อาจหยุดยั้งได้” พร้อมทั้งภราดรภาพขยายไปทั่วโลก

แอล.เอ.สหรัฐ คนเกินร้อยไปปักหลักหน้าสถานกงสุลใหญ่ ส่วนใหญ่วัยยี่สิบกว่าถึงสามสิบกว่า มีรุ่นแก่ไปแจมนับสิบ โดยอดีต ส.ส.สุนัย จุลพงศธร คว้าโทรโข่งช่วยปราศรัยแทรก รักษาสมดุลต่างวัย ที่นอร์เวย์นัดกันวันนี้ ๑๙ ตุลา หน้าสถานทูตไทยกรุงออสโล


มาเลเซียเอาด้วย “แนวร่วมสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมาเลเซีย จะจัดกิจกรรมจุดเทียนออนไลน์ ในวันอังคารที่ ๒๐ ตุลาคมนี้ ๒ ทุ่มตามเวลาท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนการต่อสู้ประชาธิปไตยในไทย” Sa-nguan Khumrungroj สำนักข่าวหงวน จัดให้

ที่บางใหญ่ ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ สาธยาย “แค่ได้เข้าไปยืนในที่ชุมนุม แล้วร่วมตะโกน I hear Too ๆ ๆ เหมือนได้ระบายความเกลียดชังรัฐประหารที่ทำลายชาติไทยของเรามานานถึง ๗ ปี ยิ่งร่วมตะโกนยิ่งรู้สึกฮึกเหิม แล้วก็หันมายิ้มมาหัวเราะให้กัน”

ปรากฏการณ์ค่อนข้างใหม่ “๓ นิ้วเป็นเหตุ สังเกตุได้ ไอ้ here too” ทำให้เหล่าอาชีวะ “ช่างอุต ราชสิทร กรุงธน เทคโนนครปฐม ศูนย์ จะมาอยู่ในจุดเดียวกันใส่เสื้อสีใครสีมัน ไม่รู้จักแต่ไม่ตีกัน บางคนที่มาเป็นคู่อริกันด้วยซ้ำแม่งยิ้มชู ๓ นิ้วให้กู” (นอร์ เดนส์ กับ สิงหา ไพฑูรย์)

ผลออกมา เฮ้ย แม่งร่วมกันประกาศว่า ถ้าตูบออกไป “กูจะไม่ตีกันอีกเลย” อย่างนี้ก็มี แต่ที่ซึ้งยิ่งนักก็น้องนักเรียนหญิงคนหนึ่ง หลบเข้าข้างๆ ก้มหน้าคุยกับแม่บนไอแพดเสียงดังลั่น “แม่ช่วยดีใจที่หนูได้ทำหน้าที่ของความเป็นคนได้ไหม หนูรู้ว่าหนูมีค่า

...แม่อย่าโกรธหนูเลย โกรธคนที่มันทำต่อคนอื่นเยี่ยงหมูเยี่ยงหมาดีกว่า” กลายเป็นข้อคิดในสภาพการณ์ที่คนรุ่นเหนียงยาน “ไม่รู้จะทำยังไงกับลูกที่มีความคิดแตกต่างทางการเมืองกับตัวเอง” เลยออกลาย ไล่ลูกออกจากบ้าน บ้างเขียนไลน์บอกลูก “กูรอเก็บศพมึง” (Pum Sakuntala)

รายนี้ Rodjaraeg Wattana เล่าเรื่องเมื่อวันก่อน “ในม็อบมีเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ยืนพูดว่า เค้าหนีพ่อแม่มาม็อบ เพราะพ่อแม่ไม่เข้าใจ ขณะที่กำลังพูด มีคนวิ่งมากอด พอก้มลงดูทายซิใคร น้องสาวเค้าเอง ทั้งม็อบอึ้งไปเลย”

แต่ปัญหาอย่างนั้นไม่ใช่ข้ออ้างเพื่อการครอบงำให้เด็กอัดอั้นอยู่ในกรอบแห่งกะลาธิปไตย การบังคับให้ลูกๆ ทำตัวเป็นมนุษย์สมองฝ่อจนตราบเท่าที่ชีวิตพ่อแม่จะหาไม่ เป็นเพียงความสุขที่ได้อย่างใจของคนที่อนาคตมีแต่เชิงตะกอน

กลับปิดกั้นอนาคตของไม้ผลิใบ ซึ่งควรได้โอกาสเติบโต แตกช่อ ผุดหน่อ สืบสานเผ่าพันธุ์ด้วยความเจริญแห่งสติปัญญาและวิทยาการ ในเมื่อคนที่เป็นผู้ปกครองในวันนี้ “ขาดวุฒิภาวะ...ไม่มีการปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ไม่เป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจที่ดีให้แก่เยาวชน”

(https://www.facebook.com/groups/212581036015362/permalink/732130454060415/, https://www.facebook.com/waymagazine/posts/10157339843726456 และ https://www.facebook.com/Anantra14/posts/3938531246158125)