พูดแบบคนรุ่นเก่าๆ ก็คงว่า เป็นวิบากกรรมของพรรคส้ม ที่แต่ต้นพยายามจะเป็นพรรคที่หลากหลาย ในอุดมการณ์แห่งพรรคของประชาชน โชคร้ายที่ความหลากหลายนั้นยังไม่ถึงขั้น “สงวนจุดต่าง” แล้วยังไม่ยอม “แสวงจุดร่วม”
ในมหกรรมการเมืองที่ต้องคัดสรรตัวบุคคลเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ พร้อมไปกับขยายวงครอบคลุมประชากรให้กว้างขวาง โดยเฉพาะการขานรับ ‘คนรุ่นใหม่’ ลูกพรรคเดิมที่ไม่ผ่านการคัดเลือก ไม่ได้ไปต่อ ออกมาโวยกันระงม
รายนี้ อดีตรองหัวหน้าพรรค หลังจาก “ได้เสนอตัวให้กรรมการคัดสรรเลือกเป็นว่าที่ผู้สมัคร สส. แต่มีการแจ้งว่าไม่ผ่าน...เราก็ขอขึ้นรถเมล์ แต่เขาบอกว่ามันเต็มแล้ว...เพื่อนๆ ในพรรคเองก็บอกว่า คณะกรรมการตัดสินใจผิดพลาดอย่างมาก”
เป็นคำโวยของ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ เมื่อข่าว ‘เนชั่นสุดสัปดาห์’ เอาไมค์ไปจ่อปาก กล่าวร้ายกระบวนการของพรรคว่า “บกพร่อง และไม่รอบคอบ” ในการคัดสรรตัวบุคคล ตนจึง “ตัดสินใจย้ายไปอยู่พรรคไทยธรรม” ซึ่ง
“เป็นพรรคของลูกศิษย์ที่เคยสอนปริญญาเอกอยู่ และดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค...จึงขอเชิญชวนคนที่ ‘อกหัก’ ไม่ว่าจะพรรคใดก็ตาม ให้มาร่วมกันทำงาน...พรรคไหนก็ไม่สำคัญขอแค่อุดมการณ์ตรงกัน” อันนี้ยังไม่แจ่มแจ้งว่าอุดมการณ์แบบไหน
ดูแล้วจึงเป็นเหตุส่วนตัวเสียมากกว่า เนื่องจากภรรยาของเขา “เป็น สก.ที่ทำงานในพื้นที่” ทำให้มั่นใจว่าจะทำคะแนน “สู้ได้” กับ อนุสรณ์ ธรรมใจ คนที่พรรคเลือกส่งลงสมัคร สส.เขตตลิ่งชัน-ทวีวัฒนา “หากพรรคให้เหตุผลว่า” กระแสพรรคแรงกว่าตัวบุคคล
ที่น่าจะ ‘วิบากกรรม’ จริงๆ ก็นี่ ๒๕ ธันวา คาดว่าจะมีการชี้ชะตา สส. ๒๕ คน ของพรรคประชาชนในสภาที่เพิ่งถูกยุบไป ด้วยข้อกล่าวหาร่วมกันในคดี สส.ก้าวไกล ๔๔ คนลงชื่อเสนอให้แก้ไข กม.อาญามาตรา ๑๑๒ มีระวางโทษตัดสิทธิการเมือง ‘ตลอดชีวิต’
รองเลขาฯ ปปช.ซึ่งอยู่ระหว่างรักษาการแทนเลขาฯ ตอบผู้สื่อข่าวเมื่อวาน (๒๒ ธันวา) ว่าไทม์ไลน์คดีนี้ตามเดิม คือการพิจารณาคดีจะแล้วเสร็จ “อย่างช้า” ภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๘ “ก่อนการเลือกตั้ง”
(https://www.khaosod.co.th/politics/news_10069894 และ https://www.facebook.com/nationweekend/posts/XRyYPQEFThXj)
