.jpg)
Tara Buakamsri
18 hours ago
·
โดนัลด์ ทรัมป์ และอีลอน มัสก์กำลังรื้อทำลายอำนาจละมุน (soft power) ของอเมริกา เพื่อหันไปใช้แนวทาง “ผู้ที่แข็งแกร่งคือผู้ที่ถูกต้อง” จอร์จ แพคเกอร์ นักข่าว The Atlantic เขียน
“ประธานาธิบดีทุกคนตั้งแต่แฟรงกลิน ดี. รูสเวลต์ถึงบารัค โอบามาตระหนักว่าอำนาจของอเมริกาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่ถูกคุกคาม หากยึดโยงกับพันธมิตร สถาบัน และค่านิยมที่ชาวอเมริกันสนับสนุน เช่น เสรีภาพ ความหลากหลาย และมนุษยธรรม” แพคเกอร์กล่าว “แนวคิดนี้เป็นรากฐานของแผนมาร์แชลของแฮร์รี ทรูแมนเพื่อฟื้นฟูยุโรปหลังสงคราม การก่อตั้งองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) โดยจอห์น เอฟ. เคนเนดี โครงการผู้ลี้ภัยของสหรัฐฯ โดยจิมมี คาร์เตอร์ และโครงการฉุกเฉินเพื่อบรรเทาโรคเอดส์ของจอร์จ ดับเบิลยู. บุช… โครงการเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ความโกลาหลและความทุกข์ยากแผ่ขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ซึ่งในที่สุดอาจย้อนกลับมาทำร้ายเราเอง สิ่งเหล่านี้ขยายอิทธิพลของอเมริกาผ่านการดึงดูดใจ แทนที่จะเป็นการบีบบังคับ”
แต่โดนัลด์ ทรัมป์ได้ทรยศต่อกลยุทธ์ที่มีมายาวนานนี้ เขาได้แสดงให้เห็นว่าอำนาจบีบบังคับมีลักษณะอย่างไร ผ่านข้อเรียกร้องและมาตรการภาษีต่อแคนาดาและเม็กซิโก การข่มขู่กรีนแลนด์ และการรื้อทำลาย USAID เขาและอีลอน มัสก์กำลังนำอเมริกากลับไปสู่ปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อระบบข้าราชการพลเรือนเป็นเพียงเครือข่ายผลประโยชน์ส่วนตัว
“การบีบบังคับยังอาศัยความสิ้นคิดและความไม่ใส่ใจของชาวอเมริกัน” แพคเกอร์เขียนไว้ คำสั่งบริหารที่ถาโถมของทรัมป์และการโจมตีรัฐบาลกลางของมัสก์มีเป้าหมายเพื่อสร้างความโกลาหล “สาธารณชนที่ไม่ใส่ใจอาจมองเห็นเพียงความชุลมุนในวอชิงตัน… หากสหรัฐฯ เริ่มปฏิบัติตัวเหมือนอำนาจจักรวรรดิในอดีต หรือเหมือนคู่แข่งของเราในปัจจุบัน โดยไม่ถึงขั้นทำสงคราม คนอเมริกันสักกี่คนจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของพวกเขาเอง?”
แม้ว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยกับความช่วยเหลือจากต่างประเทศโดยทั่วไป แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการเชื่อว่ารัฐบาลของตนกำลังพรากยาและอาหารที่ช่วยชีวิตไปจากผู้อื่น หรือหักหลังชาวอัฟกันที่เคยเสียสละเพื่อประเทศนี้
“ความมีน้ำใจโดยธรรมชาตินี้อธิบายว่าทำไมทรัมป์และมัสก์ต้องพยายามอย่างหนักในการอัดฉีดข้อมูลเท็จลงอินเทอร์เน็ต และปกปิดผลกระทบของความโหดร้ายที่พวกเขาก่อขึ้น” แพคเกอร์กล่าวต่อ “อุปสรรคเดียวที่ขวางทางการสิ้นสุดอำนาจละมุนของอเมริกา ไม่ใช่สภาคองเกรส ระบบราชการ หรือศาล แต่เป็นความคิดเห็นของประชาชน”
https://www.theatlantic.com/.../trump-maga.../681735/...
https://www.facebook.com/photo/?fbid=9710287602335770&set=a.101947549836538
·
โดนัลด์ ทรัมป์ และอีลอน มัสก์กำลังรื้อทำลายอำนาจละมุน (soft power) ของอเมริกา เพื่อหันไปใช้แนวทาง “ผู้ที่แข็งแกร่งคือผู้ที่ถูกต้อง” จอร์จ แพคเกอร์ นักข่าว The Atlantic เขียน
“ประธานาธิบดีทุกคนตั้งแต่แฟรงกลิน ดี. รูสเวลต์ถึงบารัค โอบามาตระหนักว่าอำนาจของอเมริกาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่ถูกคุกคาม หากยึดโยงกับพันธมิตร สถาบัน และค่านิยมที่ชาวอเมริกันสนับสนุน เช่น เสรีภาพ ความหลากหลาย และมนุษยธรรม” แพคเกอร์กล่าว “แนวคิดนี้เป็นรากฐานของแผนมาร์แชลของแฮร์รี ทรูแมนเพื่อฟื้นฟูยุโรปหลังสงคราม การก่อตั้งองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) โดยจอห์น เอฟ. เคนเนดี โครงการผู้ลี้ภัยของสหรัฐฯ โดยจิมมี คาร์เตอร์ และโครงการฉุกเฉินเพื่อบรรเทาโรคเอดส์ของจอร์จ ดับเบิลยู. บุช… โครงการเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ความโกลาหลและความทุกข์ยากแผ่ขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ซึ่งในที่สุดอาจย้อนกลับมาทำร้ายเราเอง สิ่งเหล่านี้ขยายอิทธิพลของอเมริกาผ่านการดึงดูดใจ แทนที่จะเป็นการบีบบังคับ”
แต่โดนัลด์ ทรัมป์ได้ทรยศต่อกลยุทธ์ที่มีมายาวนานนี้ เขาได้แสดงให้เห็นว่าอำนาจบีบบังคับมีลักษณะอย่างไร ผ่านข้อเรียกร้องและมาตรการภาษีต่อแคนาดาและเม็กซิโก การข่มขู่กรีนแลนด์ และการรื้อทำลาย USAID เขาและอีลอน มัสก์กำลังนำอเมริกากลับไปสู่ปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อระบบข้าราชการพลเรือนเป็นเพียงเครือข่ายผลประโยชน์ส่วนตัว
“การบีบบังคับยังอาศัยความสิ้นคิดและความไม่ใส่ใจของชาวอเมริกัน” แพคเกอร์เขียนไว้ คำสั่งบริหารที่ถาโถมของทรัมป์และการโจมตีรัฐบาลกลางของมัสก์มีเป้าหมายเพื่อสร้างความโกลาหล “สาธารณชนที่ไม่ใส่ใจอาจมองเห็นเพียงความชุลมุนในวอชิงตัน… หากสหรัฐฯ เริ่มปฏิบัติตัวเหมือนอำนาจจักรวรรดิในอดีต หรือเหมือนคู่แข่งของเราในปัจจุบัน โดยไม่ถึงขั้นทำสงคราม คนอเมริกันสักกี่คนจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของพวกเขาเอง?”
แม้ว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยกับความช่วยเหลือจากต่างประเทศโดยทั่วไป แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการเชื่อว่ารัฐบาลของตนกำลังพรากยาและอาหารที่ช่วยชีวิตไปจากผู้อื่น หรือหักหลังชาวอัฟกันที่เคยเสียสละเพื่อประเทศนี้
“ความมีน้ำใจโดยธรรมชาตินี้อธิบายว่าทำไมทรัมป์และมัสก์ต้องพยายามอย่างหนักในการอัดฉีดข้อมูลเท็จลงอินเทอร์เน็ต และปกปิดผลกระทบของความโหดร้ายที่พวกเขาก่อขึ้น” แพคเกอร์กล่าวต่อ “อุปสรรคเดียวที่ขวางทางการสิ้นสุดอำนาจละมุนของอเมริกา ไม่ใช่สภาคองเกรส ระบบราชการ หรือศาล แต่เป็นความคิดเห็นของประชาชน”
https://www.theatlantic.com/.../trump-maga.../681735/...
https://www.facebook.com/photo/?fbid=9710287602335770&set=a.101947549836538
