วันศุกร์, ธันวาคม 12, 2568

ยุบสภาแล้วไง ก็คือเดินหน้าเลือกตั้งใหม่ ใครได้ใครเสีย ใครเพลี่ยงพล้ำ ใครได้เปรียบ ซึ่งจะเป็น “ต้มส้มหม้อใหญ่” หรือไม่สำหรับ ปชน. ไว้ดูกัน

ยุบสภาแล้วไง ก็คือไปสู่เลือกตั้งภายใน ๔๕ ถึง ๖๐ วัน แสดงว่าพรรคภูมิใจไทยพร้อม ซึ่งพรรคประชาชนก็พร้อมอยู่แล้ว ส่วนเพื่อไทยนั้นจะพร้อมหรือไม่เดี๋ยวรู้กัน ประเด็นอยู่ที่การเดินหน้าเลือกตั้งใหม่ ใครได้ใครเสีย ใครเพลี่ยงพล้ำ ใครได้เปรียบ

คงต้องย้อนไปดูที่มาก่อน ว่าเป็นอุบัติการณ์หน้างานหรือมีการเตี๊ยมเตรียมกันมา ถ้าดูจากที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ สั่งให้จัดเตรียมราชกฤษฎีกายุบสภาเอาไว้ตั้งแต่ตอนบ่ายวันที่ ๑๑ ธันวา ก่อนเข้าประชุมร่วม สส./สว. ละก็ เขาพร้อมมาแล้ว

พร้อมที่จะฉีกเอ็มโอเอที่ทำไว้กับพรรคประชาชน เพราะในการประชุมญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีการตีรวนจาก สว.สายสีน้ำเงินน่าดู (รัชนีกร ทองทิพย์ กับ พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ ซึ่งเป็นเสียงข้างน้อยในกรรมาธิการฯ ร่วม) ประเด็นหลักอยู่ที่ จะให้คงไว้ซึ่งอำนาจพิเศษ สว.

มาตรา ๒๕๖/๒๘ เกี่ยวกับอำนาจพิเศษที่ว่า การผ่านร่างรัฐธรรมนูญนอกจากใช้เสียงข้างมากเกินครึ่งของสองสภารวมกันแล้ว จะต้องมี สว.จำนวน ๑ ใน ๓ โหวตเห็นด้วย อันเป็นจุดที่เสียงข้างมากใน กมธ. ขอตัดออกแต่เสียงข้างน้อยขอสงวนการแปรญัตติ

จุดนี้เองที่ประชุมเถียงกันจนดึก พอโหวตปรากฏว่าเสียงข้างมากไปเห็นชอบกับสอง สว. คะแนน ๒๙๐ ต่อ ๓๑๐ พรรคประชาชนจึงขอให้นับคะแนนใหม่ด้วยการขานชื่อ กลับกลายเป็นว่าคะแนนชนะมากกว่าเดิม ๓๒๙ ต่อ ๓๐๒ โดยพรรคภูมิใจไทยไปร่วมโหวตให้

จึงชัดเจนว่าพรรคประชาชนโดนรัฐบาลเสี่ยหนูหักหลัง ฉีกเอ็มโอเอเสียแล้ว พรรคส้มพยายามตีกลับด้วยการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ แต่สายไปแล้ว อนุทินไวกว่ากราบบังคมทูลฯ ยุบสภาตัดหน้าไปก่อน (เพราะถ้าฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว จะยุบสภาไม่ได้)

กูรูการเมืองบางราย อย่าง ผศ.เชษฐา ทรัพย์เย็น จาก ม.นวมินทราธิราช ให้ความเห็นในรายการมุมการเมืองของช่องไทยพีบีเอสว่า พรรคประชาชนโดน “ต้มส้มหม้อใหญ่” และการชิงยุบสภาเป็นแต้มต่อของ ภท.โดย พท.ได้อาณิสงค์ไปด้วย ซึ่งอาจจะแอบไปคุยกันเอาไว้

แต่พรรคประชาชนจะ “พลาดแล้วพลาดอีก” อย่างที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้ทีกระทืบซ้ำหรือเปล่า ต้องดูว่าจริงๆ แล้ว ปชน.บอบช้ำหรือไม่ แค่ไหน ทีมกรรมการบริหาร ปชน.ยืนเรียงหน้ากระดานแถลงก่อนจะมีราชกิจจาออกมาในวันนี้

คงไม่มีอะไรที่ ปชน.จะตอบได้มากกว่า “เดินหน้าต่อไป” เช่นที่เป็นมาแล้วหลายครั้งโดยตลอด และเพิ่งทำสำเร็จอีกชิ้นหนึ่งตอนดึกเมื่อคืนวันที่ ๑๑ ธันวา ที่ประชุมร่วมรัฐสภาผ่านญัตติการจัดทำคำถามประชามติครั้งที่ ๑ พร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมา

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้า ปชน.ท้าวความย้อนไปถึงการลงนามเอ็มโอเอกับภูมิใจไทยว่า “เราไม่ได้เซ็น MOA เรื่องเชื่อใจทางการเมืองอยู่แล้ว...ข้อผูกมัดจริง ๆ คือสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ในการเข้าคูหาเลือกตั้งต่อไป”

(https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/2hEdH8A, https://www.facebook.com/ThaiPBS/videos/837438275936999 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_5500328)