....."ไก่อู" โต้ช่วยคนรายได้น้อยไม่ใช่ประชานิยม รัฐอยากให้ทุกคนมีความสุข ไม่หวังคะแนนเสียง https://t.co/m5QcuJFbep— Khaosod Online (@KhaosodOnline) November 24, 2016
ประชานิยม VS โปรยทาน
"นโยบายประชานิยมไม่เคยมีการแจกเงินให้ประชาชน แต่จะเป็นการให้โอกาสประชาชนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ นโยบายลดภาษีเงินได้บุคคล และนิติบุคคล หรือสิทธิ์พิเศษในการซื้อบ้านหลังแรก หรือรถยนต์ที่มีเป้าหมายในการตุ้นธุรกิจภาคอสังหาฯ หรืออุตสาหกรรม ซึ่งสุดท้ายสิ่งที่รัฐบาลได้จากนโยบายประชานิยมคือ รายได้จากภาษีสรรพสามิต VAT และการกระตุ้นเศรษฐกิจการลงทุน"
เข้าใจเรื่อง "ประชานิยม" เสียใหม่นะว่าแท้จริงคืออะไรกันแน่
ที่มา
Pittayapon Mew Tobbundit
ooo
เอาเข้าจริงการแจกเงินคนจนโฆษกของคสช. ที่อ้างว่าไม่เป็นประชานิยม เพราะเป็นการแจกเงินที่ไม่หว่านแห เพราะประชาชนที่ต้องการต้องมาลงทะเบียนคนจนถึงจะได้รับเงินนี้
พอพูดออกมาแบบนี้แม่งชัดเจนว่า คสช. มีสันดานเผด็จการไม่เคยเปลี่ยน และยังใช้อคติแบบเผด็จการในการบริหารประเทศ เช่นเรื่องการแจกเงิน ก็ต้องบังคับให้ประชาชนมาลงทะเบียนคนจน มาแสดงตัวเป็นผู้ที่ต้องการได้เงินที่เป็นภาษีประชาชนที่เผด็จการอ้างบุญคุณเอามาแจก แน่นอนว่านโยบายแบบนี้มันไม่ใช่ประชานิยมหรอก เพราะมันเป็นนโยบายที่มองประชาชนมีสิทธิ์ไม่เท่ากัน และไม่เป็นนโยบายที่มุ่งจะกดหัวประชาชนให้สำนึกในบุญคุณคสช.เท่านั้น โดยไม่ได้ให้ผลลัพธ์กระตุ้นเศรษฐกิจเลยแม้แต่น้อย เป็นการตำน้ำพริกละลายแม้น้ำ เพราะเงิน 3 พันบาทที่แจกนั้นมูลค่าถือว่าน้อยมาก และเงินจำนวนนี้สุดท้ายก็จะตกไปอยู่กับกลุ่มพ่อค้านายทุนค้าปลีก หรือเจ้าพ่อน้ำเมาหมด
ตรงข้ามนโยบายประชานิยม คือนโยบายของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย โดยมีพื้นฐานที่มองว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน นโยบายประชานิยมจึงมุ่งตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศโดยไม่สนว่าเป็นคนรวย หรือคนจน การรับสิทธิ์ก็ไม่ต้องมาลงทะเบียนแสดงตัวเองให้ยุ่งยาก แค่เป็นบุคคลที่เสียภาษี หรือรายได้ต่อปีเข้าข่ายในการรับสิทธิ์ก็สามารถได้รับประโยชน์จากโครงการประชานิยมแล้ว ซึ่งนโยบายประชานิยมไม่เคยมีการแจกเงินให้ประชาชน แต่จะเป็นการให้โอกาสประชาชนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ นโยบายลดภาษีเงินได้บุคคล และนิติบุคคล หรือสิทธิ์พิเศษในการซื้อบ้านหลังแรก หรือรถยนต์ที่มีเป้าหมายในการตุ้นธุรกิจภาคอสังหาฯ หรืออุตสาหกรรม ซึ่งสุดท้ายสิ่งที่รัฐบาลได้จากนโยบายประชานิยมคือ รายได้จากภาษีสรรพสามิต VAT และการกระตุ้นเศรษฐกิจการลงทุน
ความแตกต่างของนโยบายประชานิยม กับประชารัฐ จึงไม่ได้เป็นตามที่ไอ้โฆษกคสช. ปัญญาอ่อนพูด แต่มันต่างกันตรงที่ว่าประชานิยม ทำบนพื้นฐานความเป็นประชาธิปไตย เป็นนโยบายเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และทำให้ประชาชนมีโอกาศเข้าถึงแหล่งทรัพยากรโดยไม่ต้องพึ่งพานายทุน หรือชนชั้นสูง แต่ประชารัฐ เป็นนโยบายที่ทำบนพื้นฐานความเป็นเผด็จการ ที่เป้าหมายสุดท้ายคือการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มธนาคาร นายทุนเผด็จการ และไม่ได้มองว่าประชาชนมีสิทธิเท่าเทียมกัน แต่กลับมองว่าประชาชนบางส่วนไม่สิทธิไม่เท่ากัน และต้องออกมาแสดงตัวสำนึกบุญคุณของคสช. เสียก่อนถึงจะได้รับประโยชน์จากโครงการประชารัฐ
ที่มา
Wasu Khamhom