
Nithiwat Wannasiri
6 hours ago
·
ด่วน! (13 มี.ค.) รัฐสภายุโรปลงมติประณามไทยแล้ว! โหวตคะแนนท่วมท้น 482 ต่อ 57 (งดออกเสียง 68) ประณามไทยกรณีส่ง 40 #อุยกูร์ กลับไปให้จีน และเรียกร้องให้ใช้การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกดดันให้ไทยปฏิรูปสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึงประเด็น #ม112 และ #นักโทษการเมือง
.....
MEPs condemn the deportation of Uyghur refugees from Thailand and the lese-majesty law in the country
On Thursday, the European Parliament adopted human rights resolutions on Thailand, Sudan and Azerbaijan
Violations of democratic principles and human rights in Thailand, notably the lese-majesty law and the deportation of Uyghur refugees
Parliament condemns the deportation of Uyghur refugees to China, and urges Thailand to halt any further forced returns to countries where peoples’ lives are at risk. MEPs call on the Commission to leverage free trade agreement negotiations to press Thailand to reform the country’s lese-majesty law, release political prisoners, halt the deportation of Uyghur refugees, and to ratify all core International Labour Organisation (ILO) conventions.
MEPs appeal to the Thai government to grant the United Nations High Commissioner for Refugees (UNHCR) unrestricted access to all detained Uyghur asylum seekers and provide transparent information on their status. They want Thailand to strengthen its institutions in line with human rights standards and to grant amnesty to all parliamentarians and activists persecuted or imprisoned under repressive laws, including through convictions for lese-majesty.
Extradition treaties with China should be suspended, MEPs say, insisting that China must respect the fundamental rights of deported Uyghurs, ensure transparency about their whereabouts, grant the UNHCR access, and release detainees.
MEPs adopted the resolution by 482 votes in favour, 57 against and 68 abstentions. For further details, the full version will be available here. (13.03.2025)
https://www.europarl.europa.eu/news/en/press-room/20250310IPR27234/human-rights-breaches-in-thailand-sudan-and-azerbaijan
.....
Patani Forum - ปาตานีฟอรั่ม
22 hours ago
22 hours ago
·
ข้อมติของรัฐสภายุโรป
ว่าด้วยประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเฉพาะกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและการส่งตัวผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลับประเทศ
รัฐสภายุโรป
– โดยอ้างอิงข้อบังคับที่ 150(5) และ 136(4) แห่งข้อบังคับการดำเนินงานของรัฐสภายุโรป
โดยตระหนักว่า:
ก. เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ทางการไทยละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศด้วยการส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์อย่างน้อย 40 คนกลับไปยังประเทศจีน ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกกักขังโดยพลการ การทรมาน และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ทั้งที่มีประเทศที่ปลอดภัยเสนอตัวรับรองสถานะของพวกเขา
ข. ก่อนถูกส่งตัวกลับ ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถูกคุมขังในศูนย์กักกันของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไทยนานกว่าทศวรรษ โดยมีรายงานว่ามีชาวอุยกูร์อย่างน้อย 5 คน รวมถึงเยาวชน เสียชีวิตจากสภาพความเป็นอยู่ที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม
ค. กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย (มาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา) เป็นหนึ่งในกฎหมายที่เข้มงวดที่สุดในโลก และไม่สอดคล้องกับพันธกรณีของไทยภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR)
ง. ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และสื่อมวลชนกว่า 1,960 ราย รวมถึงเยาวชนกว่า 280 ราย ถูกตั้งข้อหาหรือพิพากษาลงโทษจากการแสดงความคิดเห็นภายใต้กฎหมายที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออก เช่น กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ, กฎหมายยุยงปลุกปั่น, กฎหมายการชุมนุมสาธารณะ และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยมีนักเคลื่อนไหวคนสำคัญ เช่น อานนท์ นำภา, มงคล ถิระโคตร และอัญชัญ ปรีเลิศ ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลานานอย่างไม่เป็นธรรม โดยบางคนอาจต้องโทษสูงสุดถึง 50 ปี
จ. ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมืองขนาดใหญ่ และ ส.ส. จำนวน 44 คน ถูกดำเนินคดีเนื่องจากเสนอแก้ไขมาตรา 112 และอาจถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ขณะที่ ส.ส. เช่น ปิยรัฐ จงเทพ, รัชชนก ศรีนอก และชลธิชา แจ้งเร็ว กำลังเผชิญการดำเนินคดีจากกิจกรรมและถ้อยแถลงทางการเมืองของพวกเขา
รัฐสภายุโรปจึงมีมติดังนี้:
1. ประณาม การส่งตัวผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีน และเรียกร้องให้ทางการไทยยุติการบังคับส่งตัวผู้ลี้ภัย ผู้ขอลี้ภัย และผู้เห็นต่างทางการเมืองกลับไปยังประเทศที่พวกเขาอาจตกอยู่ในอันตราย
2. เรียกร้องให้รัฐบาลไทย อนุญาตให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เข้าถึงผู้ขอลี้ภัยชาวอุยกูร์ทั้งหมดโดยไม่มีข้อจำกัด และเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของพวกเขาอย่างโปร่งใส
3. เรียกร้องให้จีน เคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ลี้ภัยอุยกูร์ที่ถูกส่งตัวกลับ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของพวกเขา อนุญาตให้ UNHCR เข้าพบ และปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขัง
4. เรียกร้องให้ไทยให้สัตยาบัน อนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. 1951 และพิธีสาร ค.ศ. 1967 รวมถึงปฏิรูประบบลี้ภัยให้โปร่งใส ยุติธรรม และเป็นมนุษยธรรม
5. เน้นย้ำว่า ไทยเป็นหุ้นส่วนสำคัญของสหภาพยุโรป และเรียกร้องให้ไทยเสริมสร้างสถาบันประชาธิปไตยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล รวมถึงการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 และกฎหมายอื่นที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ และสิทธิในการมีส่วนร่วมทางการเมือง
6. เรียกร้องให้มีนิรโทษกรรม แก่ ส.ส. และนักเคลื่อนไหวที่ถูกดำเนินคดีหรือจำคุกภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและกฎหมายอื่นที่จำกัดเสรีภาพทางการเมือง
7. เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรป ใช้การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เป็นเครื่องมือกดดันให้ไทยปฏิรูปกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงมาตรา 112 ปล่อยนักโทษการเมือง ยุติการส่งตัวผู้ลี้ภัยอุยกูร์ และให้สัตยาบันอนุสัญญาหลักขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) พร้อมเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอียูระงับสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับจีน
8. มอบหมายให้ประธานรัฐสภา ส่งข้อมตินี้ไปยังคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป คณะกรรมาธิการยุโรป และทางการไทยและจีน
การแปลนี้เป็นการแปลอย่างไม่เป็นทางการ โปรดอ้างอิงข้อความต้นฉบับจากเอกสารอย่างเป็นทางการที่: European Parliament - RC-10-2025-0174_EN https://www.europarl.europa.eu/.../RC-10-2025-0174_EN.html
https://www.facebook.com/photo?fbid=660147200033900&set=a.256986787016612
ข้อมติของรัฐสภายุโรป
ว่าด้วยประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเฉพาะกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและการส่งตัวผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลับประเทศ
รัฐสภายุโรป
– โดยอ้างอิงข้อบังคับที่ 150(5) และ 136(4) แห่งข้อบังคับการดำเนินงานของรัฐสภายุโรป
โดยตระหนักว่า:
ก. เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ทางการไทยละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศด้วยการส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์อย่างน้อย 40 คนกลับไปยังประเทศจีน ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกกักขังโดยพลการ การทรมาน และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ทั้งที่มีประเทศที่ปลอดภัยเสนอตัวรับรองสถานะของพวกเขา
ข. ก่อนถูกส่งตัวกลับ ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถูกคุมขังในศูนย์กักกันของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไทยนานกว่าทศวรรษ โดยมีรายงานว่ามีชาวอุยกูร์อย่างน้อย 5 คน รวมถึงเยาวชน เสียชีวิตจากสภาพความเป็นอยู่ที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม
ค. กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย (มาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา) เป็นหนึ่งในกฎหมายที่เข้มงวดที่สุดในโลก และไม่สอดคล้องกับพันธกรณีของไทยภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR)
ง. ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และสื่อมวลชนกว่า 1,960 ราย รวมถึงเยาวชนกว่า 280 ราย ถูกตั้งข้อหาหรือพิพากษาลงโทษจากการแสดงความคิดเห็นภายใต้กฎหมายที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออก เช่น กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ, กฎหมายยุยงปลุกปั่น, กฎหมายการชุมนุมสาธารณะ และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยมีนักเคลื่อนไหวคนสำคัญ เช่น อานนท์ นำภา, มงคล ถิระโคตร และอัญชัญ ปรีเลิศ ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลานานอย่างไม่เป็นธรรม โดยบางคนอาจต้องโทษสูงสุดถึง 50 ปี
จ. ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมืองขนาดใหญ่ และ ส.ส. จำนวน 44 คน ถูกดำเนินคดีเนื่องจากเสนอแก้ไขมาตรา 112 และอาจถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ขณะที่ ส.ส. เช่น ปิยรัฐ จงเทพ, รัชชนก ศรีนอก และชลธิชา แจ้งเร็ว กำลังเผชิญการดำเนินคดีจากกิจกรรมและถ้อยแถลงทางการเมืองของพวกเขา
รัฐสภายุโรปจึงมีมติดังนี้:
1. ประณาม การส่งตัวผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีน และเรียกร้องให้ทางการไทยยุติการบังคับส่งตัวผู้ลี้ภัย ผู้ขอลี้ภัย และผู้เห็นต่างทางการเมืองกลับไปยังประเทศที่พวกเขาอาจตกอยู่ในอันตราย
2. เรียกร้องให้รัฐบาลไทย อนุญาตให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เข้าถึงผู้ขอลี้ภัยชาวอุยกูร์ทั้งหมดโดยไม่มีข้อจำกัด และเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของพวกเขาอย่างโปร่งใส
3. เรียกร้องให้จีน เคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ลี้ภัยอุยกูร์ที่ถูกส่งตัวกลับ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของพวกเขา อนุญาตให้ UNHCR เข้าพบ และปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขัง
4. เรียกร้องให้ไทยให้สัตยาบัน อนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. 1951 และพิธีสาร ค.ศ. 1967 รวมถึงปฏิรูประบบลี้ภัยให้โปร่งใส ยุติธรรม และเป็นมนุษยธรรม
5. เน้นย้ำว่า ไทยเป็นหุ้นส่วนสำคัญของสหภาพยุโรป และเรียกร้องให้ไทยเสริมสร้างสถาบันประชาธิปไตยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล รวมถึงการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 และกฎหมายอื่นที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ และสิทธิในการมีส่วนร่วมทางการเมือง
6. เรียกร้องให้มีนิรโทษกรรม แก่ ส.ส. และนักเคลื่อนไหวที่ถูกดำเนินคดีหรือจำคุกภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและกฎหมายอื่นที่จำกัดเสรีภาพทางการเมือง
7. เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรป ใช้การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เป็นเครื่องมือกดดันให้ไทยปฏิรูปกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงมาตรา 112 ปล่อยนักโทษการเมือง ยุติการส่งตัวผู้ลี้ภัยอุยกูร์ และให้สัตยาบันอนุสัญญาหลักขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) พร้อมเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอียูระงับสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับจีน
8. มอบหมายให้ประธานรัฐสภา ส่งข้อมตินี้ไปยังคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป คณะกรรมาธิการยุโรป และทางการไทยและจีน
การแปลนี้เป็นการแปลอย่างไม่เป็นทางการ โปรดอ้างอิงข้อความต้นฉบับจากเอกสารอย่างเป็นทางการที่: European Parliament - RC-10-2025-0174_EN https://www.europarl.europa.eu/.../RC-10-2025-0174_EN.html
https://www.facebook.com/photo?fbid=660147200033900&set=a.256986787016612