‘พรรคอนาคตใหม่’ เปิดแล้วเต็มๆ ตัวจริงเสียงจริงๆ จดทะเบียนเป็นอันดับที่ ๕๘ พรรคการเมืองของนักกิจกรรม
(ดูจากผู้ร่วมก่อตั้งส่วนใหญ่ใน ๒๖ คน) ที่รู้กันมาพักใหญ่แล้วว่า ‘ไม่เฉพาะกิจ’
และจะเห็นกันต่อไปว่า “ไม่ใช่พรรคทางเลือก”
ดังที่หนึ่งในแกนสำคัญประกาศไว้ในวันกินกาแฟร่วมกับสื่อมวลชนและผู้สนับสนุน แต่
(ชวนแล้ว) ทหารจะไม่ได้มา
นอกจากธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร
แสงกนกกุล คณะผู้ร่วมก่อตั้งส่วนใหญ่เป็น ‘มิลเล็นเนียลส์’
และนักกิจกรรม ได้แก่ น.ส.นลัทพร ไกรฤกษ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซ้ท์คนพิการ
‘ThisAble.me’ กฤตนัน ดิษฐบรรจง แกนนำกลุ่มเยาวชนอาสา
กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ นักวิชาการอิสระ ไกลก้อง ไวทยากร
ผู้ปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยี่เพื่อพัฒนาสังคม ธารารัตน์ ปัญญา
นักปกป้องสิทธิผู้หญิง เคท ครั้งพิบูลย์ นักปกป้องสิทธิทางเพศหลากหลาย ฟารีต ดามาเราะ
ประธานสมาคมนิสิตนักศึกษามุสลิม และสุรินทร์ คำสุข ประธานสหภาพแรงงานสิ่งพิมพ์บรรจุภัณฑ์
เป็นอาทิ
จะมีก็แต่ชำนาญ จันทร์เรือง
นักวิชาการรัฐศาสตร์ผู้รณรงค์การปกครองตนเองของท้องถิ่น และเป็นผู้ยกร่างระเบียบบริหารราชการเชียงใหม่มหานคร
ที่ถูกนักข่าวถามกันมากว่ารู้สึกอย่างไรกับการเป็นผู้ร่วมก่อตั้งที่มีอายุมากที่สุด
เขาตอบด้วยแฮ้ชแท็กว่า #การเป็นคนแก่นั้นไม่ได้เป็นกันง่ายๆนะครับ
อีกคนที่ไปร่วมงานอย่างคลุกวงใน
แต่ไม่มีบทบาทอย่างเป็นทางการในการจัดตั้ง คือ พริษฐ์ ชีวารักษ์ นักศึกษารัฐศาสตร์ที่สอนวิชาการเมืองประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนให้แก่
คสช. ไว้เยอะ ‘เท่าไหร่ไม่จำ’ คนนี้มิลเล็นเนียลวัยต้นเลยทีเดียว
ถ้อยแถลงของสองแกนนำได้อารมณ์ประชาธิปไตยเต็มๆ
เหมือนกัน และไม่สุ่มเสี่ยงต่อวุฒิภาวะของโฆษก คสช. ที่ขู่ไว้ว่าจะแจ้งความดำเนินคดี
ถ้าเห็นว่าเป็นการทำกิจกรรมทางการเมืองอันผิดคำสั่ง คสช. ที่ ๓/๒๕๕๘ และแน่ๆ น่าจะ
‘หอมปากหอมคอ’ พอที่
พ.อ.วินธัย สุวารี จะรับได้
ธนาธรบอกว่า “พรรคอนาคตใหม่ไม่ใช่พรรคของผมหรือเฉพาะนายปิยบุตร
แต่เป็นพรรคของประชาชนทุกคน ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในระบอบประชาธิปไตย โดยสมาชิกพรรคจะมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกคนลงสมัครรับเลือกตั้งไปจนถึงการทำนโยบาย
ยืนยันพรรคนี้จะไม่เติบโตด้วยเงินในกระเป๋าของผม
แต่จะระดมทุนจากประชาชน และจะใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือระดมทุน”
และในอนาคตพรรคนี้จะไม่ใช่พรรคทางเลือกอีกต่อไป “แต่จะเป็นพรรคหลักในการนำพาประเทศเดินหน้า”
โดยถือว่าทุกพรรคเป็นคู่แข่งเพื่อเรียกคะแนนเสียงจากประชาชน
โดยเขาจะวิพากษ์วิจารณ์และต่อต้านพรรคการเมืองใดที่ล้ำเส้นไปเกินจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรค
อีกทั้งถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นภายในพรรคเอง เขาพร้อมจะลาออกทันที
จุดยืนอันหนึ่งก็คือ ไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนนอก แน่นอน
ทางด้านปิยบุตรนั้นเปิดเผยว่าตัดขาดจาก ‘อาชีพ’ นักวิชาการแล้วเข้าสู่ ‘งาน’ นักการเมืองเต็มตัว “เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
และกลับไปสู่การเป็นประชาธิปไตย...เปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมืองใหม่
มุ่งเน้นการกระจายอำนาจ การเมืองไทยจะเป็นแบบคิดแล้วต้องลงมือทำ
ให้ทุกคนมีโอกาสในระบบเศรษฐกิจที่เท่าเทียม”
หนีไม่พ้นที่ผู้สื่อข่าวต้องถามถึงการเป็นหนึ่งในกลุ่มนักกฎหมายคณะนิติราษฎร์
ที่เคยเสนอหลักการสกัดกั้นการรัฐประหาร และแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ม.๑๑๒
ซึ่ง อจ.ปิยบุตร ชี้แจงว่าคณะนิติราษฎร์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เลยกับพรรคอนาคตใหม่
แต่หลักการแก้ไข ม.๑๑๒
นั้นยืนอยู่บนพื้นฐานของนิติรัฐและประชาธิปไตย เนื่องจากกฎหมายนี้ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทำลายกันทางการเมือง
จนถึงวันนี้มีหลายกรณีที่บ่งชี้ว่าต้องมีการปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว แต่จะมาเป็นนโยบายของพรรคหรือไม่ขึ้นอยู่กับการเห็นพ้องต้องกันของสมาชิกพรรคทุกคน
นับเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองอันสำคัญแห่งทศวรรษก็ว่าได้
ในการเกิดของพรรคการเมืองเพื่อ ‘อนาคตใหม่’ ของประเทศ ที่ระบุไว้ในคำประกาศจัดตั้งว่า “จะทำให้ประชาชนมีโอกาสทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียม
พัฒนาคุณภาพชีวิต เข้าถึงทุนและทรัพยากร...
พัฒนาสวัสดิการที่รองรับการเกิดแก่เจ็บตายให้แก่ทุกคนอย่างถ้วนหน้า...จะทำประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง
เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้...มุ่งหมายทำงานการเมืองระยะยาว
เพื่อผลักดันความคิดและนโยบายให้เกิดผล โดยประชาชนเป็นเจ้าของพรรคร่วมกัน”
มีผู้สื่อข่าวสองสามรายทวี้ตความหมายของภาพโลโก้พรรคอนาคตใหม่ว่า
คือ “ปุ่ม Forward ลูกศรชี้ไปข้างหน้า” อันสืบเนื่องมาจากชื่อภาษาอังกฤษของพรรคที่ใช้
Future Forward Party ตัวย่อ ‘FFP’ (thapanee
ietsrichai @thapanee3miti)
และ “ปุ่ม forward
ความหมายถึง 'อนาคต' สะท้อนความหวังที่เราจะเคลื่อนไปข้างหน้าก้าวพ้นไปจากทศวรรษที่สูญหาย
สู่ประเทศไทยที่มีอนาคต ส่วนสีของพรรค ถูกแทนด้วย 'สีส้ม'
คือสีแห่งรุ่งอรุณของวันใหม่ วันที่เราตื่นขึ้นมาด้วยความหวัง” (Weeranan
VoiceTV21 @weeranan)
ด้าน Pannika Wanich @pannikawanich 4h4 hours ago ทวี้ตว่า “ธนาธร-ปิยบุตร
ตอบคำถามเรื่องสี-โลโก้ #พรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่าใช้สีส้มเพราะเป็นสีของรุ่งอรุณ
สีสดใส สีของความหวัง
ส่วนโลโก้เป็นสามเหลียมหัวกลับแสดงว่าประชาชนซึ่งเป็นฐานของประเทศ
ต้องอยู่เหนือผู้นำ เหนือนักการเมือง และยังสื่อถึงลูกศร และปุ่ม forward ที่มุ่งไปข้างหน้า เป็นอนาคต”
การจราจรบนทวิตเตอร์สองวันมานี้คึกคักด้วยเรื่องการประกาศจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่
นัยว่าเป็นเทร็นด์อันดับหนึ่งในขณะนี้ เช่นเดียวกับ #แฮ้ชแท็ก อันดับหนึ่งด้วย
ถึงกระนั้นก็ดี Deep Blue Sea @WassanaNanuam รายงานว่า “บิ๊กป้อมบอก ‘ธนาธร’ คิดได้คิดไป เสนอเลิกคำสั่ง คสช.-ปลดล๊อค
แต่จะทำหรือไม่เป็นเรื่องของ คสช.” เออ เอากะเฮียเขาสิ ให้มันแน่อย่างนี้
ขนาดต้องส่งรายงานสอบสวนให้ ปปช.วานนี้ยังทำเฉยเสียเลยได้ เล่นเอากรรมการป่วนกันทั้งคณะไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ข่าวว่าตอนนี้เสียงแตกเป็นครึ่งต่อครึ่ง ว่าจะเรียกไปให้ปากคำด้วยตัวเองเลย
หรือรอๆ ไปก่อนดีกว่า เดี๋ยวเฮียเค้าโกรธเอา
มันกว่านั้น พี้คซะไม่มี ทวี้ตของ The Kim in the North @Mnakinism
ไม่กี่ชั่วโมงมานี้ บ่นเป็นหมีกินผึ้ง “เราจะโยงทักษิณยังไงดีครับ”
“ชั้นจะไปรู้เรอะ พวกเธอไปคิดกันมา” เชื่อมั้ย
ออเจ้าตูบเค้าต้องพูดแบบนี้