วันจันทร์, ตุลาคม 06, 2568

พูดถึง ‘วีรชน ๖ ตุลา’ สิ่งที่ต้องจดจำทั้งที่อยากจะลืม อยู่ที่การ ‘แขวนคอ’ เริ่มตั้งแต่ช่างไฟฟ้าสองคนที่นครปฐม

พูดถึง วีรชน ๖ ตุลาสิ่งที่ต้องจดจำทั้งที่อยากจะลืม อยู่ที่การ แขวนคอเริ่มตั้งแต่ช่างไฟฟ้าสองคนถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้วเอาร่างไปแขวนคอที่ ประตูแดง นครปฐม ไปสู่การเล่นละครแขวนคอประท้วงที่ลานโพธิ์ ท่าพระจันทร์

แล้วไปไฮไล้ท์ที่การลากศพนักศึกษาจากในสนามฟุตบอลธรรมศาสตร์ ออกไปแขวนคอกับต้นมะขามสนามหลวง เป็นภาพจำฝูงคนบ้าคลั่งล้อมวงโห่ร้อง ใช้ของมีคมทิ่มแทงร่างไร้วิญญาน และชายคนหนึ่งเงื้อง่าฟาดใส่ด้วยเก้าอี้เหล็ก

เด็กชายคนหนึ่งยืนดูอยู่แถวหน้า หัวเราะร่าด้วยความบันเทิง เป็นภาพสุดเศร้าดูแล้วปวดร้าวกับประวัติศาสตร์แห่งความโหดเหี้ยม ของการเมืองไทยยุค ขวาพิฆาตซ้าย ที่กลุ่มคนจำนวนหนึ่งในฉายา นวพล กระทิงแดง และลูกเสือชาวบ้าน

ถูกปลุกปั่นยุยง (จากวิทยุยานเกราะ) ให้เกลียดชังนิสิตนักศึกษาซึ่งต่อต้านเผด็จการทหาร หาว่าเป็นเส้นสาย คอมมิวนิสต์จากเวียตนาม หยามหมิ่นพระบรมโอรสาธิราช เพราะคนเล่นละครหน้าคล้าย แล้วนำตำรวจชายแดนมาล้อมยิง

กระสุนถล่มเข้าไปจากด้านพิพิธภัณฑ์ อาวุธมีดไม้ในมือฝูงคนจากด้านสนามหลวงทะลวงเข้าไปทุบตี ฟันแทง นักศึกษาที่ยังตกค้างจากการชุมนุมวันที่ ๕ ตุลา มีนักศึกษาหญิงบางคนถูกรุมกระทำชำเรา ภาพสยองเหล่านี้ผู้ที่ได้สัมผัสไม่อยากจำ แต่มันก็ยังไม่ลืม

เช่นกันกับญาติมิตรและชาวบ้านของสองช่างไฟฟ้า ศพประตูแดงนครปฐม ชุมพร ทุมไมย กับ วิชัย เกศศรีพงษ์ศา ถูกฆ่าจากการตระเวณติดโปสเตอร์ต่อต้านการกลับเข้าไทย ในสภาพโกนหัวห่มเหลืองของพลเอกถนอม กิตติขจร

หลังการตายของทั้งคู่ในเดือนตุลาคม ๒๕๑๙ นั้นเอง พ่อแม่ของชุมพรพยายามทวงถามกับสถานีตำรวจหาความยุติธรรม เมื่อทราบจากภายในว่าตำรวจชั้นผู้น้อย ๕ คนเป็นผู้ลงมือเข่นฆ่า กลับได้รับคำตอบเหมือนกันสามครั้งสามคราว่า “มาบ่อย ๆ ระวังหาย

จึงต้องล้มเลิกความพยายาม จนกระทั่ง ๔๙ ปีให้หลัง จึงได้มีการทำบุญรำลึกเหตุการณ์ทั้งที่บ้านผักแว่น อ.เขื่องใน อุบลราชธานี บ้านเกิดของ ชุมพร และที่บ้านเมืองแก อ.สตึก บุรีรัมย์ ถิ่นฐานเดิมของ วิชัยเพื่อลบล้างคำสามานย์ที่ว่า “ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป”

(https://theisaanrecord.co/2025/10/06/police-threaten-families-of-october-6-heroes/)