เมื่อ34ปีที่แล้วคือ 23 กุมภาพันธ์ 2534 เกิดการรัฐประหาร รสช. ประเทศเรา ชิบหายต่อเนื่องจากการรัฐประหารครั้งนี้และต่อๆมา

.....
สิริวัฒน์ ไกรสินธุ์
11 hours ago
·
วันนี้เมื่อ34ปีที่แล้วคือ 23 กุมภาพันธ์ 2534 คณะรสช.นำโดยพลเอกสุนทร คงสมพงษ์และพลเอกสุจินดา คราประยูร กระทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ
ผมเอง ณ ขณะนั้นเป็นนายกองค์การนักศึกษา ม.รามคำแหง และกำลังประท้วงรัฐบาลชาติชายเรื่องผิดสัญญาประกันราคายางพาราที่เคยรับปากพวกเราเมื่อปี 2533ตอนร่วมกับชาวสวนยางภาคใต้ ประท้วงที่ทุ่งสง
ทันทีที่รัฐประหาร ผมและเพื่อนๆชาวรามคำแหงร่วมประชุมตั้ง "ศูนย์นักศึกษาไทยต้านภัยรัฐประหาร" ขึ้นทันที ซึ่งมีนักศึกษาจากเกือบทุกพรรคการเมืองและหลายชมรมเข้ามาร่วม ที่ประชุมได้เลือกนายสุวรรณ บัณฑิตเป็นผู้ประสานงาน และต่อมาได้มีการชุมนุมต้านรัฐประหารกันเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์มีนักศึกษาเข้าร่วมประมาณ 1000 คนแต่ใน 3 ชั่วโมงต่อมาตำรวจและเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยคำสั่งของรสช.ได้เข้ามาจับกุมพวกเราซึ่งเป็นแกนนำทั้งหมด15คนอาทิเช่นผมนายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ เป็นจำเลยที่หนึ่ง นายสุวรรณ บัณฑิตเป็นจำเลยที่สอง นายสุวิทย์ เกตุแก้ว นายเชี่ยวชาญ เกื้อชู นายพีระพงษ์ สังข์ทอง นางสาวสุวรรณา ตปณียากรกช เป็นต้น
หลังจากเราได้รับการประกันตัวออกมาโดยสส.วิทยา แก้วภราดัย(ต้องขอบคุณย้อนหลังอีกครั้งหนึ่ง) เราได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้ร่วมกับพี่น้องประชาชน มีการชุมนุมอีกหลายครั้ง ในสถานการณ์ชุมนุมนั้นแนวร่วมนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยได้เลือกผมเป็นผู้ประสานงานมีนายจตุพร พรหมพันธุ์เป็นโฆษก มีตัวแทนจากนักศึกษา5ค่าย5บำเพ็ญเป็นเหรัญญิกผนึกกำลังกับสนนท.และสมาพันธ์ประชาธิปไตยตลอดจนถึงองค์กรประชาชนทั้งหลาย กว่าที่คนชั้นกลางและประชาชนจะเห็นด้วยกับเราต้องใช้เวลาร่วมปีจึงได้เห็นธาตุแท้ของเผด็จการที่รัฐประหารว่ามุ่งที่จะสืบทอดอำนาจเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ถึงที่สุดก็เกิดเหตุการณ์พฤษภาคม 2535ซึ่งผู้นำกองทัพได้สั่งให้ทหารสลายการชุมนุมและเข่นฆ่านักศึกษาประชาชนรวมถึงจับกุมไปเป็นจำนวนมาก ที่บริเวณถนนราชดำเนินตรงสะพานผ่านฟ้าถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
แต่เราได้วางแผนกันไว้ก่อนแล้วว่าถ้าสลายการชุมนุมที่ราชดำเนินเราจะไปชุมนุมกันต่อที่รามคำแหง โดยอธิการบดีนายชูศักดิ์ ศิรินิลได้เปิดประตูรั้วรามคำแหงต้อนรับนักศึกษาประชาชนให้เข้าไปชุมนุมอย่างปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัย จนถึงที่สุดเผด็จการจากรัฐประหารก็อยู่ไม่ได้ถูกกดดันให้ลาออกจึงเป็นชัยชนะของนักศึกษาและประชาชนที่ร่วมกันต่อสู้ด้วยหยาดเหงื่อ เลือดเนื้อและหยาดน้ำตา
และเป็นที่มาของกระแสประชาธิปไตยต่อเนื่องที่เรียกร้องให้หนุนพรรคเทพขจัดพรรคมาร มีการเลือกตั้งในปีนั้น ผมเองได้ชักชวนเพื่อนนักศึกษากว่า1,000 คนไปสนับสนุนพรรคเทพในหลายจังหวัด ส่งผลให้พรรคเทพคือประชาธิปัตย์ พลังธรรม เอกภาพ ได้เป็นรัฐบาล นายชวน หลีกภัยได้เป็นนายกรัฐมนตรี
และมีกระแสเรียกร้องต่อเนื่องไปอีกให้มีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน จนเกิดกระแสธงเขียว ประชาชนเลือกสสร.และร่างรัฐธรรมนูญกันเอง เป็นที่มาของรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน2540 มีการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เกิดการเลือกตั้งนายกอบจ.และเกิดองค์การบริหารส่วนตำบลขึ้น
รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน2540 ส่งผลให้เกิดพรรคการเมืองและรัฐบาลที่เข้มแข็งจนสามารถนำนโยบายที่แถลงไว้ตอนหาเสียงไปสู่ผลงานตอนเป็นรัฐบาลได้ แต่ไม่มีใครนึกว่าหลังจากนั้นไม่นานชนชั้นนำจารีตและพวกอำนาจนิยมได้ผนึกกำลังกันทำการรัฐประหารในปี2549ฉีกรัฐธรรมนูญ 2540 ท่ามกลางความมึนงงและความโลเลของชนชั้นกลาง การรัฐประหาร นำประเทศสู่ความตกต่ำ สู่ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองอีกครั้งหนึ่งและเกิดความลุ่มๆดอนๆเรื่อยมาและเกิดการรัฐประหารอีกครั้งหนึ่งในปี2557 ประเทศไทยกลายเป็นประเทศแถวหน้าที่ทำการยึดอำนาจรัฐประหารหรือมีวงจรอุบาทว์
จนถึงปัจจุบันระบบการเมืองและเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะย่ำแย่กว่าหลายประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยผลพวงของการรัฐประหารดังกล่าว
บันทึกไว้เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของคนรุ่นหลัง
#เผด็จการจงพินาศ #ประชาธิปไตยจงเจริญ #ต้านรัฐประหาร #หยุดวงจรอุบาทว์

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=122138080850559394&id=61566781837081