วันพุธ, พฤศจิกายน 30, 2559

ปัญหาสังคมอำนาจนิยมในประเทศไตแลนเดีย





ปัญหาสังคมอำนาจนิยมในประเทศไตแลนเดีย เรื่องล่าสุด ‘ตึ๊บลูกนายพล’ เนี่ย ว่ากันตามเนื้อผ้า ฝ่ายเจ้าของร้านน่าจะต้องรับผิดชอบการกระทำ ‘เกินไป’ ของการ์ด

ถ้าว่ากันตามมาตรฐานแถวนี้ ผู้ทำหน้าที่รักษาความสงบภายในสถานบันเทิง หรือ bouncers เจอลูกค้าตีรวน หรือ rowdy มักจะแค่ลากตัวเอาออกไปจากสถานที่ ส่วนจะมีตึ๊บตั๊บกันหน้าบาร์ก็ต่อเมื่อลูกค้าฮึดฮัดฟัดเหวี่ยง

จากสภาพอาการฟกช้ำบนหน้าของนายเจมส์บอนด์ หรือ อิศราชนุวัฒน์ วรรคาวิสันต์ ลูกนายพลตรี ผบ. มทบ. ๓๘ ประจวบกับเรื่องราวแวดล้อมผู้ดำเนินกิจการร้านมาลินสกาย ‘บอล’ กฤษณะ อมิตรสูญ กับดาราสาว ‘อุ้ม’ ลักขณา





มีอะไรบางอย่างที่ทำให้น่าเห็นใจผู้บาดเจ็บ ไม่น้อยไปกว่าประเด็นที่ #มิตรสหายท่านหนึ่งตั้งข้อสังเกตุไว้

ที่ว่า “ลูกนายพลถูกกระทืบโวยวายใหญ่โต พลทหารถูกกระทืบตายคนโวยวายถูกฟ้อง”

กรณีหลังนี่ น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ใจเด็ด คนโวยวายที่ถูกฟ้อง ได้ยื่นฟ้องกลับตำรวจ ๘ นายที่ทำการจับกุมเธอในข้อหาหมิ่นประมาท ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามความผิดมาตรา ๑๕๗

(http://www.thairath.co.th/content/792811)





แต่กรณีแรก นายพลคนใหญ่คนโตของประเทศ “บิ๊กป้อมเตือน ‘บอล มาลินสกาย’ อย่า ‘ป๊อด’ กล่าวหาถูกทหารขู่ เพราะทีทำร้ายลูกทหารไม่คิด” Deep Blue Sea ‏@WassanaNanuam รายงาน

“เชื่อ ผบ.มทบ.๓๘ ไม่เอาคืน เตือน ‘บอล’ อย่ากลัว ชี้ขอ ตร.คุ้มกันได้ถ้าถูกขู่ แต่เชื่อทหารไม่ทำ เปรย ซ้อมลูกทหารแต่มากลัวถูกเอาคืน”

หลังจากนางสาวิกา ณ ตะกั่วทุ่ง มารดาของ ‘บอล กฤษณะ’ บอกกับรายการ ‘เรื่องเล่าเช้านี้’ ว่าลูกชายหวาดหวั่น รู้สึกไม่ปลอดภัย กลัวถูกคนร้ายอุ้มฆ่า เพราะเหมือนว่ามีคนคอยดักฟังและซุ่มดูความเคลื่อนไหวที่หน้าบ้าน

(http://www.dailynews.co.th/crime/539726)





ทว่าทั่นรองฯ ผู้ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็สั่งการให้ไล่เบี้ยสถานบันเทิงและกิจการโรงแรมทั้งเชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบว่าใครบ้างดำเนินการอย่างผิดกฎหมาย

เป็นที่มาทำให้รู้กันว่าโรงแรมเดอะคอร์ข้างร้านมาลินสกายที่นายกฤษณะอ้างว่าเป็นเจ้าของ แท้จริงไม่ใช่ของเขา และกรรมการบริหารบริษัทโฮมรีสอร์ทซึ่งเป็นเจ้าของ “ได้พิจารณายกเลิกสัญญาจ้างการบริหารจัดการโรงแรม และผู้บริหารโครงการต่างๆในเครือทั้งหมด” ต่อนายกฤษณะแล้ว

นอกเหนือจาก “วันที่ ๓๐ พ.ย. ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้อนุมัติหมายจับนายกฤษณะ อมิตรสูญ หรือบอล แฟนหนุ่มนักแสดงสาว ‘อุ้ม ลักขณา’ พร้อมพวกอีก ๓ คน” ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายลูกนายพล

(http://www.posttoday.com/local/north/467971)

อีกทั้งมีการขุดคุ้ยเบื้องหน้าเบื้องหลังเบื้องข้างของผุ้เกี่ยวข้องในคดี เอามาตีแผ่กันเต็มโซเชียลมีเดีย ทำให้ข้อต่อสู้ของนายกฤษณะอ้างว่าไม่ได้เป็นคนสั่งการให้การ์ดทำร้าย เพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ ฟังไม่ขึ้น

แม้แต่การตั้งโต๊ะแถลงข่าวแก้ต่างให้กับคนรัก โดยดาราสาว ‘อุ้ม’ ลักขณา กลับกลายเป็นเรื่อง ‘จัดฉาก’ ไปเสียฉิบ กระทั่งรายการ ‘ถามตรงๆ’ ของจอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ ก็ยังเสนอคำพูดของมารดาของผู้บาดเจ็บ ซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจต่ออิทธิพลของ ‘คนรวยและคนดัง’ เสียยิ่งกว่าอำนาจของทหาร

มิหนำซ้ำ ผู้ติดตามเฟชบุ๊คของ Atukkit Sawangsuk จะพบว่าเขากล่าวถึงโพสต์ของ ‘ลูกนายพลถูกรุมตึ๊บ’ เรื่องอยากเห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ “ทุกคนมีสิทธิมีเสียงเท่ากัน เลือกตั้งก็ได้ ๑ คะแนนเท่ากัน” ว่าเป็น “โพสต์ได้ใจไปเลย”

เขาเพิ่มเติมด้วยว่า “ไล่ดูโพสต์เก่าๆ ในเฟซแล้วน้องคนนี้มีหัวคิดนะครับ ไม่ใช่คอการเมืองหรอก แต่เป็นคนรุ่นใหม่ที่คิดกว้าง สนใจเรื่องลงทุน แต่มีสำนึกทางสังคม เคยโพสต์วิจารณ์พวกล่าแม่มดไว้ด้วย ช่วงที่มีการทำร้ายผู้หญิงสติไม่ดีบนรถเมล์”

(http://www.prachatai.com/journal/2016/11/69051)

แต่ก็นั่นแหละ ต้องแยกแยะกันให้ดี นี่ก็โผล่มาใหม่อีกราย เรื่องเล่าเช้านี้ ‏@MorningNewsTV3 เผยมีคลิป “หลานนายพลหญิง ถูกนศ.ต่างสถาบันทำร้ายน่วม อ้างฉุนถูกมองหน้า”

(#เรื่องเล่าเช้านี้ http://morning-news.bectero.com/social-cr…/30-Nov-2016/92336 …)

อย่าปล่อยให้กลายเป็นกระแสติดลม เพราะนี่คือปัญหาของสังคมอำนาจนิยม ดังที่กล่าวไว้ในตอนต้น คนรวย-คนดังใช้อำนาจเกินพิกัด ข่มเหง กลั่นแกล้ง ขณะที่คณะบุคคลทรงพลังช่วงชิงอำนาจครอบงำ กดขี่ และยึดครอง

ล้วนละเมิดด้วยกันทั้งนั้น ก่อให้เกิดผลร้ายต่อรายบุคคลและชาติพันธุ์ ต่างก็แต่ขอบข่าย เจ็บลึกและเจ็บนาน

จึงเฝ้าแต่หวังให้วัฒนธรรมของความมุ่งมั่นกับการได้เปรียบ-เสียเปรียบ จะเปิดทางให้กับจิตสำนึกแห่งความเสมอภาคเท่าเทียม ได้มีที่ยืนเด่นเคียงข้างกัน