เอา ‘บุ๋ม’ ไปประจันมาลี เป็น ‘Bad Idea’ อย่างยิ่ง ทั้งที่บุ๋มสวยกว่าก็เถอะ “ไม่ส่งเสริมการทูตเชิงสันติ แล้วยังเพิ่มความตึงเครียดยิ่งขึ้น”

ต้องยอมรับแล้วละว่า ทั้งวินธัยและผู้พันเบิร์ด เทียบ มาลี โสเจียตา ไม่ติด กลาโหมไทยจึงได้คิดตั้งปนัดดา วงศ์ผู้ดี มาประชันแทน อะไรกันนักหนา กองทัพไทยต้องเดินตามก้นกองทัพกัมพูชาทุกฝีก้าวเลยเหรอ

แล้วที่น่าเวทนา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ บอกว่าจุดมุ่งหมายในการตั้ง ‘บุ๋ม’ เนี่ยเพื่อจะได้ปะทะกับมาลีอย่างมีลำหักลำโค่น อย่างหนึ่งก็คือบุ๋มสวยกว่า คงต้องชมเชยรสนิยมของ รมช. ที่สรรหาคนมีบุคคลิกภาพใกล้เคียงมาลีมาได้

ไม่เอาละ ไม่วิจารณ์อย่างปากหอยปากปู ตามอย่างหลักการ วิชาการแบบ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ดีกว่า เธอบอกว่า “หน้าที่ของโฆษกไม่ใช่การ ‘ชน’ หรือ ‘ปะทะ’ กับคู่กรณี” นะคะ อย่างนั้นมันไม่ส่งเสริมการทูตเชิงสันติ แล้วยังเพิ่มความตึงเครียดยิ่งขึ้น

“การใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงจากงานด้านจิตอาสาและวงการเซเลป แม้จะมีเจตนาดีและมีความน่าเชื่อถือในฐานะบุคคล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีทักษะที่จำเป็นในการทำหน้าที่โฆษกของรัฐ...โฆษกจึงควรเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกฝนและมีความรู้ความเข้าใจในเชิงลึก”

อีกอย่างที่ปวินแนะ “รัฐบาลไทยควรยึดมั่นในแนวทางการแสวงหาสันติภาพผ่านการทูตและกลไกระหว่างประเทศอย่างที่เคยทำมา” ไม่ใช่ชนหรือปะทะคารมระหว่างโฆษกจิ้มลิ้มกับจุ๋มจิ๋ม มันจะกลายเป็นละครครื้นเครง แบบภูมิหลังของปนัดดาไป

ปวินลงท้ายว่าแนวคิดเอาบุ๋มไปประจันมาลี เป็น ‘Bad Idea’ ที่น่ากังวลอย่างยิ่ง “การสร้างโฆษกให้มีบทบาทในลักษณะนี้เท่ากับเป็นการกระพือความขัดแย้งให้ยิ่งรุนแรงขึ้น แทนที่จะมุ่งเน้นการลดความตึงเครียดและสร้างความเข้าใจร่วมกัน”

(https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/2eBk88gadHX)